ส.ภัตตาคารไทย วอนนายกฯ เร่งเยียวยาร้านอาหาร ฉีดวัคซีน - ลดค่าใช้จ่าย - ส่งเสริมการขาย

สังคม

ส.ภัตตาคารไทย วอนนายกฯ เร่งเยียวยาร้านอาหาร ฉีดวัคซีน - ลดค่าใช้จ่าย - ส่งเสริมการขาย

โดย sujira_s

9 พ.ค. 2564

156 views

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ขอให้มีมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน


โดยได้เข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ในการขอรับวัคซีนเร่งด่วน สำหรับร้านอาหารในพื้นที่ 6 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี และ สมุทรปราการ รวมทั้งเพิ่มอีก 2 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดกัน คือ สมุทรสาคร และ นครปฐม เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน การฉีดวัคซีนให้จังหวัดเหล่านี้คิดว่าจะเป็นการช่วยฟื้นกิจการกลุ่มร้านอาหารได้ ซึ่งจากการหารือได้รับการตอบรับจากทางฝั่งรัฐบาลแล้วว่าจะได้รับการฉีดแน่นอน


เนื่องจากมาตรการที่ออกมาเยียวยาประชาชนทั้งประเทศตามมติ ครม. เมื่อวันพุธที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา นั้นมิได้ตรงกับสิ่งที่ร้องขอไป ทั้งที่ร้านอาหารมีผลต่อภาพรวมต่อเศรษฐกิจมหภาค และมีผลต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ด้วยเหตุที่รายได้หลักสำคัญของกิจการร้านอาหารคือรายได้จากการนั่งรับประทานในร้าน รายได้จากการขายเดลิเวอรี่ยังไม่สามารถทดแทนรายได้หลักได้ในเวลานี้ โดยเสนอมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ


ส่วนที่ 1 ความช่วยเหลือด้านภาระต้นทุน ค่าใช้จ่าย ได้แก่


1. มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าร้าน เนื่องเพราะขาดรายได้จากการงดให้บริการนั่งรับประทานในร้าน ให้ออกคำสั่งที่มีนิยาม คุณสมบัติ ข้อกำหนดที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้ในการขอลดค่าเช่ากับผู้ให้เช่า ,มีมาตรการโครงการช่วยเหลือค่าเช่าคนละครึ่ง ,และช่วยเหลือประสานงานกับผู้ให้เช่า เจ้าของห้างสรรพสินค้าให้ลดค่าเช่าอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ โดยให้เจ้าของที่ดินอาคาร บุคคลทั่วไป ที่ให้ร้านอาหารเช่า สามารถนำส่วนลดไปลดหย่อนภาษีในรอบบัญชีถัดไป เพื่อจูงใจให้เกิดการลดค่าเช่าตามมา


2. มาตรการช่วยเหลือด้านภาษี เงินทุน โดยงดการจัดเก็บภาษีรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ,ยืดระยะเวลาในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มออกไป 6 เดือน,งดจัดเก็บภาษีโรงเรือน จากเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร เป็นเวลา 2 ปี, ออกมาตรการลดค่าน้ำ ค่าไฟ 30 เปอร์เซ็นต์ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ตั้งแต่รอบบิลเดือนเมษายน 2564 เป็นเวลา 6 เดือน, จัดแหล่งเงินกู้ และให้เจ้าของธุรกิจร้านอาหารเข้าถึงแหล่งเงินกู้ เพิ่มสภาพคล่องเพื่อประคับประคองธุรกิจ โดยสามารถให้ยื่นขอสินเชื่อได้อย่างง่าย ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ ค้ำประกัน ทั้งลูกหนี้รายใหม่ รวมถึงลูกหนี้รายเก่าสามารถกู้เพิ่มได้ ในวงเงินที่เคยกู้มาก่อนจากวิกฤตรอบแรก


3. มาตรการช่วยเหลือด้านค่าแรงงาน โดยขอให้ทางประกันสังคมอนุมัติให้ลูกจ้าง ซึ่งถูกลดเวลาการทำงาน ลดเงินเดือน หรือหยุดงานโดยไม่รับค่าจ้างเนื่องจากคำสั่ง ศบค สามารถเบิกประกันสังคมได้ 50 เปอร์เซ็น โดยทันที, ให้กระทรวงแรงงานสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือกับผู้ประกอบการในการดำเนินการยื่นขอใช้สิทธิ์รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในอัตรา 50%ของค่าจ้างรายวันจากเหตุสถานการณ์โควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น


เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่บางส่วนยังมีความสับสนต่อ นิยาม คุณสมบัติ ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน เนื่องจากไม่ได้มีคำสั่งให้หยุดกิจการเป็นการชั่วคราว, ชะลอการจัดส่งเงินประกันสังคมทั้งจากลูกจ้างและนายจ้างสมทบออกไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น, จัดหาแหล่งเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย หรือ ดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ระยะเวลาผ่อนยาว เพื่อให้ลูกจ้างสถานประกอบการร้านอาหารกู้มาใช้จ่ายในยามจำเป็น


ล่าสุดในส่วนของกระทรวงแรงงานได้รับการประสานงานจาก รมต. สุชาติ ชมกลิ่น โดยตรงแล้ว มีผลการดำเนินการแล้ว


ส่วนที่ 2 ความช่วยเหลือด้านการขาย รายได้ เช่น มีมาตรการควบคุมค่าส่วนแบ่งการขาย หรือ GP จากแพลทฟอร์มเดลิเวอรี่ที่ปัจจุบันที่อัตราสูงจนเกิดภาระไม่คุ้มทุนของฝั่งร้านอาหาร ให้อยู่ในอัตราเหมาะสมอย่างน้อยในช่วงเวลานี้ และหรือมีมาตรการช่วยแบ่งเบาค่า GP ดังกล่าว , ขอให้หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานปกครองท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ มีการจัดตั้งงบประมาณในการจัดหาอาหาร เครื่องดื่ม ให้กับหน่วยงาน - เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ เช่น โรงพยาบาลสนามตามจังหวัดต่าง ๆ ขอให้ใช้งบประมาณส่วนดังกล่าวนี้ในการสั่งอาหารเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ อาหารกล่องแจกแก่ประชาชนผู้ประสบภาวะวิกฤติโควิด ตกงาน ขาดรายได้ หรือให้ความร่วมมือหยุดอยู่บ้าน


และขอให้ กกร. ซึ่งประกอบด้วย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ช่วยกันลงขันจ้างร้านอาหารในท้องถิ่นทำอาหารกล่องเพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนในระบบ รักษาสภาพการจ้างงานพนักงานในร้านอาหาร อีกทั้งยังมีความสามารถมาอุดหนุนซัพพลายเออร์และช่วยพ่อค้า แม่ค้าในตลาดสด ซึ่งจะมีผลถึงเกษตรกร ในการสั่งซื้อวัตถุดิบมาประกอบปรุง จะก่อให้เกิดกระแสเงินสดหมุนเวียนหล่อเลี้ยงรายได้ให้กับร้านอาหารเป็นการเฉพาะหน้าได้


โดยให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขคอยควบคุมกระบวนการผลิตอาหารตามมาตรการป้องกัน ทั้งนี้ สมาคมภัตตาคารไทยยินดีเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงาน สมาคมร้านอาหาร ชมรมร้านอาหารในแต่ละพื้นที่ให้



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kAsw2_4N-1A

คุณอาจสนใจ

Related News