วันนี้ (11 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวเดินทางมายัง ประตูระบายน้ำคลอง 20  ม.6 ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อพูดคุยกับผู้ใหญ่ ชำนาญ แก่นทองแดง หลังมีกระแสดราม่าการปั้นศิวลึงค์ขนาดใหญ่ ทาสีอยู่บนถนนหน้าประตูระบายน้ำ

นายชำนาญ กล่าวว่า สิ่งที่ชาวบ้านทำขึ้นมาเป็นความเชื่อทางประเพณีในท้องถิ่นที่เคยทำกันมาแต่โบราณนับแต่ในอดีตหลายชั่วอายุคน เนื่องจากชาวบ้านใน ต.โยธะกา มีอาชีพทำนาเป็นหลัก โดยมีผืนนาทั้งตำบลหลายหมื่นไร่ที่ต้นข้าวยืนต้นรอฝนที่ขาดทิ้งช่วงไป จึงนำดินเหนียวแดงมาปั้นศิวลึงค์เพื่อขอฝน โดยทำกันเป็นประจำแต่ไม่ทุกปี โดยจะมีการปั้นเฉพาะในปีที่มีฝนน้อย หรือฝนไม่ตกตรงตามฤดูกาลที่ชาวบ้านต้องการน้ำจะทำนา

นายชำนาญ กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกันกับการแห่นางแมว ซึ่งชาวบ้านก็เคยทำควบคู่กันมานับแต่ในอดีต แต่เมื่อแมวถูกสาดน้ำ ชาวบ้านก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นทรมานสัตว์ ต่อมาในระยะหลังจึงได้เลิกแห่นางแมวกันไปนานหลายปีแล้ว

ส่วนการปั้นศิวลึงค์ถือว่าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เพราะตรงจุดที่สร้างหรือปั้นขึ้นมาบนกลางถนนนั้น เป็นเส้นทางตันมุ่งหน้าลงสู่ลำคลองเพื่อเข้าไปยังที่บริเวณประตูระบายน้ำคลอง 20 ขวางกั้นคลองบางไทร และไม่มีรถสัญจรผ่าน ไม่ได้เป็นอย่างที่โซเชียลวิจารณ์ว่าสร้างขวางถนนแล้วจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ

แต่เป็นการป้องกันอุบัติเหตุมากกว่า เนื่องจากเคยมีอุบัติเหตุจากคนที่ไม่รู้ทางขับรถเข้ามาตกลงไปในคลองบริเวณนี้มาแล้ว จึงอยากขอวอนให้หยุดดราม่าทางโซเชียล เพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งในออนไลน์มีทั้งคนที่คิดดีและคิดในเชิงลบ และเมื่อก่อนชาวบ้านก็เคยปั้นกันมาแบบนี้ แต่ไม่มีโซเชียลจึงไม่มีปัญหาอะไร

ขณะที่นายวิชัย สิงหนาท เปิดเผยว่า ตนเองเป็นช่างปั้นรูปนี้ขึ้นมาตั้งแต่ยังเด็กๆ โดยการหาดินเหนียวในพื้นที่ นำมาปั้น โดยการปั้นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว จะปั้นเฉพาะปีไหนที่ฝนแล้ง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ก็จะมาช่วยกันขุดดินเพื่อปั้นศิวลึงค์นี้ โดยเลขที่ปรากฏด้านหลังศิวลึงค์ นั้นเป็นขนาดความสูงและความกว้าง

ตนเองไม่ได้ใบ้หวยแต่อย่างใด โดยจะทำการรื้อถอนออก หลังฝนตก ซึ่งบางปี ไม่ได้รื้อออก เพราะฝนตกหนักมาก ละลายดินเหนียวที่ปั้นอยู่ออกจนหมด ซึ่งเรื่องนี้เป็นความเชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ ที่เชื่อว่าหากปั้นรูปแล้ว นำธูปมาจุด 16 ดอก ทำพิธีขอ ก็จะทำให้ฝนตกในพื้นที่ ล่าสุดหลังจากปั้นศิวลึงค์นี้แล้วเมื่อวานฝนก็ตกลงมา