เงินไปไหน? 'แม่ชีอรหันต์' มหากาฬลวงเหยื่อซื้อกองทุน หลอกกระทั่งแม่ตัวเอง แต่ตรวจบัญชีเหลือเงิน 8 บาท

สังคม

เงินไปไหน? 'แม่ชีอรหันต์' มหากาฬลวงเหยื่อซื้อกองทุน หลอกกระทั่งแม่ตัวเอง แต่ตรวจบัญชีเหลือเงิน 8 บาท

โดย pattraporn_a

29 เม.ย. 2564

55 views

แฉอรหันต์ลวงโลกพร้อมสาวก ตุ๋นยกหมู่บ้าน 200 กว่าคน อ้างเทวดาประทานโชคสะสมบุญผ้าป่าทองคำ พบหลอกกระทั่งแม่บังเกิดเกล้า แอบนำโฉนดบ้านจำนองนายทุน 5 ล้านบาท เมินรับผิดชอบพี่น้องใกล้ไร้ที่ซุกหัวนอน ตร.สอบเส้นทางการเงินเชื่อมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่านี้


คืบหน้า คดีของนางสาวอิสรีย์ อินทร์ไชยา หรือแม่ชีอู๋ อายุ 49 ปี แอบอ้างเป็นพระยาธรรมิกราช ผู้สำเร็จธรรมชั้นพิเศษ ร่วมกับสาวกประกอบด้วย นางดรุณี จันทะนาม อายุ 45 ปี หรือแม่ชีทองพูน และนางสาวไพลิน สุนทรสุวรรณ อายุ 31 ปี หรือแม่ชีการ์ตูน หลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อว่าเป็นพระอรหันต์มีกายทิพย์ สามารถสื่อสารกับเหล่าเทวดาได้ โดยในช่วงสถานการณ์โรคโควิดระบาดเทวดาจะลงมาช่วยเหลือ ด้วยการสะสมบุญในรูปแบบผ้าป่าเงินสดและผ้าป่าทองคำ ทั้งนี้จะได้ค่าตอบแทนจากเทวดาเป็นเงินสดและทองคำ ตามวัตถุประสงค์ของผู้ที่จัดตั้งเป็นกองบุญอะไร


โดยเมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) มีชาวบ้านจากหมู่บ้านโพนแดงน้อย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม กว่า 50 คน เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน แจ้งความเพิ่มอีก ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน


หนึ่งในชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อ เล่าลำดับเหตุการณ์ว่าช่วงต้นเดือนมีนาคม 64 มีคนในหมู่บ้านไปทำอาหารให้สถานปฏิบัติธรรมวิปัสสนาพระพุทธสักขี แล้วมาเล่าว่ามีพระอรหันต์ผู้สำเร็จญาณชั้นสูงสุด ต้องการจะช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ขอเพียงเชื่อมั่นในองค์ท่านทุกอย่างจะได้ตามประสงค์ ตนสอบถามจะต้องทำอย่างไร ก็ได้ตำตอบว่าสะสมบุญเป็นกองทุนผ้าป่าเงินสดกองละ 2,700 บาท หรือกองทุนผ้าป่าทองคำกองละ 3,500 บาท โดยให้คำมั่นสัญญาว่าไม่เกิน 110 วัน จะได้ผลตอบแทนเป็นทองคำรูปพรรณกองละ 1 สลึง ส่วนผู้สะสมกองบุญเงินสดจะได้เงินสด 6,000 บาท ตนจึงลงทุนซื้อกองบุญทองคำจำนวน 5 กอง และก็เป็นจริง เพียงอาทิตย์เดียวก็ให้ไปรับทองคำ 5 สลึง ที่สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนั้น


เหยื่อเล่าต่อว่าเกิดความเชื่อศรัทธาว่าพระอรหันต์ลงมาโปรดสัตว์โลก จึงชักชวนญาติพี่น้องไปร่วมซื้อกองบุญกัน ส่วนตัวเองซื้อผ้าป่าทองคำไปกว่า 30 กอง ส่วนญาติๆและเพื่อนบ้านก็ซื้อตามกำลังทรัพย์ เพราะถือว่าเป็นการลงทุนระยะสั้นไม่ถึง 10 วัน ก็ได้กลับมาเป็นสองเท่า ประกอบสายบุญออกมาแพร่ข่าวว่า เทวดามีโปรโมชั่นพิเศษ มีกองทุนทองคำ 40 กอง ใครต้องการต้องรีบๆเดี๋ยวจะหมด ก็มีคนแห่กันซื้อ เพียงไม่ถึงชั่วโมงกองทุนนั้นก็หมดเกลี้ยง จากนั้นสายบุญก็บอกให้รอถึงวันที่ 30 มีนาคม 2564 จะได้รับผลบุญที่ลงไปกันครบถ้วน


แต่เวลาล่วงเลยมาถึงเดือนเมษายนก็ไม่มีวี่แววเทวดาจะลงมาโปรด สอบถามไปก็อ้างเทวดากำลังดูฤกษ์ยามอยู่ กระทั่งวันที่ 27 เมษายน ตนทนรอไม่ไหวจึงเดินทางไปที่สำนักปฏิบัติธรรม ยังไม่ทันก็ทำอะไรก็มีตำรวจมาจับกุมแม่ชีทองพูนกับแม่ชีการ์ตูนไปดำเนินคดี เพราะมีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ตนจึงกลับมาที่บ้านชักชวนผู้ที่ลงทุนไปแจ้งความที่ สภ.ท่าอุเทน ซึ่งทั้งหมู่บ้านถูกนางสาวอิสรีย์หลอกลวงแล้วกว่า 200 คน


ล่าสุด วันนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านแม่ชีอิสรีย์ ที่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ขณะนั้นมีหญิงสูงวัยทราบว่าเป็นนางสอง อายุ 85 ปี แม่ของนางสาวอิสรีย์ ได้เดินออกมา แต่ถูกลูกสาวจูงมือให้กลับเข้าไปในบ้านและปิดประตูหน้าบ้านทันที


เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า หลังจากที่นายจำนงค์ ซึ่งเป็นพ่อของนางสาวอิสรีย์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เสียชีวิตลง นางสาวอิสรีย์ลูกสาวคนเล็กซึ่งในขณะนั้นยังสวมใส่ชุดปกติ ได้แอบไปขอให้นางสองมอบอำนาจในการเป็นผู้จัดการมรดกให้ และนำโฉนดที่บ้านหลังนี้ไปขายฝากกับนายทุนในวงเงิน 5 ล้านบาท โดยไม่มีญาติพี่น้องล่วงรู้มาก่อน กระทั่งนายทุนมาตามถึงบ้าน โดยในตอนแรกนายทุนยังเปิดโอกาสให้หาเงินต้นมาชำระในเวลา 3 ปี แต่ก็ไม่มีใครหาเงินไปไถ่ถอนได้ จำเป็นต้องฟ้องศาล และปัจจุบันดำเนินการมาจนถึงศาลชั้นฎีกา ซึ่งนางสาวอิสรีย์ตัวต้นเหตุไม่สนใจใยดี แม้ว่าครอบครัวจะไม่มีที่อยู่แล้ว


สอบถามจากชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นทราบว่า นายจำนงค์รับราชการครู อดีตบวชเรียนขั้นมหา ก่อนสึกออกมาก็แต่งงานอยู่กินกับนางสอง มีลูกด้วยกัน 4 คน ซึ่งครอบครัวนี้ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ส่วนนางสาวอิสรีย์ก็เรียนจบในระดับปริญญา ก่อนจะมาสวมชุดขาว เคยเช่าบ้านหนึ่งหนึ่งที่อยู่ในซอยนี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมได้ประมาณ 2 ปี เชื่อว่าคงซึมซับด้านศาสนาจากพ่อ แล้วมาปฏิบัติแต่เอาไปใช้ในทางที่ผิดจึงเกิดเรื่อง


ทั้งนี้ นางสาวอิสรีย์ และลูกศิษย์รวมทั้งสิ้น 5 คน ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม โดยศาลไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นขบวนการที่ทำเป็นขั้นตอน มีผู้เสียหายจำนวนมาก หวั่นผู้ต้องหาหลบหนี


ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ทางฝ่ายสอบสวนและสืบสวน ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนางสาวอิสรีย์ ว่ามีการโอนถ่ายไปให้ใคร หลังจากตรวจสอบพบเงินในบัญชีเหลือเพียง 8 บาท เพราะเชื่อว่าต้องมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่านี้แน่นอน หากหลักฐานสาวไปถึงใครก็จับมาดำเนินคดีหมดทุกราย



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/O_DWm4Qw8Ns

คุณอาจสนใจ

Related News