กองปราบปรามเปิดปฏิบัติการจับกุม 50 ผู้ต้องหาทุจริตโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ในจังหวัดชัยภูมิ และภูเก็ต หลังมีเบาะแสฉ้อโกงเงินของรัฐ กว่า 100 ล้านบาท

จุดแรกที่จังหวัดชัยภูมิเข้าค้น 38 จุด ได้ผู้ต้องหา 41 คน เป็นเจ้าของโรงแรม 1 คน เจ้าของร้านค้า22 คน คนกลางที่รวบรวมสิทธิ์หรือสวมสิทธิ์ 14 คน ผู้รับจ้างเปิดบัญชี 3 คน ผู้รับจ้างบันทึกข้อมูลจองโรงแรม 1 คน

เคสนี้พบว่าเป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีแค่ 10 ห้อง และตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ถึงปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิโครงการ 9,263 คน ยอดจองห้องพัก 92,028 ห้อง เฉลี่ยต้องมีคนเข้าพัก 1,000 -3,000 ห้องต่อวัน คิดเป็นเงินกว่า 33 ล้านบาท ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทำเป็นขบวนการ จะให้ค่าตอบแทนกับประชาชนที่ขายสิทธิ์คนละ 400 - 500 บาท จากนั้นจะนำสิทธิ์ไปขายต่อให้โรงแรมในราคา 800-1,000 บาท

ส่วนที่จังหวัดภูเก็ต จับเจ้าของโรงแรม 3 คน ร้านค้า 2 คน คนกลางรวบรวมสิทธิ์ 5 คน ผู้รับจ้างบันทึกจองโรงแรม 4 คน และมีประชาชนร่วมทุจริตกว่า 800 คน ที่ภูเก็ตโรงแรมจะร่วมมือกับบริษัททัวร์ โปรโมทชักชวนประชาชนว่า หากจองห้องพักเต็มสิทธิ์จะให้เข้าร่วมทัวร์ 3 วัน 2 คืน แต่ไม่มีการเข้าพักจริง รวมความเสียหายทั้ง 2 กรณีกว่า 100 ล้านบาท

โดยสรุปแล้วพบวิธีโกงมี 4 รูปแบบ คือ เปิดให้จองห้องพัก แต่ไม่มีการเข้าพักจริง นำคูปองที่ได้หลังจากเช็คอินห้องพักไปสแกนใช้จ่ายกับร้านค้าแต่ไม่มีการซื้อสินค้าจริง โรงแรมไม่ได้เปิดให้บริการ แต่เปิดให้จองห้องพัก และตั้งราคาห้องสูงกว่าความเป็นจริง

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง / ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น / ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ / นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ และยังพบเคสที่ต้องสงสัยและอยู่ระหว่างตรวจสอบอีก 900 ราย