วันที่ 31 พ.ค. 64 รายการโหนกระแส พูดคุยกับครอบครัวของน้องฟลุ๊ค อายุ 14 ปี ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจขี่จักรยานยนต์ตาม พร้อมพูดคุยกับ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ผู้ตรวจการอัยการ และสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.

แม่ของน้องฟลุ๊ค เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ 24 พ.ค. ยังไม่ทราบว่าลูกเสียชีวิต ทราบข่าวจากครอบครัวเพื่อนสนิทที่ประสบอุบัติเหตุร่วมกับฟลุ๊ค ก่อนเกิดเหตุลูกมาขอเงิน 40 บาท และขอรถจักรยานยนต์ของตนออกไปข้างนอกกับเพื่อน โดยนั่งซ้อนสามและไม่ได้สวมหมวกกันน็อค

ด้านพ่อของน้องฟลุ๊ค เล่าเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตอนตีสอง แต่ตนเพิ่งมารู้จากครอบครัวของเพื่อนลูกชายตอนประมาณบ่ายสอง จึงขี่จักรยานยนต์ตามหาลูก ถามตำรวจในป้อมว่ามีเหตุหรือไม่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มี ให้ประสานไปรถมูลนิธิเอง เมื่อประสานไปทราบว่าลูกอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จึงขี่รถไปดูและพบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว อีกทั้งยังมีบาดแผลจากการประสบอุบัติเหตุ

นายปราโมทย์ ลุงของน้องฟลุ๊ค เล่าว่า พอทราบว่าหลานเสียชีวิตแล้วจึงดำเนินเรื่องกล้องวงจรปิดกันเอง ตอนนี้ก็ยังติดใจการกระทำของตำรวจว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ พร้อมตั้งคำถามว่าหากเหตุการณ์นี้เกิดกับครอบครัวของเจ้าหน้าที่เองจะทำอย่างไร หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่นำศพหลานไปผ่าพิสูจน์ทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ปกครองได้อย่างไร เพื่อนของฟลุ๊คที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันเจ้าหน้าที่ขับรถเกี่ยวจนรถล้ม ส่วนเรื่องที่ตำรวจแจ้งว่าพบกัญชาที่รถนั้นไม่ทราบว่าเป็นของใคร

ด้านนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ผู้ตรวจการอัยการ ตั้งคำถามว่า วิธีการจับกุมควรมีมาตรการที่ดีกว่านี้หรือไม่ ต้องดูรถตำรวจด้วยว่ามีบาดแผลตรงไหน ถึงอธิบายได้ว่าเป็นอย่างไร

ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว กรณีที่แจ้งว่าศพไม่มีญาติ คาดว่าเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน จากการตรวจสอบพบระบุว่า เป็นชายไทยไม่มีรายชื่อ ซึ่งเป็นตามขั้นตอน ส่วนวัตถุคล้ายกัญชา กำลังส่งไปตรวจ หากพบเป็นยาเสพติดต้องแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป และใครเป็นเจ้าของ ส่วนกล้องวงจรปิดตอนนี้อยู่ในสำนวนการสืบสวนเรียบร้อยแล้ว