เตือนภัย! หนุ่มแสบ หลอกเปิดรับจองวัตถุมงคลหลวงพ่อรวย ผู้เสียหายหลงเชื่อกว่าร้อยราย

สังคม

เตือนภัย! หนุ่มแสบ หลอกเปิดรับจองวัตถุมงคลหลวงพ่อรวย ผู้เสียหายหลงเชื่อกว่าร้อยราย

โดย weerawit_c

12 มิ.ย. 2564

766 views

กาญจนบุรี - นายวิริทธิ์พล อินชะนีย์ อายุ 25 ปี หนุ่มผู้เปิดรับจองวัตถุมงคลหลวงพ่อรวย วัดตะโก เป็นตัวแทนผู้เสียหาย จำนวน 90 ราย เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากถูกผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Amorntep Sawatdee' หลอกเปิดรับจองวัตถุมงคลของหลวงพ่อรวย วัดตะโก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เมื่อได้รับเงินแล้ว กลับปิดเฟซบุ๊กหนี ไม่ยอมส่งมอบวัตถุมงคลให้กับผู้ที่สั่งจองและโอนเงินเข้าไปให้


นายวิริทธิ์พล ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเอง เป็นผู้ที่ชื่นชอบในวัตถุมงคลของหลวงพ่อรวย วัดตะโก ได้เริ่มสะสมวัตถุมงคล พร้อมเปิดจำหน่ายให้เช่า วัตถุมงคลหลวงพ่อรวยมาเป็นเวลากว่า 3 ปี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมามีผู้ให้ความเชื่อถือเข้ามา สั่งจองเช่าบูชาวัตถุมงคลกับตนมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จนได้รู้จักกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Amorntep Sawatdee' จากกลุ่มเฟซบุ๊ก วัตถุมงคลหลวงพ่อรวยวัดตะโก


โดยนายอมรเทพ อ้างตัวว่าเป็นลูกศิษย์ที่เคยบวชเรียนอยู่ที่วัดตะโก และสามารถจองวัตถุมงคลหลวงพ่อรวยวัดตะโก รุ่นรวย 99 ปี 2563 ได้ในราคาที่ถูกกว่าที่อื่น ผู้เสียหาย ได้ทำการตรวจเช็คประวัติของนายอมรเทพและเห็นเครดิตมีผู้เคยสั่งซื้อวัตถุมงคลหลวงพ่อรวยกับนายอมรเทพมาแล้วหลายครั้ง จึงได้หลงเชื่อ และ ชักชวน เพื่อนดวงถึงคนรู้จักหลายคนที่มีความต้องการจะเช่าวัตถุมงคลหลวงพ่อรวย รุ่นรวย 99 ปี 2563 เพื่อจะ สั่งจองวัตถุมงคลกับทางนายอมรเทพ และได้มีการโอนเงินให้กับนายอมรเทพเป็นค่าวัตถุมงคลรวม 79 ครั้ง เป็นเงินรวม 902,000 บาท แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายรับวัตถุมงคล วันที่ 16 มีนาคม 2564 ผู้เสียหายได้เดินทางไปรอรับวัตถุมงคลที่วัดตะโก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อจะรับวัตถุมงคลจากนายอมรเทพ แต่ปรากฏว่านายอมรเทพไม่ได้นำเอาวัตถุมงคลมาให้ตามที่ได้สัญญากันเอาไว้


เมื่อผู้เสียหายพยายามติดต่อ ก็ไม่สามารถติดต่อกับนายอมรเทพได้อีก ทางผู้เสียหาย จึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 พร้อมกับนำภาพการเข้าแจ้งความไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ทำให้นายอมรเทพ ติดต่อกลับมาหาและเดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่สถานีตำรวจภูธรท่ามะกา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 โดยนายอมรเทพยอมรับว่าได้นำเงินที่ได้รับโอนจากผู้เสียหายจำนวน 902,000 บาท ไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมด จึงไม่สามารถ หาวัตถุมงคลมาให้กับผู้เสียหายได้ตามที่สัญญาไว้ โดยนายอมรเทพ ได้ลงบันทึกเป็นหลักฐานต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายในงวดแรกจำนวน 550,000 บาท และจะผ่อนชำระให้จนครบจำนวนวงเงินความเสียหายทั้งหมด


แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายชำระเงินนายอมรเทพกลับไม่ได้ชำระเงินให้ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้ และได้ปิดเฟซบุ๊ก หนีขาดการติดต่อกับผู้เสียหายไปทันที ทำให้นายวิริทธิ์พล ผู้เสียหาย ต้องรับภาระหาเงินมาใช้คืนให้กับผู้ที่ร่วมโอนเงินจองวัตถุมงคลเข้ามากับนายวิริทธิ์พล โดยนายวิริทธิ์พล ต้องนำทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งทองรูปพรรณไปขาย นำรถไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อหาเงินมาชดใช้ให้กับกลุ่มผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินมาร่วมจองวัตถุมงคล โดยชดใช้ไปแล้วกว่า 6 แสนบาท ยังคงเหลือที่ยังชดใช้ไม่ครบถ้วนอีกเกือบ 4 แสนบาท


ขณะที่ในส่วนของคดีความเอง ก็ยังไม่คืบหน้า ทางนายวิริทธิ์พล ผู้เสียหาย จึงเดินทางมาทวงถามความคืบหน้าคดีกับทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา โดยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมออกหมายเรียก นายอมรเทพ ซึ่งมีภูมิลำเนาปรีชาจังหวัดสระบุรี ให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา แต่หากในอมรเทพไม่มาเข้าพบพนักงานสอบสวนก็จะได้ดำเนินการออกหมายจับ ในข้อหาฉ้อโกงผู้อื่น และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ต่อไป


นายวิริทธิ์พล ผู้เสียหาย ได้กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับตนเองเป็นอย่างมาก เงินและทรัพย์สินที่เคยเก็บสะสมจากการทำธุรกิจเช่าพระเครื่องมาเป็นเวลากว่า 3 ปี ต้องหมดไปภายในเวลาไม่ถึงเดือน จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามตัวนายอมรเทพ หนุ่มแสบที่เปิดเฟซบุ๊ก บอกรับจองวัตถุมงคลรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพื่อจะได้ไม่มีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมากับตนเองอีก พร้อมกันนี้ นายวิริทธิ์พล ยังได้ฝากถึงผู้ที่ชื่นชอบและสะสมวัตถุมงคลต่างๆ อย่าได้หลงเชื่อโอนเงินให้กับผู้เปิดรับจองจนกว่าจะได้เห็นวัตถุมงคลกับตา ก็อาจจะถูกหลอกเหมือนอย่างเช่นกรณีของตนเองได้

คุณอาจสนใจ

Related News