สมุทรปราการ - เมื่อวานนี้ (29เม.ย) ว่าที่ร้อยตรี ประสานต์ ถัดทะพงษ์ รองปลัดเทศบาลรักษาราชการแทนปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งจาก นาง สาหร่าย คงดี อายุ 74 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลวิหารองค์พระสมุทรเจดีย์ อยู่บ้านเลขที่ 141/3 หมู่ที่ 3 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ว่าได้มีพระประธานในวิหารแผ่นหลังหลุดร่วงจนเกือบเห็นโครงสร้าง บริเวณลำคอมีรูโหว่ จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

ที่เกิดเหตุภายในวิหารซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าองค์พระสมุทรเจดีย์ ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดสมุทรปราการและยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนทั้งจังหวัด พบ นาง สาหร่าย เจ้าหน้าที่ดูแลวิหารพาผู้สื่อข่าวดูพระประธานองค์แรกหลวงพ่อไชยวัฒน์ มีหน้าตักกว้างประมาณ 1.50 เมตร ความสูงจากเศียรถึงฐานล่างประมาณ 2.50 เมตร ซึ่งตั้งอยู่บนแท่นด้านหน้าโดยมีพระประธานหลวงพ่อชินศรีและพระยืนหลวงพ่อพระสมุทรเจดีย์ปางห้ามสมุทรอยู่อีก 2 องค์

ตั้งต่างระดับกันอยู่ บริเวณด้านหลังเกิดการลอกหลายจุดจนถึงฐานล่าง บริเวณลำคอเริ่มมีรู้โหว่ แผ่นเนื้อทองหลุดร่วงจนเกือบเห็นโครงสร้าง เหลือเพียงบริเวณด้านหน้ายังคงอยู่ในสภาพเดิม ส่วนองค์อื่นๆ มีการหลุดร่วงบางจุดและมีฟองอากาศที่เต็มไปด้วยน้ำอีกหลายจุด

จากการสอบถาม นาง สาหร่าย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลวิหารหลังนี้มาเมื่อปี 2518 รวมแล้ว 46 ปี เดิมทีหลวงพ่อไชยวัฒน์องค์นี้สร้างขึ้นเมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชดำรัสให้นำมาประดิษฐานไว้ที่องค์พระสมุทรเจดีย์ในยุคนั้นที่เป็นเกาะกลางน้ำ รวมแล้วน่าจะประมาณ 195 ปี จนกระทั่งเมื่อช่วง 2-3 ปีก่อนตนเริ่มสังเกตเห็นบริเวณแผ่นหลังหลวงพ่อไชยวัฒน์ ได้เริ่มหลุดร่วงลงมาแตกเกลื่อนพื้น ทำให้ประชาชนที่เดินทางมาสักการบูชาพบเห็นต่างตกใจตื่นตระหนก

ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นว่าพระพุทธรูปดังกล่าวมีอายุราว 195 ปี นับว่าเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่องค์หนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ยิ่งนานวันเข้าเกิดทรุดโทรมตามกาลเวลา อีกทั้งวิหารหลังดังกล่าวปลูกติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ปากอ่าวไทยทำให้ไอน้ำเค็มลอยมาติดเกาะเนื้อพระพุทธรูปจนสึกกร่อน ประกอบกับบริเวณรอบวิหารและองค์พระสมุทรเจดีย์เริ่มทรุดโทรมทำให้ไอน้ำเค็มและน้ำฝนไหลหยดลงมากัดกร่อนเสียหาย อยากจะวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งมาตรวจสอบและซ่อมแซมเพื่อให้คงอยู่กับจังหวัดสมุทรปราการสืบต่อไป