ตำรวจกองปราบปรามเปิดยุทธการหนุมานดับบูรพา นำหมายศาลบุกเข้าจับกุมนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู้สมาชายอายุ 56 ปี เมื่อไม่มีผู้ใดมาเปิดประตู ตำรวจจึงปีนรั้วเข้าไป เพื่อเปิดประตูบ้าน และแจ้งหมายจับหลงจู๊สมชายในข้อหาจ้างวานฆ่าผู้อื่น และยังแจ้งหมายจับลูกชาย ลูกสะใภ้ และเครือญาติ รวมอีก 8 คนฐานฟอกเงินอีกด้วย

ตำรวจกองปราบใช้เวลาในการสืบหาพยานหลักฐานจนพบว่า ผู้บงการฆ่าวินรถ จยย.ที่แท้มีเพิ่มจาก 2 คนที่จับไปแล้ว ซึ่งเป็นเพียงผู้ดูแลบ่อน กระทั่งพบความเชื่อมโยงว่าเจ้าของบ่อนตัวจริง คือหลงจู๊สมชาย

พล.ต.ต จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. ระบุว่าตำรวจกองปราบได้หลักฐานว่า นายสมชาย เป็นผู้บงการ เพราะผู้ตายได้เข้าไปถ่ายรูปในบ่อน ของหลงจู๊สมชาย และภาพไปปรากฎในคณะกรรมมาธิการตำรวจฯ และศาลอนุมัติหมายจับ หลังญาติผู้เสียชีวิตไม่เชื่อว่าการตายมาจากเรื่องทะเลาะวิวาทธรรมดา แต่น่าจะมีเบื้องหลัง จึงร้องเรียนมายัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ซึ่งได้สั่งให้ดำเนินคดีอย่างรัดกุม

การเข้าตรวจค้นครั้งนี้พบทรัพย์สินของหลงจู๊สมชาย ที่ใช้ชื่อลูกชาย และบุคคลในครอบครัวถือครอง โดยเข้าตรวจยึดเรือยอร์ช ราคา 8 ล้านบาท ที่ใช้ชื่อลูกชายเป็นผู้ถือครอง เช่าที่จอดราคาร่วม 4 หมื่นบาทต่อเนื่อง มากว่า 1 ปีแล้ว

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ระบุว่าจากการที่ตำรวจขอเวลาในการสืบทรัพย์สิน ขณะนี้พบการฟอกเงินของหลงจู๊สมชายแล้ว พบหมู่บ้านจัดสรร5แห่ง เป็นชื่อบุตรชาย รถยนต์ หรูป้ายแดง 3 คัน รวมทรัพย์สินกว่า 880 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินอีกกว่า 700 ล้านบาท ที่อยู่ในความครอบของเครือข่าย อีก22 คน โดยพบว่า มีนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ด้วย

ส่วนการเปิดบ่อนในภาคตะวันออกของหลงจู๊สมชาย จนทำให้เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอก2 จนนายกรัฐมนตรีสั่งให้ตรวจสอบตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยให้มีบ่อนการพนันและมีส่วนเรียกรับผลประโยชน์จากบ่อน และยังมีการฆ่าปิดปากผู้ที่เข้าไปถ่ายภาพบ่อนมาเผยแพร่ หลังจากจเรตำรวจได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีตำรวจระดับผู้บัญชาการ ไปจนถึงระดับผู้บังคับหมู่ ในภาคตะวันออกเกี่ยวข้องถึง 253 คน โดยจเรตำรวจได้ส่งผลสรุปให้ผู้บัญชาการแห่งชาติ พิจารณาว่าจะถูกสอบสวนทางวินัยร้ายแรงหรือไม่