โคราช-จากกรณีที่พลุตะไลที่ใช้จุดในงานเผาศพ พุ่งตกลงมาใส่ศีรษะเด็กหญิงณัฐชา สวัสดี หรือน้องมิ้นท์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.3 ขณะเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียน ช่วงที่วัดจัดงานศพ มีการจุดพลุตะไลตามประเพณีโบราณ ทำให้พลุตกใส่ศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นแผลฉกรรจ์

ล่าสุดพ่อเผยอาการของลูกสาวยังโคม่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด โดยแพทย์ได้เอ็กซเรย์ดูที่ศีรษะของน้องพบว่า ถูกเศษไม้ของพลุตะไล ทิ่มแทงเข้าไปในกะโหลกศีรษะความลึกประมาณ 10 เซนติเมตร และแพทย์ได้บอกให้ครอบครัวเริ่มทำใจ เพราะน้องอาจจะอยู่ได้ไม่นาน แต่พ่อยังมีความหวังอยู่ เพราะน้องมิ้นท์เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุใดๆ ตอนนี้ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ส่วนเรื่องคดีความให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณเมรุเผาศพวัดหน้าพระธาตุพบว่า ที่ตั้งของเมรุเผาศพ ห่างจากตัวโรงเรียนที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร โดยบริเวณด้านหลังเมรุพบร่องรอยการจุดพลุงานศพทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก

จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ปัจจุบันชาวบ้านมักจุดพลุในงานศพโดยใช้พลุแบบใหม่ที่มีเสียงดัง และแตกกระจายในท้องฟ้า ซึ่งพลุแบบนี้จะไม่ค่อยมีเศษพลุตกลงมาด้านล่าง ขณะที่วันเกิดเหตุคนจุดพลุได้ใช้พลุตะไลซึ่งทำจากไม้ จึงทำให้มีเศษของไม้ร่วงหล่นลงมายังพื้นด้านล่าง

ด้านพันตำรวจเอก ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการ สภ.ปักธงชัย เปิดเผยว่า ได้นำตัวชาย 2 คนที่จุดพลุตะไลในงานศพขณะเกิดเหตุมาสอบปากคำแล้ว โดยทั้งสองคนให้การยอมรับว่าเป็นผู้จุดพลุตะไลจริง ซึ่งก่อนจุดพลุตะไลทางคนจุดอ้างว่า ได้หันพลุตะไลไปทางทุ่งนาซึ่งไม่มีผู้คนแล้ว

แต่ช่วงเกิดเหตุมีลมพัดแรง คาดว่าแรงลมได้พัดพลุตะไลที่จุดหลุ่นลงมาในที่ชุมชนจนทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับชายสองคนที่จุดพลุในข้อหา กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดอันตรายสาหัสแล้ว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/dBv-NNBtKuo