ความพร้อมของคลินิกเสริมความงาม ที่จะเข้ามาช่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมทั้งแผนของทางภาคเอกชน ที่กำลังเร่งกระจายวัคซีนสู่ประชาชน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

ลานจอดรถหลังคลินิกเสริมความงามแบบสแตนอโลนแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 จะถูกแปลงสภาพเป็นจุดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ที่ถูกควบคุมด้วยมาตรฐานและดำเนินงานด้วยบุคลากรทางการแพทย์อย่างเข้มข้น หากโมเดลระบบการจัดการที่ได้นำเสนอผ่านการหารือร่วมกับองค์กรเอกชนที่ขอความร่วมมือมาแล้ว ไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน ก็จะพร้อมรองรับได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป

ผู้บริหารคลินิกเสริมความงามที่ดำเนินธุรกิจมาเกือบ 40 ปี ยอมรับว่าวิกฤตครั้งนี้หนักที่สุด ทั้งในแง่เศรษฐกิจและสังคม การระดมทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยกระจายวัคซีน ไม่เพียงช่วยชีวิตผู้คน แต่จะช่วยพลิกฟื้นเศรฐกิจประเทศ ให้กลับมาขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว ด้วยกลุ่มคลีนิกเสริมความงามที่มีสาขากระจายทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 2,000 แห่ง หากร่วมแรงทั้งหมด คาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน เบื้องต้นมีคลินิกเสริมความงามให้ความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรวม 56 แห่ง อยู่ระหว่างการหารือแนวทางการดำเนินงาน ทั้งคลีกนิกแบบสแตนอโลน และแบบสาขาที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งหลักสำคัญคือการบริหารจัดการให้มีการไหลของคนในพื้นที่ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการไปในทิศทางเดียว เพื่อความคล่องตัวและลดการกระจายของคนที่เข้ามารับบริการ รวมไปถึงปั๊มน้ำมัน โรงงานอุตสาหกรรม ที่พร้อมเข้าร่วมเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยอีกหลายจุดทั่วประเทศ

สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเองก็จับมือกรุงเทพมหานคร เปิดหน่วยบริการวัคซีนนอกโรงพยาบาล 14 แห่ง สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18 – 59 ปี ที่สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว และได้จองคิวรับวัคซีนมาแล้วผ่านแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม รับได้เฉลี่ยแห่งละ 1000-2000 คนต่อวัน รวมให้บริการได้ทั้งสิ้น 20,500 คนต่อวัน และสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการได้ตามสถานการณ์

พร้อมโชว์แบบแปลนพื้นที่ต้นแบบ 2 รูปแบบ ซึ่งผ่านมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อที่จะกระจายไปยังหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ จุดเด่นเช่น เดินทางเข้าออกสะดวก และในกรณีฉุกเฉินสามารถนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงได้ภายใน 10 นาที อากาศถ่ายเทและมีพื้นที่เหมาะสมสำหรับการจัดบริการฉีดวัคซีนตามแนวทางและหลักการป้องกันการติดเชื้อ มีระบบ Internet รองรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ มีห้องน้ำสำหรับให้บริการประชาชน และจุดพักสังเกตอาการ 30 นาที แต่ละแห่งยังจัดที่นั่งรองรับประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 100 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมสถานที่เพื่อพร้อมให้บริการประชาชนในเดือนมิถุนายน นี่คือการร่วมแรงร่วมใจของภาคเอกชนที่ใช้ศักยภาพที่มี เพื่อกอบกู้ชีวิตและเศรษฐกิจไทยอย่างน่าชื่นชม

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/2JNL9PVoAKI