อาชญากรรม
'เสี่ยโป้' ชินเจอ ตร.ค้นบ้านบ่อย ยันคำเดิมไม่ได้ยิงพร้อมสู้คดี ค้นบ้านคู่กรณีเจอยาเค-อาวุธ
11 พ.ย. 2563
1.4K views
เมื่อวานนี้(10พ.ย.) ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี สนธิกำลังกองกำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 และหน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น 7 คูหา ซอยเพชรเกษมซอย 44 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ
ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันพยายามฆ่า เหตุเกิดในท้องที่ สน.ภาษีเจริญ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พบนายเสี่ยโป้ ยังนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านพร้อมแม่และภรรยา ประกอบกับมีคนงานเย็บผ้าจำนวนหนึ่ง ผลการตรวจค้นในเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
พันตำรวจเอกจิรกฤต จารุนภัทร์ ผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เผยว่า การนำกำลังเข้าตรวจค้น สืบเนื่องจากทางผู้บังคับบัญชาสั่งการให้กำลังพลชุดปฏิบัติงานเข้าหาหลักฐานเพิ่มเติม ในคดีที่ยิงกันหน้าร้านสรีนวดแผนโบราณและซาวน์น่า จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
พร้อมระบุว่าไม่ได้เข้าตรวจค้นแค่จุดเดียว แต่ยังมีการขออนุมัติหมายค้นจากศาลเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยรายอื่น ๆ ที่เกี่ยวพันกันในลักษณะเครือข่ายด้วย โดยเฉพาะที่พักของทางฝั่งคู่กรณีที่มีปัญหากับเสี่ยโป้ ได้มีการประสานกับทาง สืบสวน บก.น.7 และท้องที่ที่รับผิดชอบเข้าทำการตรวจค้นด้วยเช่นกัน
นายเสี่ยโป้ เปิดเผยหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจถอนกำลังกลับจากบ้านพักว่า การตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและมั่นใจในความบริสุทธิ์พร้อมต่อสู้คดี ส่วนการตรวจค้นบ้านเป็นครั้งที่สอง ถือว่าตำรวจทำไปตามหน้าที่ และทราบว่าตำรวจก็ไปตรวจค้นบ้านคู่กรณีก็ถือว่าให้เป็นธรรมดับตนเอง ใคร ๆ ที่กล่าวหาว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพลก็จะได้รู้ว่าตนไม่มีอะไร ส่วนในเรื่องคดีความกับคู่กรณี ก็ได้ตั้งทนายความต่อสู้คดีตามพยานหลักฐานว่าเราไม่ได้ยิงใส่กลุ่มผู้บาดเจ็บ
ต่อมาในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้ประสานกับฝ่ายสืบสวน บก.น.7 และ สน.บางยี่ขัน นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 151/9-10 ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.ซึ่งเป็นบ้านพักของนายธนบดี หรือตั้ว อิ่มใจ อายุ 32 ปี ฝ่ายคู่กรณีที่มีปัญหากับนายเขมทัต หรือเสี่ยบุ๊ก ชัชอานนท์ อายุ 25 ปี น้องชายเสี่ยโป้ จนเกิดเหตุวุ่นวาย หน้าร้านนวดแผนไทยเสรี เซาว์น่าแอนด์สปา ถนนราชพฤกษ์ มีการยิงกันทำให้มีคนเจ็บ 2 ราย
โดยบ้านดังกล่าวเป็นตึกแถวสูง 4 ชั้น เบื้องต้นไม่พบว่านายธนบดี อาศัยอยู่ในบ้าน จากการตรวจสอบภายในบ้านพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนหลายรายการ ในบ้านพักพบผู้อาศัยชื่อนายวรัตน์ หรือก๊อต วงศ์เพ็ชรเขียว อายุ 21 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลาง
ด้าน พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผย เมื่อวานนี้ (10พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตรวจค้น 13 จุด ในกรุงเทพมหานคร ในนั้นมีเป้าหมายคืออาคารพาณิชย์ 5 ชั้น 7 คูหา ซอยเพชรเกษม ซอย 44 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ ซึ่งเป็นบ้านของนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ หรือ เสี่ยโป้ อยู่ด้วย เป้าหมายทั้ง 13 จุด มีฝ่ายของเสี่ยโป้ 10 จุด และฝ่ายนายธนบดี อิ่มใจ หรือ ตั้ว คู่กรณีอีก 3 จุด ตามหมายจับ 7 หมาย ซึ่งเป็นหมายจับคดีอาวุธปืนของฝ่ายเสี่ยโป้
การตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลจากคดีร่วมกันพยายามฆ่า ที่พวกของเสี่ยโป้ยิงกับคู่กรณีที่หน้าร้านนวดสรี ท้องที่ สน.ภาษีเจริญ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นการหาหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนคดียิงกันที่หน้าร้านนวดสรี อยู่ระหว่างรวบรวมพยายหลักฐาน ใครใช้อาวุธปืนก่อเหตุจะต้องถูกดำเนินคดี แต่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบให้แน่ชัด อีกทั้งยังกำชับตำรวจท้องที่ในฝั่งธนบุรีที่มีกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมความรุนแรง ไม่ให้มีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า จากการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ สน.ภาษีเจริญ คดีอาวุธปืน ได้ 3 คน คือนายนราศักดิ์ ฟักทอง หรือต้น , นายอรรถพล สมเสือ หรืออาร์ทโอรส และนายสราวุธ กฤษณะสุคนธ์ หรือตูน
นอกจากนี้จับกุมผู้ต้องหาคดีครอบครองอาวุธปืนและยาเสพติด 1 คน คือ นายสันติรักศ์ คุมมงคล /จับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาเสพติด 1 คน คือ นายวรรัตน์ วงศ์เพ็ชรเขียว ยึดอาวุธปืนได้ 4 กระบอก ประกอบด้วย ปืนยาวแอสแต็ก ขนาด 9 มม. ลูกซองยาว ยี่ห้อเดย่า , ปืนพกยี่ห้อแบเร็ตต้า ขนาด 9 มม. , ปืนพกยี่ห้อคิมเบอร์ ขนาด 11 มม. ทั้งหมดยึดได้จากบ้านของนายธนบดี อิ่มใจ หรือ ตั้ว มีทะเบียนถูกต้องทุกกระบอก เครื่องกระสุนอาวุธปืนลูกซองและ 9 มม. จำนวน 137 นัด และยาเคตามีน 50 กรัม และอีก 1 ถุง /ส่วนปืนอีก 1 กระบอก ยึดได้จากทางฝั่งของเสี่ยโป้ รวมอาวุธปืนทั้งหมดที่ยึดได้จำนวน 5 กระบอก
ขณะที่นายเสี่ยโป้ เดินทางไปที่ สน.ภาษีเจริญ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักของตนจนชินแล้ว ปีนี้ถูกตำรวจเจ้าตรวจค้นบ้านไปถึง 6 ครั้ง หลังจากเกิดคดียิงกันถูกค้น 3 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยพบสิ่งผิดกฎหมาย มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเองพร้อมต่อสู้คดี
เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทครั้งล่าสุดนี้ ต่างสมัครใจกันที่จะมาหาเรื่องที่ร้านสรี ต่างฝ่ายต่างมีปืนแต่ไม่ทราบว่าใครมีบ้าง แต่สุดท้ายไม่ว่าใครจะเจ็บก็มาร้องขอความเป็นธรรมกับสังคม ตนก็ยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจค้นของตำรวจ ยืนยันว่าตนเป็นคนธรรมดา ไม่ได้ใส่เสื้อเหลืองแล้วจะไม่โดนจับ ตอนนี้ยอมรับว่าชื่นใจขึ้นเพราะ พลตำรวจเอกสุชาติ ธีรสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาคุมคดีเอง
ส่วนเรื่องคดีความฝั่งตนยังไม่มีหลักฐานมากพอจะแจ้งความกลับคู่กรณี เพราะไม่มีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันได้ว่าเพื่อนตนไม่ได้จ่อยิงคู่กรณีตามที่เขาให้ข่าวไปแน่นอน เพราะที่เกิดเหตุไม่มีคราบเลือด แต่มีคราบเลือดอยู่ริมถนน เชื่อว่ากล้องของทางหลวงจะต้องเห็นแน่นอน หากตำรวจจะมาค้นอีกก็มาเลย เพราะตนไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย หากชนะคดีนี้ก็จะฟ้องกลับแน่ โดยจะให้นางศรันยา หวังสุขเจริญ หรือทนายนิด้า แจ้งความฐานหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/dlrMT75QoDU
แท็กที่เกี่ยวข้อง