ผู้เสียหายซึ่งเป็นช่างซ่อมรถ อายุ 43 ปี ต้องพิการถูกตัดขา หลังถูกคู่กรณีขับรถด้วยความประมาท และอยู่ในอาการมึนเมา ขณะนี้เวลาผ่านมา 9 เดือนแล้ว ยังไม่เคยพบหน้าผู้ต้องหา จนไปร้องขอความช่วยเหลือให้ตำรวจไปติดตามจับตัวได้ที่จังหวัดสมุทรสาคร สุดท้ายผู้ต้องหายื่นประกันตัวไปโดยไม่ประสงค์จะเจรจากับผู้เสียหาย

ความพิการของนายชัยญา พลเมือง อายุ 43 ปี เกิดขึ้นเมื่อ 9 เดือนก่อน ทำให้การทำงานช่างซ่อมรถ เป็นไปด้วยความลำบาก ที่สำคัญนายชัยญา บอกว่าความพิการไม่ได้เกิดจากความประมาทของตัวเอง แต่เกิดจากคู่กรณีที่ขับรถด้วยความเร็วสูงด้วยความเมา และขับเหมือนขับหลบหนีใครมา

หลังถูกรถชนขาขาด ต้องนอนรักษาอยู่ รพ. ผ่านมาเป็นเวลา 9 เดือนแล้ว ก็ไม่เคยเห็นหน้าคู่กรณีแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยมารับผิดชอบที่ตนเองต้องถูกตัดขา เมื่อติดต่อไปก็ปิดมือถือ การติดตามคดีก็เป็นไปด้วยความลำบาก เพราะไม่ทราบว่าคู่กรณีไปอยู่ที่ไหน โดยได้หลักฐานเป็นภาพกล้องวงจรปิด ขณะคู่กรณีขับรถด้วยความเร็วสูงข้ามเลนมาชน ขณะที่ตนจะเลี้ยวรถเข้าซอยบ้านพัก

เมี่อคู่กรณีไม่มาตามนัดทั้งที่ตนไปนั่งรอถึง 3 ครั้ง จึงไปร้องเรียนต่อ ตำรวจกองบังคับการ.น.4 ตามที่อยู่ของคู่กรณีย่านเขตประเวศให้ช่วยติดตามตัว แต่เมื่อตำรวจไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กลับไม่พบ แต่ได้ติดตามไปจับได้ที่จังหวัดสมุทรสาคร ทราบชื่อว่า นายสุเทพ อายุ 61 ปี อาชีพนายหน้าขายบ้านขายที่ดิน ให้การเบื้องต้นว่าขับรถหนีคนในครอบครัว ซึ่งขับรถตามมา จึงขับหนีด้วยความเร็วสูง ขณะชนคนแล้วก็ขับไปต่อ ไปยังย่านบางพลัดแต่รถไปชนแบริเออร์ รถเสียหลักไปต่อไม่ได้ จึงหนีไปตั้งหลัก เหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นช่วงที่ดวงตก

หลัง ตร.สืบสวน บก.น4 ส่งตัวมายังพนักงานสอบสวนที่ สภ.บางศรีเมือง ก็ได้ติดตามมาที่โรงพัก ก็ไม่ได้พบคู่กรณีอีก ทราบแต่ว่าประกันตัวไปแล้ว ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะถึงขณะนี้ตนก็ยังไม่เคยมาให้ปากคำ หรือทราบความคืบหน้าของคดี

ขณะที่ ผกก.สภ.บางศรีเมือง ระบุว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ที่จะพบกับคู่กรณีหรือไม่ แต่ผู้ต้องหารายนี้ไม่ประสงค์จะเจรจากับคู่กรณีจึงไปบังคับไม่ได้ และเรื่องคดีทางแพ่งผู้บาดเจ็บต้องดำเนินการฟ้องร้องค่าเสียหายเอง โดยคดีผ่านมา 9 เดือน ไม่ได้ล่าช้า แต่ผู้ต้องหาไม่มามอบตัว

ส่วนผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล และเป็นช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังผลัดแรกที่ศาล โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาไป 3 ข้อหา คือขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ขับรถชนผู้อื่นแล้วหลบหนี และเมาแล้วขับ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมสำนวนส่งฟ้องศาล