จากกรณี นายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 53 ปี ชาวอำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ หายตัวปริศนาไปตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรน่า สีขาว ต่อมาลูกสาว และญาติเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ลำทับ ให้ช่วยติดตาม แต่ผ่านไปกว่า 10 วัน ก็ยังไม่พบตัว ซึ่งทางญาติเชื่อว่า นายสุชาติ น่าจะถูกปองร้ายเสียชีวิต เพราะได้ไปตามทวงหนี้ 3 แสนบาท จากบังฟิต ที่ตำบลหนองทะเล

โดยมีเบาะแสล่าสุดเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่อู่ในตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ ที่นายสุชาติ เดินทางไปหา ช่างใหม่ เพื่อนสนิทเป็นเจ้าของอู่เพื่อรับไปทวงหนี้ด้วยกัน แต่เจ้าของอู่ไม่อยู่จึงเดินทางไปคนเดียวและหายตัวไปพร้อมกับรถยนต์

ต่อมาได้มีแชทลับ ซึ่งเป็นการพูดคุยกันระหว่างลูกสาวของนายสุชาติ กับผู้ที่ให้เบาะแส ระบุว่า นายสุชาติ ถูกฆ่าและฝังดินทั้งรถทั้งคนที่ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ โดยระบุว่ากลุ่มคนที่ลงมือทำ เป็นคนที่นายสุชาติ ไปเก็บเงิน เพราะเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ ค่อนข้างมีอิทธิพลเพราะรู้จักคนใหญ่คนโตในพื้นที่

คดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญเนื่องจากมีการให้ข้อมูลว่าผู้ต้องสงสัยเป็นผู้มีอิทธิพล และสนิทสนมกับตำรวจในพื้นที่หลายนาย ทางพลตำรวจตรีภิญโญ หวลกสินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จึงสั่งการให้ตั้งชุดเฉพาะกิจคลี่คลายคดีนี้ขึ้นมา ทำการสืบสวนสอบสวน โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดที่คาดว่านายสุชาติ เดินทางไปครั้งสุดท้าย รวมทั้งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง

จนกระทั่งเมื่อวานนี้ 13 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบที่บ้านของบังฟิต ผู้ต้องสงสัย อยู่ที่หมู่ 1 บ้านหนองแบก ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ ซึ่งเป็นร้านค้าขายของชำ หน้าบ้านเป็นลานรับซื้อเศษยาง พบว่าที่บ้านไม่มีคนอยู่ จึงกระจายกำลังเข้าไปตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ก่อนไปพบว่าในสวนปาล์มที่ห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร พบสภาพคล้ายกับมีการขุดหลุมและกลบใหม่ และยังพบว่าในปาล์มรอบๆ หลุม มีรอยคล้ายไฟไหม้ด้วย เจ้าหน้าที่จึงใช้รถแบคโฮมาขุดพิสูจน์

หลังขุดลงไปประมาณ 1 เมตร พบแผ่นเหล็กคล้ายกับหลังคารถ จากนั้นขุดลึกลงไป 2.5 เมตร ปรากฏว่าเป็นรถทั้งคัน ซึ่งสี ยี่ห้อ และทะเบียน ตรงกับรถของนายสุชาติ ที่หายตัวไป แต่ไม่พบตัวนายสุชาติ สันนิษฐานว่าจะถูกฆาตกรรม และอำพรางศพไว้ที่ใดที่หนึ่ง หลังจากพบรถยนต์ ลูกสาวพร้อมด้วยญาติๆ ได้เดินทางมาตรวจสอบ พอเห็นสภาพรถ ต่างก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ และยืนยันว่าเป็นรถของนายสุชาติที่ใช้อยู่ ก่อนจะหายตัวไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเดินหาหลักฐานเพิ่ม เพราะเชื่อว่านายสุชาติ น่าจะเสียชีวิตแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้พบถุงขนมและขวดน้ำดื่มริมเชิงเขาห่างจากบ้านบังฟิต ประมาณ 2 กิโลเมตร ตรวจสอบโดยรอบพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ และไปพบร่องรอยการขุดหลุมห่างจากจุดเจอปลอกกระสุนประมาณ 100 เมตร จึงได้ใช้จอบขุดลงไปดูก็พบศีรษะคน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขุดศพซึ่งอยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ในหลุม และพบขวดน้ำส้มฆ่ายาง หรือกรดน้ำส้มจำนวน 24 ขวด ถูกเทราดใส่ศพ ส่วนศพมีสภาพเริ่มเน่าเปื่อย และพบชิ้นส่วนของกางเกงสีแดง เลสข้อมือนายสุชาติ ที่ญาติจำได้ ซึ่งหลังเห็นศพถึงกับเป็นลม ร่ำไห้ไปตามกัน แพทย์ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีร่องรอยหัวกระสุนยิงเข้าที่ขมับซ้าย 1 นัด และที่หน้าอกซ้าย 1 นัด แต่ยังต้องนำไปชันสูตรตรวจดีเอ็นเอยืนยันกับทางญาติเพิ่มเติมอีกรอบหนึ่ง

สำหรับแนวทางการสอบสวนหลังจากพบศพ เบื้องต้นได้พนักงานสอบสวนไปขอหมายจับจากศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อติดตามจับกุมบังฟิต ที่น่าเชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุ และมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน ขณะนี้อยู่ระหว่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัว ส่วนสาเหตุคาดว่าจะขัดแย้งกันเรื่องธุรกิจ

หลังจากพบศพ เจ้าหน้าที่ได้เรียกสอบปากคำพ่อของบังฟิต ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดี พบว่าบังฟิตหายตัวออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากนายสุชาติไปพบและหายตัวไปจนมาเป็นศพ ขณะที่คนสนิทของนายสุชาติ ที่เป็นผู้ติดต่อบังฟิต ระบุว่า ชนวนเหตุของเรื่องนี้ มาจากกรณีที่นายสุชาติได้ให้บังฟิตยืมเงินจำนวน 3 แสนบาท จากการไปกู้ธนาคารมาให้ และได้โทรสอบถามเรื่อยมา จนล่าสุดก่อนวันที่ 3 พฤษภาคม นายสุชาติ ได้โทรไปขู่พ่อของบังฟิต ว่าหากไม่ยอมจ่ายเงินให้จะนำตำรวจไปจับ ทำให้บังฟิตแค้นใจมาก ได้ฝากบอกเพื่อนนายสุชาติว่า ตนจะไม่ยอมหากมาขู่พ่อของตน และในวันที่ 3 พฤษภาคม นายสุชาติ ก็เดินทางไปหาบังฟิตก่อนที่จะถูกฆ่าฝังดินดังกล่าว ไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา พลตำรวจตรีสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่บริเวณจุดฝังรถและฝังศพนายสุชาติ จากนั้นเดินทางไปยัง สภ.อ่าวนาง เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง โดยมีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และชุดคลี่คลายคดี โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง

ทั้งนี้จากการเปิดเผยของชุดสืบสวนระบุว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้มีด้วยกัน 5 คน ซึ่งเป็นพี่น้องกับนายสุริยาทั้งสิ้น รวมทั้งภรรยาด้วย ซึ่งขณะนี้กลุ่มที่หายไปคือ 3 พี่น้องซึ่งรวมถึงบังฟิตด้วย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ 3 พี่น้องที่คาดว่าร่วมกันก่อเหตุ

ขณะที่การสังหารนั้น เจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ทางนายสุชาติ ผู้ตาย ได้เดินทางมาที่บ้านของบังฟิตในวันเกิดเหตุ จากนั้นได้ถูกนำตัวไปยังสวนยางพาราจุดที่ถูกยิงเพื่อพูดคุยบางอย่างก่อนที่จะถูกยิง 2 นัด แล้วนำศพไปฝัง ส่วนรถยนต์เก๋งของนายสุชาติ บังฟิต ได้ไปว่าจ้างแบคโฮที่ทำงานล้มยางพาราอยู่ห่างจากบ้านไป 200 เมตร โดยพยานระบุว่าบังฟิต ได้ว่าจ้าง 2,000 บาท เพื่อให้ฝังวัวให้ก่อนที่จะนำรถมาลงหลุมแล้วเผาก่อนกลบฝังดังกล่าว