สังคม
กงสุลใหญ่เอสโตเนียแจงยิบ ที่แท้คือนักการทูตอียู นิติฯ ย้อนถามรัฐบาลไหนบอกตัดสิทธิ์ VIP
17 ก.ค. 2563
5.3K views
กรณี สถานทูตเอสโทเนีย ส่งบุคคลจากสถานทูต จำนวน 1 คนขอเข้าพักในคอนโดมิเนียมมิลเลนเนี่ยม เรสซิเด้นท์ แต่ไม่ได้รับการยินยอมจากฝ่ายอาคารและนิติบุคคล ขณะที่ ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์เอสโตเนียประจำกรุงเทพฯ โพสต์ชี้แจง จนท.ทูตขอกักตัวคอนโดเป็น “นักการทูตอียู”
โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 หวั่นซ้ำรอยกรณีของลูกสาวอุปทูตซูดานที่ติดเชื้อวิด-19 แล้วกักตัวที่คอนโด จึงเกรงว่าจะกระทบลูกบ้าน ที่มีอยู่ถึง 604 ห้อง ซึ่งมีการเจรจานานหลายชั่วโมง
นางนาตาชา รอยส์ รองประธานกรรมการ บริษัท พีพีเอ็ม จำกัด ซึ่งบริหารพื้นที่นิติบุคคลอาคารชุดมิลเลนเนี่ยมเรสซิเด้น เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ได้รับการติดต่อจากสถาทูตเอสโทเนีย แจ้งว่าจะมีคนจากสถานทูตเข้าพักกักตัว 14 วันที่คอนโดฯนี้ โดยมีการส่งเอกสารการตรวจหาเชื้อโควิด ทั้งจากสถานทูตต้นทาง และ ที่สนามบินสุวรรณภูมิแจ้งมายังนิติบุคคล
ซึ่งทางนิติบุคคลได้พิจารณาแล้วยืนยันว่า ไม่อนุญาตให้ บุคคลดังกล่าวเข้าพักเพื่อกักตัว เนื่องจากหากมีการติดเชื้ออาจส่งผลกระทบกับลูกบ้านอีก 604 ห้อง ขณะเดียวกันห้องพักที่มีการเช่าไว้ เป็นการเช่าในนามบุคคล ไม่ใช่ในนามสถานทูต จึงเจรจาขอให้ไปพักที่อื่น
ซึ่งทางตัวแทนของสถานทูตไม่ยินยอม โดยอ้างเอกสิทธิ์ทางการทูต ในการเข้าพัก ทางนิติบุคคลจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ สำนักงานเขตคลองเตย ให้เข้ามาช่วยดูแลสถานการณ์หากเกิดความไม่พอใจของลูกบ้าน
อย่างไรก็ตาม นางนาตาชา แจ้งว่าได้ประสานไปยัง ศบค. เพื่อให้ช่วยประสานเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ได้รับการแจ้งให้ประสานไปยังสถานทูตเอง เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างคอนโดฯ และสถานทูต
นายพิสุทธิ์ รักวงษ์ ผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดมิลเลนเนียม เรสซิเดนซ์ ตั้งคำถามจากเหตุการณ์นี้ไปถึงรัฐบาลว่า ไหนบอกว่าไม่มีการยกเว้นสิทธิพิเศษให้กลุ่มวีไอพีแล้ว ทำไมยังเกิดกรณีนี้ หากทางชุมชนคือ คอนโดฯไม่มีความเข้มแข็งยอมให้เจ้าหน้าทูตเข้าพักอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาได้
และระหว่างการเจรจาทางกระทรวงต่างประเทศยังเสนอให้ทางคอนโดฯรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทางสถานทูต หากจะไม่ยอมให้เข้าพัก ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง
ขณะที่ ผู้อำนวยการเขตคลองเตยได้ลงมาช่วยให้คำปรึกษาและประสานงานแล้ว ล่าสุดเมื่อเวลา 22.20 น. ผู้แทนสถานทูตเอสโตเนีย ได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอให้จัดสถานที่พักให้ และยินยอมที่จะย้ายไปพักยังสถานที่ที่กระทรวงการต่างประเทศจัดหาไว้ให้
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้อำนวยการเขตของเตยได้ทำการตรวจสอบและขอให้ทางสถานทูตแจ้งกลับว่าไปพักที่ใดเพื่อให้สามารถติดตามได้หากพบการติดเชื้อในภายหลัง
ล่าสุด ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์เอสโตเนียประจำกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Virachai Techavijit ระบุว่า ขอชี้แจงเรื่องข่าวบิดเบือนที่ว่านักการทูตเอสโตเนียเข้าเมืองไทยในฐานะนักการทูตเอสโตเนีย
โดยข้อเท็จจริงปรากฎว่าท่านนี้เป็นนักการทูตของ European Union (EU) ประจำประเทศไทย จึงถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของ EU ดังนั้น EU จึงต้องปฎืบัติตามกฎระเบียบของ ศบค.อย่างเคร่งครัด ทั้งประเทศเอสโตเนียและสถานกงสุลใหญ่ของข้าพเจ้าไม่ทราบการเข้าออกประเทศไทย และจะเข้าไปก้าวก่ายการปฎิบัติราชการของ EU ไม่ได้
คาดว่าวันนี้ทาง EU หรือกระทรวงต่างประเทศ หรือ โฆษกของ ศบค. คงจะได้แถลงข้อเท็จจริงของความสับสนนี้ให้ทราบต่อไป
ชมผ่านยูทูปที่นี่ : https://youtu.be/xi9AQf5jENY
แท็กที่เกี่ยวข้อง