นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19ประจำวันที่ 1 มิ.ย. 2563

พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเพียง 1 คน เป็นหญิงไทย อายุ 43 ปี ถูกกักตัวหลังเดินทางกลับมาจากประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ตรวจหาเชื้อครั้งแรกไม่พบ จึงมีการตรวจซ้ำครั้งที่สอง เมื่อ 31 พ.ค. พบเชื้อโควิด-19 แบบไม่แสดงอาการ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใน จ.ชลบุรี

- รวมติดเชื้อสะสมแล้ว 3,082 คน

- รักษาหายเพิ่มอีก 2 คน

- รวมรักษาหายแล้ว 2965 คน

- กำลังรักษา 60 คน

- ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิต 57 คนเท่าเดิม

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วานนี้ (1 มิ.ย.) เป็นวันที่ 7 แล้วที่ยังไม่พบการแพร่ระบาดภายในประเทศ ผู้ป่วยที่พบยังพบจากกรณีกลับจากต่างประเทศเท่านั้น แต่เพียง 7 วันยังไม่น่าไว้วางใจเพียงพอ ต้องไม่พบภายในประเทศอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ถึง 3 สัปดาห์ ถือว่าขณะนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะเป็นวันแรกที่การผ่อนคลายระยะที่ 3 โดยเฉพาะกิจการที่มีความเสี่ยงระดับเสี่ยงสูงและระดับปานกลาง

จึงย้ำให้ประชาชนทุกคนต้องเข้มงวดในการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งการ ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง โดยเฉพาะการใช้แอพพลิเคชั่น ไทยชนะ มีความจำเป็นอย่างมากหากพบ มีผู้ป่วยเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เราสถานที่เราใช้บริการ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาแจ้งเพื่อให้มาเข้ารับการตรวจ ป้องกันการแพร่ระบาดได้ ดังนั้นหากการผ่อนคลายระยะที่ 3 สำเร็จการผ่อนคลายระยะที่ 4 ก็จะตามมาอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีการถามถึงกิจการ กิจกรรมอื่นๆ ที่อาจจะพิจารณาให้เปิดเพิ่มเติม อย่างเช่น บาร์ ผับ สถานบริการ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า คาดว่าจะมีการให้กลับมาเปิดในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 ซึ่งจะให้กลับมาเปิดต่อจากที่อนุญาติให้เปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน ที่อยู่ในเฟสที่ 4 ได้เสียก่อน

ซึ่งในกรณีของโรงเรียน มีการคาดการณ์ว่า จะกลับมาเปิดได้ในวันที่ 1 ก.ค. นี้  ซึ่งอาจใช้วิธีการสลับกันเรียน โดยการสลับวันกันเรียน หรือ สลับเวลากัน โดยแบ่งเป็นนักเรียนเป็นกลุ่ม

ส่วนการชดเชยวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการหยุดชดเชยในเดือน ก.ค. นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องเวลาในอนาคตจะถูกกำหนดโดยสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเดือน ก.ค. จะมีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับมาตรการในเดือน มิ.ย.หากผ่านสถานการณ์ผ่อนคลายระยะ3 ไปได้ด้วยดี การชดเชยวันหยุดก็อาจจะเกิดขึ้น ใน เดือน ก.ค. รวมถึงการยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วย

นอกจากนี้เรื่องของการท่องเที่ยว มีการคาดการณ์ว่าหากตัวเลข และแนวโน้มผู้ติดเชื้อเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เดือนส.ค. 63 อาจจะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาในประเทศไทย แต่อาจจะต้องหามาตรการรองรับอย่างการกักตัว 14 ตัว หรือ การขอใบรับรองแพทย์ก่อนเข้าประเทศไทย

รวมไปถึงกรณีคนไทยที่ต้องการออกนอกประเทศ  ซึ่งประเทศญี่ปุ่นมีสัญญาณว่าอาจจะไฟเขียวให้คนไทยเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้แล้ว แต่จะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 2 รอบก่อนจะเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/LiOsBebpyRo