สังคม
สั่งย้าย 'ครูนก' สั่งนักเรียนตบหน้าเพื่อน เจ้าตัวโร่ขอโทษผู้ปกครองบนโรงพัก หวิดมีเรื่อง
2 เม.ย. 2564
1.4K views
จากกรณีมีผู้ปกครองโพสต์ภาพแก้มของนักเรียนชายชั้น ป.2 ซึ่งเป็นรอยแดงจากการถูกทำร้ายด้วยการตบแก้ม พร้อมระบุข้อความพฤติกรรมของครูคนหนึ่งซึ่งได้ลงโทษนักเรียนด้วยการให้นักเรียนทั้งห้องรุมตบนักเรียนคนเดียว ต่อมาได้มีผู้ปกครองประมาณ 20 คน ได้ออกมาร้องเรียนว่า คุณครูสุกานดา นิลสุข หรือ ครูนก ครูประจำวิชาภาษาไทยและนาฏศิลป์ มีการตั้งกฎกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ว่าหากนักเรียนคนใดพูดคุยหรือส่งเสียงดังภายในห้องเรียน จะให้เพื่อนร่วมห้องทั้งหมดรุมตบแก้มคนละ 3 ที จนทำให้เด็กนักเรียนที่โดนรุมตบแก้มนั้นเป็นรอยแดง ทำให้นักเรียนไม่กล้าไปโรงเรียนหากมีเรียนวิชาภาษาไทย ทำให้เรื่องดังกล่าวทราบไม่ถึงผู้ปกครองท่านอื่นๆ จนมีการเค้นถามลูกๆของเองจนทราบความจริง
ล่าสุด วานนี้ (1 เม.ย.) ทางโรงเรียนได้นัดครูนก ผู้ก่อเหตุ และผู้ปกครองเด็กนักเรียนไปเจรจากันที่ สภ.จะนะ เบื้องต้นครูนกได้ขอโทษผู้ปกครอง แต่ไม่ได้มีท่าทีที่จะขอโทษจากใจจริง จึงมีปากเสียงกับผู้ปกครอง ไปดูคลิปช่วงนี้
หนึ่งในผู้ปกครองที่มาแจ้งความ บอกว่า พฤติกรรมลูกเปลี่ยนไป เป็นเด็กเก็บตัว ก่อนยอมรับว่า โดนครูสั่งให้เพื่อนในห้อง 31 คน ตบหน้าคนละ 3 ครั้ง ถึง 5 วันซ้อน ยืนยันครูสั่งให้ทำ ด้านผู้ปกครองอีกราย บอกว่า เท่าที่ทราบ ครูนกจะบอกให้เด็กตบกันเบา ๆ ไม่ได้ให้ทำรุนแรง พอได้ยินข่าวแบบนี้ ก็ตกใจว่า เพราะครูคนนี้ เวลาอยู่นอกห้องเรียนก็เป็นครูที่ใจดี
ขณะที่ พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.จะนะ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างผู้ปกครอง โรงเรียนและนักเรียน โดยเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ผู้ปกครองได้พาเด็กมาพบตำรวจเมื่อวันที่ 29 มี.ค.พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ได้รับรู้ นั่นก็คือเด็กกลับบ้านไปมีรอยวงแดงที่แก้ม เมื่อสอบถามเด็กก็อธิบายกับผู้ปกครองว่า ถูกเพื่อนในห้องเรียนทำโทษด้วยการตบปากเป็นกฎที่ครูตั้งขึ้นมา
พ.ต.อ.พชรพล กล่าวว่า เมื่อผู้ปกครองได้ฟัง ทำให้ไม่พอใจแล้วพาลูกมาพบกับรองผกก.สส. จากนั้นได้ส่งไปตรวจร่องรายบาดแผลที่ถูกเพื่อนด้วยกันทำโทษ ด้วยการตบปาก เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่สอบถามผู้ปกครองว่าจะมีการแจ้งความร้องทุกข์หรือไม่ โดยทางผู้ปกครองยืนยันกับทางรองผกก.สส.ว่าต้องการให้ทางโรงเรียน หรือ ครู ที่ใช้วิธีการแบบนี้กับเด็กมาชี้แจงทำความเข้าใจ โดยจะฟังจากปากครูก่อนว่าทำไมถึงใช้วิธีการดังกล่าว ทั้งนี้ทางรองผกก.สส.ได้นัดทางโรงเรียน และครูคนดังกล่าวมาชี้แจง โดยมีคนกลางเข้าร่วม ก็คือรองผกก.สส. รวมถึงตัวแทนโรงเรียน เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“จากการที่ทางครูได้มีการชี้แจง ครูยอมรับว่ามีการตั้งกฎแบบนี้ขึ้นมาจริง แต่เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นก็คือเด็กที่ลงโทษเพื่อนไม่ได้มีจำนวนมากตามที่เป็นข่าว และเป็นการให้เพื่อนตบปากเพียงเบาๆ คนละ 3 ครั้ง ซึ่งคนที่ถูกลงโทษก็เคารพกฎ รู้ว่าตัวเองผิดก็ยอมรับตรงนั้น แต่ที่ครูไม่สามารถควบคุมได้คือเพื่อนบางคน ที่หยอกล้อกันหรือเล่นกัน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจจะหยอกเล่นแรงๆ และถือโอกาสในการลงโทษตรงนี้ โดยลงน้ำหนักมือเพื่อเป็นการแกล้งเพื่อนที่ถูกลงโทษ ตรงนี้ครูไม่สามารถคอนโทรลน้ำหนักมือของเพื่อนนักเรียนได้ ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บไป ซึ่งหลังจากครูชี้แจงแล้วทางครูก็ขอโทษทางผู้ปกครองไป ซึ่งทางผู้ปกครองไม่ได้ติดใจอะไร ก็ให้โอกาสครูที่จะปรับเปลี่ยนวิธีในการควบคุมดูแลเด็ก จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันกลับ” พ.ต.อ.พชรพล กล่าว
“จากการที่ทางครูได้มีการชี้แจง ครูยอมรับว่ามีการตั้งกฎแบบนี้ขึ้นมาจริง แต่เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นก็คือเด็กที่ลงโทษเพื่อนไม่ได้มีจำนวนมากตามที่เป็นข่าว และเป็นการให้เพื่อนตบปากเพียงเบาๆ คนละ 3 ครั้ง ซึ่งคนที่ถูกลงโทษก็เคารพกฎ รู้ว่าตัวเองผิดก็ยอมรับตรงนั้น แต่ที่ครูไม่สามารถควบคุมได้คือเพื่อนบางคน ที่หยอกล้อกันหรือเล่นกัน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจจะหยอกเล่นแรงๆ และถือโอกาสในการลงโทษตรงนี้ โดยลงน้ำหนักมือเพื่อเป็นการแกล้งเพื่อนที่ถูกลงโทษ ตรงนี้ครูไม่สามารถคอนโทรลน้ำหนักมือของเพื่อนนักเรียนได้ ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บไป ซึ่งหลังจากครูชี้แจงแล้วทางครูก็ขอโทษทางผู้ปกครองไป ซึ่งทางผู้ปกครองไม่ได้ติดใจอะไร ก็ให้โอกาสครูที่จะปรับเปลี่ยนวิธีในการควบคุมดูแลเด็ก จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันกลับ” พ.ต.อ.พชรพล กล่าว
“จากการที่ทางครูได้มีการชี้แจง ครูยอมรับว่ามีการตั้งกฎแบบนี้ขึ้นมาจริง แต่เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นก็คือเด็กที่ลงโทษเพื่อนไม่ได้มีจำนวนมากตามที่เป็นข่าว และเป็นการให้เพื่อนตบปากเพียงเบาๆ คนละ 3 ครั้ง ซึ่งคนที่ถูกลงโทษก็เคารพกฎ รู้ว่าตัวเองผิดก็ยอมรับตรงนั้น แต่ที่ครูไม่สามารถควบคุมได้คือเพื่อนบางคน ที่หยอกล้อกันหรือเล่นกัน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจจะหยอกเล่นแรงๆ และถือโอกาสในการลงโทษตรงนี้ โดยลงน้ำหนักมือเพื่อเป็นการแกล้งเพื่อนที่ถูกลงโทษ ตรงนี้ครูไม่สามารถคอนโทรลน้ำหนักมือของเพื่อนนักเรียนได้ ทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บไป ซึ่งหลังจากครูชี้แจงแล้วทางครูก็ขอโทษทางผู้ปกครองไป ซึ่งทางผู้ปกครองไม่ได้ติดใจอะไร ก็ให้โอกาสครูที่จะปรับเปลี่ยนวิธีในการควบคุมดูแลเด็ก จากนั้นก็ได้แยกย้ายกันกลับ” พ.ต.อ.พชรพล กล่าว
โดยวานนี้ (1 เม.ย.) ทาง ผอ.สพป.เขต 3 ได้ส่ง นายวันชัย หวังสวาสดิ์ รอง ผอ.สพป.สงขลา เขต 3 พร้อมคณะกรรมการลงตรวจสอบเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว ผลสรุปเบื้องต้นหลัง รอง ผอ.โรงเรียน ได้ทำการสอบสวน ซึ่งพบว่ามีความผิดจริง โดยมีความผิด 2 ประเด็น
ประเด็นที่ 1 ครูนกได้ตั้งกฎนี้ขึ้นมา ทำให้เด็กเกิดการทำร้ายร่างกายขึ้นมาซึ่งกันและกัน
ประเด็นที่ 2 พบว่าครูนกไม่อยู่ในชั้นเรียนตลอดเวลา ขณะทำการสอนหนังสือนักเรียน ซึ่งความผิดในครั้งนี้ ตนได้สั่งให้ออกจากโรงเรียนและย้ายเข้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 ซึ่งจะมีผลในวันนี้ 2 เม.ย. เป็นต้นไป และจะมีการชี้แจงกับผู้ปกครองในวันนี้เช่นกัน ในเวลา 09.00 น. ที่โรงเรียนบ้านนา
ส่วนตัว ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาตนพยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว ถ้าเป็นไปได้อยากไปขอโทษผู้ปกครองเองทั้งหมด ทางด้าน นายวันชัย หวังสวาสดิ์ รอง ผอ.สพป.สงขลา เขต 3 เปิดเผยว่า วานนี้ (1 เม.ย.) ได้เดินทางมาที่ รร. เนื่องจากทาง ผอ.สพป.สงขลา เขต 3 สั่งการให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีครูกับนักเรียนว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย สำหรับข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรจะรายงานให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ตนไม่สามารถจะให้ข่าวได้ แล้วอีกอย่างยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร อะไรถูกอะไรผิด แต่ตอนนี้สังคมครูก็โดนตราหน้าไปแล้ว
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8et4co7dwRU
แท็กที่เกี่ยวข้อง ครูนก ,ครูสั่งให้นักเรียนตบหน้าเพื่อน ,ครูสั่งตบเพื่อน ,ย้ายครู