จากกรณีมีผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดอู่ซ่อมรถยนต์มือสองอยู่ที่หนองจอก ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีคนเข้าลักลอบเข้าไปขโมยของในอู่มากกว่า 20 ครั้ง เอาเรื่องเข้าแจ้งความพร้อมด้วยหลักฐานกล้องวงจรปิดแต่คดีไม่คืบ

นายดาวูด สูขไสว เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า บ้านของตนเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์อยู่บริเวณผดุงพัน ซอย 23 เขตหนองจอก เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาตนสังเกตุได้ว่า อู่ของตนมีสิ่งของหายไปหลายครั้ง เช่น ล้อแม็กรถยนต์, จอดีวีดีติดรถยนต์, เครื่องมือช่าง, แบตรถยนต์ ฯลฯ

ตนจึงทำการติดตั้งกล้องวงจรปิด ไม่กี่วันต่อมาหลังจากเปิดกล้องวงจรปิดพบว่า หัวขโมยรายนี้เป็นคนภายในหมู่บ้านแถม 4 วันที่ผ่านมาได้ลักลอบเข้ามาขโมยของทุกวัน ในช่วงเวลาตีสี่ถึงตีสีครึ่ง ทำให้ตนมั่นใจได้ว่าของในอู่ที่หายไปต้องเป็นหัวขโมยคนเดียวกัน ตนจึงเก็บรวบรวมหลักฐานและเช็คอุปกรณ์ภายร้านพบว่าอุปกรณ์หายไป 20 รายการ รวมเป็นมูลค่าร่วม 50,000 บาท จึงรีบนำหลักฐานเข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจหนองจอก

แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับพูดทำนองว่า ถ้าจับคนร้ายได้กลัวคนร้ายรายนี้จะเข้าคุกไปติดโควิด-19 ทำให้ตนไม่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามคนร้ายให้ตนได้หรือไม่ ตอนนี้ตนอยู่กับครอบครัวอย่างหวาดระแวง เพราะจากภาพกล้องวงจรปิดพบว่าหัวขโมยรายนี้พกอาวุธมีดมาด้วยทุกครั้ง

ต่อมา พันตำรวจเอกประเสริฐ สอนแจ่ม ผู้กำกับการ สน. หนองจอก ระบุว่า เบื้องต้น เพิ่งได้ทราบเรื่องจากทางทีมข่าวช่อง 3 และยังไม่ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแต่ต่อจากนี้จะเร่งกำชับให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุด ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจในตำรวจ

ขณะที่ระหว่างการพูดคุยกับทีมข่าวช่อง 3 ได้มีตำรวจฝ่ายสอบสวนเจ้าของคดีติดต่อประสานงานมาถึงผู้เสียหายพร้อมระบุว่า ทำไมถึงมีการให้ข่าวในลักษณะนี้ เพราะทำให้ผู้บังคับบัญชาตำหนิมายังตนเองเมื่อผู้เสียหายอธิบายและสอบถามความคืบหน้าก็ได้รับคำตอบว่า เดี๋ยวจะมีฝ่ายสืบสวนลงมาประสานงานอีกครั้ง ก่อนจะวางสายไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/li6CvRRZhRE