สังคม
สลด ด.ช.วัย 12 ถูกฟ้าผ่าดับขณะเล่นบอลกลางสายฝน ครอบครัวคาดชนวนจากหัวเข็มขัด 'อ.อ๊อด' แจงไม่เกี่ยว
31 มี.ค. 2564
96 views
ครอบครัวเสียใจกับการจากไปของน้องโอเคที่ถูกฟ้าฝ่าขณะซ้อมฟุตบอล ยากที่จะทำใจแม้รู้เป็นอุบัติเหตุ คาดสาเหตุ จากตะขอกางเกงนักเรียนที่ใส่เล่นฟุตบอล
หลังเกิดเหตุฟ้าผ่าเด็กขณะเล่นฟุตบอลท่ามกลางสายฝน สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี วันนี้กำนันตำบลเคียนชา พร้อมด้วยเพื่อนๆของ ด.ช.กฤษณพล จันทร์ศรี หรือ โอเค อายุ 12 ปี ผู้เสียชีวิต ไปดูจุดเกิดเหตุอีกครั้ง
ด.ช.ธีรภัทร จันทร์บูรณ์ หรือ ออมสิน เล่าว่า เขาพร้อมเพื่อน 9 คน ได้มาซ้อมฟุตบอลเพื่อเตรียมไปแข่งขันที่ ในวันที่ 4 เมษายน นี้ ขณะซ้อมอยู่ฝนตกหนักจึงได้หลบไปอยู่ใต้อาคาร เมื่อฝนเริ่มซาก็ออกมาซ้อมกันใหม่ และได้เกิดเสียงฟ้าผ่าใกล้ต้นไม้ข้างๆ สนาม 1 ครั้ง จึงแยกย้ายกันหลบฝนข้างสนามและใต้อาคาร จังหวะนั้น น้องโอเค ผู้เสียชีวิตและเพื่อนอีก 5 คนที่บาดเจ็บ ยังคงเล่นอยู่ในสนาม จากนั้น 3-5 นาที ได้เกิดเสียงฟ้าผ่าครั้งที่ 2 เห็นแสงฟาดลงกลางหน้าผาก ดช.โอเค จนล้มลงฟุบลงกับพื้นสนาม ส่วนคนอื่นๆได้ กระเด็นออก 3-4 เมตร กระจายในสนาม ทำให้ทุกคนหูดับชั่วขณะ ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ดช.ออมสินและเพื่อนรู้สึกเสียใจ ฝากบอกโอเค ว่า จะลงแข่งขันให้ดีที่สุดเพื่อโอเค
ส่วนที่บ้านน้องโอเค ครอบครัวและญาติได้จัดสถานที่เตรียมงานบำเพ็ญกุศลน้อง บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า คุณพ่อน้องโอเค บอกว่า น้องเป็นลูกคนที่ 2 ในพี่น้อง 3 คน กำลังจะจบชั้น ป.6 ชื่นชอบฟุตบอลเป็นพิเศษ ทั้งนี้ไม่มีลางสังหรณ์ใดๆเลยว่า จะสูญเสียลูกชาย ส่วนคุณแม่น้องโอเค กล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับครอบครัว ได้ตรวจสอบกางเกงนักเรียนและมีหัวเข็มขัดที่น้องใส่เล่นฟุตบอล ก็พบว่า มีรอยไหม้ที่ตะขอด้านใน คาดว่าจะเป็นตัวชนวนล่อฟ้า
ด้านกำนันตำบลเคียนชา คาดว่า สาเหตุที่น้องโอเคเสียชีวิตเพราะใส่กางเกงที่มีหัวเข็มขัด จึงอาจเป็นสายล่อฟ้าได้ ส่วนอาการของน้องที่บาดเจ็บ ขณะนี้รักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยหมอยังต้องตรวจเช็คเรื่องคลื่นหัวใจ ก่อนอนุญาตให้กลับบ้าน
โดยจากกรณีที่ครอบครัวสงสัยว่าฟ้าผ่ามาที่ตัวเด็กอาจเป็นเพราะเด็กใส่เข็มขัดที่หัวเป็นโลหะ ทำให้เป็นชนวน เรื่องนี้ทางทีมข่าวจึงติดต่อไปยัง รศ.ดร.วีระชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์ และวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อไขข้อข้องใจและความเป็นไปได้ถึงข้อสันนิษฐานนี้ โดย อาจารย์อ๊อด เปิดเผยว่า เด็กที่ถูกฟ้าผ่า ไม่เกี่ยวว่าเพราะใส่เข็มขัด แต่อยู่ที่เล่นกีฬาหลังจากเกิดฟ้าคะนองและลมพายุ
เพราะระหว่างที่ฝนตกมีการถ่ายเทประจุลบจากก้อนเมฆลงพื้นสนามอยู่แล้ว หลังเกิดพายุฝน สิ่งที่ล่อเป้าคือสิ่งที่สูงที่สุดในบริเวณพื้นหญ้าแถวนั้นคือเด็ก ทำให้ประจุบวกที่อยู่เหนือก้อนเมฆ วิ่งตามประจุลบลงมาโดนเด็ก แล้วประจุบวกลงสู่พื้นดิน ส่วนที่ทำให้เด็กคนอื่น ๆ ล้มเพราะเกิดจากการประจุลบ ที่ลงพื้นสนามขยายวงกว้างไปโดนเด็ก ซึ่งการป้องกันคือหลังฝนฟ้าคะนองอย่าเพิ่งไปเล่น ต้องรอให้ประจุหมดเสียก่อน
เมื่อก่อนเราเชื่อว่าวิธีเลี่ยงฟ้าผ่า คือห้ามใส่โลหะออกกลางแจ้ง ซึ่งผลการศึกษาออกมาว่าไม่เกี่ยว แต่สิ่งที่อันตรายที่สุดคืออุปกรณ์ไฟฟ้าเช่น โทรศัพท์มือถือ แทบเล็ต หรือหูฟังแบบบลูทูธ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ส่งคลื่นสัญญาณที่เป็นประจุบวก ส่วนก้อนเมฆจะถ่ายเทประจุลบลงมา เมื่อมาเจอกันจึงนำไฟฟ้าและเกิดฟ้าผ่า แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้นั่งยองๆบนปลายเท้า เพื่อเลี่ยงการสัมผัสกับพื้นดินให้มากที่สุด
สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/ZM2L60-NPJQ