การตรวจสอบโครงการโซล่าเซลล์สูบน้ำ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่ตรวจสอบอีก 6 จุด ครบทั้ง 12 จุดแล้ว พบ 1 จุด กลายเป็นโซล่าเซลล์ล่องหน ไม่มีแผงโซล่าเซลล์ที่เครื่องกรองน้ำ ทำให้ผลิตน้ำดื่มไม่ได้ และทั้งหมดไม่สามารถสูบน้ำได้ตั้งแต่แรก รวมที่ตรวจสอบ พบใช้การได้เพียง 2 จุด แต่ต้องมีอุปกรณ์อื่นเพิ่ม ป.ป.ช.จังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตั้งคณะกรรมการไต่สวนว่ามีการทุจริตหรือไม่

พ.ต.ท.ดร.ศิระปรุฬห์ ปวเรศจิรวงศ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ตั้งโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในหน่วยงานภาครัฐ ของ กอ.รมน.ภาค 3 ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน วงเงินงบประมาณ 45,590,000 บาท ในการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์แก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมระบบกรองน้ำในพื้นที่ 20 หมู่บ้าน

ซึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มี 12 จุด ได้ตรวจไปแล้ว 6 จุด พบใช้การได้เพียง 1 จุด เหลืออีก 6 จุด เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ได้ลงพื้นที่ 3 จุด ในตำบลเสาหิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่า ที่บ้านสล่าเชียงตอง ทั้งแผงโซล่าเซลล์ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องกรองน้ำ ไม่สามารถใช้การได้ ผู้ใหญ่บ้าน ยืนยันว่าตั้งแต่ติดตั้งในปี 2561 ก็ไม่เคยใช้การได้ จนถึงปีนี้ที่ปรากฏเป็นข่าวออกมา ไม่สามารถติดต่อผู้รับผิดชอบโครงการมาแก้ปัญหาได้ 

เช่นเดียวกับครูที่โรงเรียนประจำหมู่บ้าน ก็ยอมรับว่า ไม่เคยมีการมาทำประชาคมสอบถามความต้องการของชาวบ้าน ซึ่งผู้ใหญ่ยอมรับว่า ไม่มีการส่งมอบให้หน่วยงานใดในท้องถิ่นดูแล จึงเสียดายหากทิ้งร้างไว้ เป็นไปได้อยากให้ทางราชการมาจัดการให้ใช้การได้ จะเกิดประโยชน์อย่างมากกับประชาชน

ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ที่บ้านโพซอ เป็นจุดแรกที่พบโซลล่าเซลล์ล่องหน เนื่องจากไม่มีการติดตั้งโซล่าเซลล์บนเครื่องกรองน้ำ ที่ปกติจะต้องมีทุกจุด ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำได้ ส่วนอีก 2 จุด ที่บ้านสล่าเชียงตอง และบ้านแม่เจ ไม่สามารถใช้การได้ตั้งแต่แรก 

สำหรับผลการตรวจอีก 3 จุดวันนี้ ป.ป.ช.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ลงพื้นที่อีก 3 จุด ที่บ้านเด่น ระบบสูบน้ำ เครื่องกรองน้ำ ใช้ได้ไม่เต็มศักยภาพ แหล่งน้ำมีน้ำน้อย ต้องใช้ระบบสูบน้ำแบบสเมิร์ทมาใช้ แต่มีน้ำไม่เพียงพอ แต่ระบบเครื่องกรองน้ำ ไม่สามารถใช้การได้ตั้งแต่แรก เช่นเดียวกับบ้านสุดห้วยนา ใช้ได้ไม่ได้ตั้งแต่แรกเช่นกัน

ส่วนที่บ้านห้วยม่วง อ.สบเมย พบว่าระยะทางระหว่างเครื่องสูบน้ำ กับเครื่องกรองน้ำ ห่างกันกว่า 1 กิโลมตร เมื่อเครื่องสูบน้ำจากโซล่าเซลล์ใช้การไม่ได้ ชาวบ้านจึงใช้ประปาภูเขามาใช้แทนเพื่อจะได้ใช้น้ำ ซึ่งทั้ง 6 หมู่บ้าน พบว่ามีไฟฟ้าใช้และมีประปาภูเขา ทาง ป.ป.ช.จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงเตรียมสรุปทั้ง 12 จุด เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาว่า จะตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตหรือไม่

จากการตรวจสอบ 12 จุด พบมีการใช้การสูบน้ำได้เพียง 2 จุด แต่ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งทาง ป.ป.ช.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ทำหนังสือขอเอกสารชี้แจงจาก กอ.รมน.ภาค 3 เจ้าของโครงการ ไป 2 ครั้งแล้ว หากไม่มีกลับมาภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะสรุปผลการตรวจสอบ ส่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามขั้นตอน