ราชทัณฑ์ปล่อยตัว 'สรยุทธ' ออกจากเรือนจำ หลังได้พักโทษ ติดกำไล EM กลับคืนสู่อิสรภาพ ทีมงาน-คนสนิท แห่ให้กำลังใจ สรยุทธเปิดใจ ขอบคุณทุกคน เล่าชีวิตในเรือนจำ ขอเวลาคิด-ปรับตัว ก่อนกลับมาทำงาน ยืนยันคัมแบคช่องสาม 100%

วันนี้ (14 มี.ค.) เวลา 07.30 น. นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ต้องขังในคดีฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งได้รับการพิจารณาพักโทษโดยเหตุพิเศษ ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนพิเศษกรุงเทพมหานาคร แล้ว

โดยขณะรถกำลังจะเคลื่อนออกจากประตูเรือนจำ ญาติได้นำพวงมาลัยมาให้นายสรยุทธ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเรือนจำ ก่อนรถจะเคลื่อนออกไป

จากนั้นนายสรยุทธ ถูกนำตัวไปที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร เขต 7 เพื่อติดกำไล EM เป็นระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2564 ถึง 20 พฤษภาคม 2565 และต้องรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติตามกำหนด จนกว่าจะพ้นโทษ คือในวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 รวม 2 ปี 4 เดือน และสามารถประกอบอาชีพสุจริตได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ทีมงานรายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ พนักงานช่อง 3 ที่เคยทำงานร่วมกับนายสรยุทธ รวมถึงคนใกล้ชิดต่างพากันไปรับ นำดอกไม้พวงมาลัยไปมอบให้ด้วยความยินดีและให้กำลังใจ อาทิ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์, คุณหรีด รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์, ไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ, โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร, หนุ่ย เอกราช เก่งทุกทาง, หมวย อริสรา กำธรเจริญ, เซน เมจกา สุพิชญางกูร, โน้ต อุดม แต้พานิช , ตัน ภาสกรนที, โก๊ะตี๋ เจริญพร อ่อนละม้าย เป็นต้น 

ไบรท์ พิชญทัฬห์ กล่าวว่า  ดีใจที่สุดเมื่อคืนนอนไม่หลับ ตั้งใจมารอรับพี่อยู่ตั้งแต่เช้า จังหวะที่พี่ยุทธ มาถึงสำนักงานคุมประพฤติ ไบรท์ก็ไปยืนรอรับที่รถตู้ แล้วพาพี่ยุทธเข้าไปส่งด้านใน มีโอกาสได้คุยกับเจ้าหน้าที่ถึงขั้นตอนการติดกำไล EM ก่อนหน้านี้เวลาไปเยี่ยมพี่ยุทธ จะมีกระจกกั้น มือเราสัมผัสกันผ่านกระจก แต่วันนี้มันคือกอดแรก ที่เราได้สวมกอดกัน ไบรท์ก็ร้องไห้ แต่พี่ยุทธบอกอย่าร้องเดี๋ยวพี่จะร้องตาม ประโยคที่พี่ยุทธพูดตอนกอดกัน "ต่อไปนี้ไม่ต้องเหนื่อยแล้วนะ เหนื่อยมานานแล้ว ต่อไปพี่ยุทธก็จะกลับมาทำงานแน่นอน"

หนุ่ย เอกราช เผยว่า ยินดีต้อนรับพี่ยุทธ กลับบ้าน ดีใจด้วยที่ชีวิตกลับมาเป็นปกติสักที ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป ยังมีอะไรให้พี่ยุทธ ทำอีกเยอะ พวกเราก็รอพี่ยุทธกลับมา สำหรับตนไม่ได้คิดว่าห่างจากพี่ยุทธเลย เพราะส่วนตัวก็เข้าไปเยี่ยมพี่ยุทธ ในเรือนจำบ่อยครั้ง ความเป็นเพื่อนมันไม่ได้รู้สึกขาดมันยังผูกพันกันอยู่ มีแต่ความดีใจที่จะได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

ด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์  ได้นำพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ซึ่งเป็นพระที่ตนเคารพบูชาทุกวัน มามอบให้ เพื่อขอให้หมดเวรหมดกรรม หมดเศร้าหมดโศก และออกมาขอให้กลับมาทำหน้าที่สื่อมวลชน เพราะคนไทยรออยู่ พักแค่ 3 วันก็พอ ตนเข้าใจความรู้สึกดีวันนี้มันยิ่งใหญ่ 

"เดี๋ยวจะขอมอบพระพุทธรูปให้คุณสรยุทธ ตั้งแต่นี้ก็ขอให้หมดทุกข์หมดโศก และเจริญรุ่งเรือง คำถามที่ผมอยากจะถามคุณสรยุทธ เดี๋ยวผมรอแกออกมาแล้ว มีประโยคเดียว ที่ผมอยากถามแก ไม่ต้องถามว่าดีใจหรือไม่ ผมคิดว่าเรื่องดีใจมันเกินไป เป็นห่วงเพียงว่าแกจะน้ำตาคลอหรือไม่" 

ตัน ภาสกรนที ดีใจจนน้ำตาคลอ กล่าวว่า "รู้สึกตื้นตันใจ เรารอจนมาถึงวันนี้ ที่เร็วกว่าที่เราคิด ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าอิสรภาพ พี่ยุทธนับว่าเป็นลูกผู้ชาย อยากให้พี่ยุทธออกมาใช้ชีวิต ไม่อยากให้ทำงานหนักเหมือนเดิม" 

โก๊ะตี๋ เจริญพร อ่อนละม้าย ได้ถือเสื้อสูทสีดำมารอต้อนรับ โดยเปิดเผยทั้งน้ำตาว่าเป็นเสื้อของคุณสรยุทธ ที่ใส่ก่อนจะเข้าเรือนจำ โดยโก๊ะตี๋ เคยให้สัญญากับคุณสรยุทธ ว่าหากวันใดพ้นโทษออกมา จะนำเสื้อตัวนี้มาให้ใส่ เเล้ววันนี้ก็มาถึง 

หมวย อริสรา เผย "รู้สึกดีใจมาก รอพี่ยุทธกลับมา อยากให้พี่ยุทธกลับมาเป็นแม่ทัพให้กับพวกเรา เราพร้อมจะเป็นทหารให้พี่ยุทธ วันนี้เตรียมพวงมาลัยมาให้พี่ยุทธโดยเฉพาะ ด้วยความรักและเคารพ" 

เซน เมจกา กล่าวว่า ตื่นเต้นที่เห็นพี่ยุทธออกมา มันยิ้มโดยไม่รู้ตัว ดีใจมาก ๆ จนพูดไม่ไม่ออก เชื่อว่าทุกคนรอเวลานี้มานาน รอพี่ยุทธกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเดิม ไม่ใช่ตื่นเต้นแค่วันนี้แต่ตื่นเต้นมาหลายวันแล้ว

โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร เผย "ผมและไบรท์ตั้งใจมารอรับพี่ยุทธกันตั้งแต่เช้า รู้สึกดีใจและตื่นเต้นกันมาก ไบรท์เฝ้ารอเวลานี้มาตลอด มารอรับตั้งแต่เช้า ไบร์ทเฝ้ารอวันนี้มานานมาก เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่หนัก เพราะแม่ไบรท์ไม่สบาย วันที่ไบรท์ได้เจอพี่ยุทธถือว่าเป็นวันที่ให้กำลังใจไบรท์ด้วย จึงเป็นวันที่สำคัญของไบรท์ ดีใจแทนน้องไบรท์และหลาย ๆ คนด้วย"

ภายหลังนายสรยุทธ ติดกำไลอีเอ็มเสร็จสิ้น ได้เดินออกมาจากสำนักงานคุมประพฤติฯ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้อิสรภาพอีกครั้ง แม้จะยังไม่เต็ม 100% รู้สึกดีใจที่ทุกคนไม่ลืมกัน ไม่มีอะไรจะบอกไปมากกว่าขอบคุณมากจริง ๆ

การอยู่ในเรือนจำ เคยคิดก่อนจะเข้าไปแล้วว่าอย่างน้อยมันจะได้จบสักทีที่ต่อสู้มา 4-5 ปี หลังเข้าไปในเรือนจำและมีชีวิตที่ใช้คำว่าติดลบจนเหลือศูนย์ วันนี้ก็ได้โอกาสที่จะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ รู้สึกดีใจที่ได้มีวันนี้ ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง ส่วนการกลับมาจัดรายการนั้นขอเวลาคิดสักเล็กน้อย เนื่องจากโลกเปลี่ยนไปเยอะ 

ส่วนในเรือนจำก็จะช่วยทำรายการให้คนในเรือนจำ เราได้ทำแล้วมีความสุข ตนเองอยู่ในนั้นหนึ่งปีกว่า ก็เคว้งคว้าง แต่ด้วยชีวิตของตนเองที่เคยยากลำบากก็ปรับตัวได้ แต่ไม่ได้สะดวกสบายความทุกข์อยู่ที่จิตใจ ก็ยังดีที่ตนได้มีโอกาสได้ใช้ความรู้ความสามารถในการจัดรายการเรื่องเล่าชาวเรือนจำ หลังจากมีสถานการณ์โควิด-19 

ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมมีนโยบายให้จัดทำรายการเพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังเกิดความตื่นตระหนก ซึ่งการจัดรายการดังกล่าวเป็นงานที่ทำให้เวลาผ่านไปได้ และมีความสุขพอประมาณ และทำให้คนในเรือนจำ ก็พอให้ได้มีความสุขและมีรอยยิ้มบ้าง โควิดทำให้ตนใช้เวลาในเรือนจำอย่างมีคุณค่าและไม่เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ 

ส่วนจะออกไปสู่โลกภายนอกกลับไปทำงานอย่างไร ขอเวลาคิดสักเล็กน้อย เพราะตนเองไม่ได้ทำงานมากว่า 5 ปี เพราะฉะนั้นโลกในสมัยที่ตนเคยทำข่าว เป็นช่วงที่คนไม่ดูข่าว ผมไม่รู้โลกภายนอกเป็นอย่างไรและต้องทำอย่างไรให้คนมาดูข่าวในแบบที่เราคิด ซึ่งยังงงอยู่บ้างเล็กน้อย ขอเวลากลับไปคิดและปรับตัวสักเล็กน้อย 

สำหรับโครงการพักโทษติดกำไล EM เวลามีพวกกระทำผิดซ้ำหลังเพิ่งพ้นโทษ อยากให้สังคมแยกเป็นสองเรื่อง คือคดีอุกฉกรรจ์ฆ่าข่มขืนโหดเหี้ยมทารุณ ถ้ามีโอกาสจะบอกว่า อย่าทำเพราะคนที่ทำแล้วถึงรู้ว่าจะเสียใจไปตลอดชีวิต และจะไม่ได้รับอภัยโทษเลย ไม่ได้รับการพักโทษเลย และสอง คนในเรือนจำอยากขอโอกาสจากพวกเราทุกคน ถ้าคุณให้โอกาสเขา เค้าจะเป็นพลังของสังคม แต่ถ้าไม่ให้โอกาสเขาก็จะกลายเป็นภาระสังคม 

วันนี้ความตั้งใจแรก จะกลับไปไหว้รูปแม่  ซึ่งเมื่อคืนนี้นอนหลับดี นอนหลับตาประมาณ 21.30 น. ตื่นตอนตี 3 หลังตื่นก็เอาหนังสือกำลังภายในมาอ่าน กระบี่เย้ยยุทธจักร วันที่ได้รับอิสรภาพมันไม่ต้องมีอะไรตื่นเต้น ความทุกข์ทรมานมันเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พอเราเข้ามาทางกายสามารถปรับตัวได้ เหลือแต่ทางใจ ยังเคยคุยกันเวลามีคนมาถามว่าพี่ยุทธสบายดีไหม ผมบอกอย่าถามคำนี้เพราะไม่มีใครติดคุกสบายดี มีแต่พออยู่ได้  ทุกวันต้องเข้าไปในห้องขังบ่ายสามโมงกว่า และอยู่ถึง 6 โมงครึ่ง รวม 14- 15 ชั่วโมง 

เดิมคำที่นายชูวิทย์ ฝากไว้ คือ อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ก็ต้องเป็นเช่นนั้น แต่สำหรับในเรือนจำที่ตนเรียนรู้มา คือ กินให้อิ่ม นอนให้อุ่น และก็ลุ้นอภัย  

ส่วนการทำงานหลังจากนี้  ที่หลายคนจับตานั้น หากอยู่ภายใต้กรอบจรรยาบรรณ การนำเสนอข่าวตามปกติ ก็สามารถทำได้ เพราะหากไม่พูดถึงเรื่องการเมืองเลยก็คงไม่ใช่เรื่องปกติ พร้อมกันนี้ที่มีคนถามว่า การคัมแบคของคุณสรยุทธจะไปอยู่สังกัดไหน คุณสรยุทธยืนยัน ไม่ควรจะมีประเด็นนี้ ผมก็อยู่ช่องสามอยู่แล้ว 100%

ด้าน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวย้ำว่า การติดกำไลอีเอ็ม เป็นการติดฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าใครเรียกรับเงินให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที ส่วนการพักโทษนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนได้รับโอกาส แต่จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการพิจารณา ซึ่งนายสรยุทธ ถือเป็นบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้กับราชทัณฑ์ จึงเข้าเกณฑ์ของการพักโทษ แต่ยังต้องได้รับการคุมประพฤติและติดกำไลอีเอ็มจนกว่าจะครบกำหนดโทษ

พร้อมยืนยันว่า นายสรยุทธในขณะที่อยู่เรือนจำ ได้ปฏิบัติตัวเหมือนนักโทษทั่วไป ไม่ได้เป็นบุคคลวีไอพีแต่อย่างใด ส่วนเงื่อนไขการพักโทษนั้น ให้ทำงานในอาชีพสื่อมวลชนได้ตามปกติ กำหนดให้อยู่ภายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หากต้องการออกนอกพื้นที่ต้องทำเรื่องอนุญาตต่อกรมควบคุมประพฤติ ล่วงหน้า 3 วัน

ขณะที่ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมควบคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายสรยุทธ ต้องรายงานตัวต่อกรมควบคุมประพฤติทุกเดือน ซึ่งกำไลอีเอ็ม เป็นเครื่องมือที่จะช่วยติดตามตัว โดยเงื่อนไขการพักโทษต้องไม่ให้เข้าใกล้เรือนจำ ไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาต ไม่ประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือธุรกรรมกับบุคคลที่มีคดีความ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ให้เป็นพิธีกรหรือโฆษกในงานที่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่สามารถให้ข้อมูลข่าวสารภายใต้จรรยาบรรณของวิชาชีพได้ตามปกติ พร้อมย้ำว่าขณะที่อยู่ในเรือนจำ นายสรยุทธถูกปฏิบัติเหมือนนักโทษคนอื่น ๆ ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใด ๆ

สำหรับนายสรยุทธ ถือเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยการลดโทษมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2563 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2563 กำหนดโทษหลังสุด 3 ปี 6 เดือน 20 วัน แต่จำคุกมาแล้ว 1 ปี 2 เดือน 6 วัน คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน 14 วัน จากโทษเดิม 6 ปี 24 เดือน นายสรยุทธ จึงถือเป็นนักโทษที่รับโทษจำคุกมาแล้วระยะหนึ่ง และมีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ

ทั้งนี้ ในห้วงเวลาที่ผ่านมา นายสรยุทธ เป็นที่ยอมรับของคนในวงการสื่อมวลชนและแฟนข่าว ด้วยลีลาและสไตล์การเล่าข่าว หลายคนอยากให้กลับมาทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการข่าวอีก จึงน่าจับตาอนาคตคัมแบควงการสื่ออีกหน 

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/EUIOQO7cGyk