ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน จึงส่งผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับแวดวงธุรกิจอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

เริ่มกันที่ประเทศอิตาลี เป็นประเทศที่ประกาศล็อคดาวน์อย่างเป็นทางการทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนแห่กักตุนอาหารเป็นจำนวนมาก เพื่อให้พอเพียงระหว่างการใช้ชีวิตแบบเลี่ยงการออกมาภายนอก

โดยประชาชนส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การกักตุนวัตถุดิบอาหารที่จำเป็น และสามารถเก็บไว้ได้นาน ซึ่งหนึ่งในนั้นแน่นอนคือ เส้นพาสต้า การที่เป็นอาหารแห้งอเนกประสงค์ สามารถนำไปทำได้หลายเมนู และยังเป็นอาหารประเภทแป้งที่มีโปรตีนสูง ที่สำคัญอาหารชนิดนี้เป็นอาหารอิตาเลียนแบบต้นตำรับที่อยู่คู่ประเทศมายาวนาน

ด้านผู้จัดการซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง กล่าวว่า เส้นพาสต้าในชั้นวางของจะถูกหยิบและเลือกไปอย่างรวดเร็วเสมอ ทันทีที่พนักงานนำมาเติม โดยเฉพาะชนิดเซโลนีพาสต้า ซึ่งเป็นแป้งที่ผ่านกระบวนการโม่หลายขั้นตอน จนมีเอกลักษณ์เหนียวนุ่ม ยังเป็นพาสต้าเพื่อสุขภาพด้วย

ทางด้านผู้ผลิตเส้นพาสต้าเผยว่า  อุตสาหกรรมการผลิตเส้นพาสต้า เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ. ตามปกติแล้วทางบริษัทจะส่งพาสต้าสู่ตลาดวันละประมาณ 500 ตัน แต่ทุกวันนี้ต้องส่งปริมาณมากถึง 800 ตันต่อวัน ซึ่งถ้าเทียบกับปี 62 แล้ว ขณะนี้พวกเขาต้องส่งสินค้ามากขึ้นถึง 60%

ผู้ผลิตกล่าวต่ออีกว่า ไม่ใช่แค่ประเทศอิตาลีเท่านั้น ที่กำลังเกิดการกักตุนพาสต้าจนขาดตลาดในประเทศสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งทางบริษัทได้ทำการค้าส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้กำลังขาดตลาดเช่นกัน

ทางฝั่งร้านอาหารธุรกิจขนาดเล็กในประเทศสเปน ที่เหล่าเจ้าของร้านกำลังประสบปัญหา จากการระบาดของโควิด-19 เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทางเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง เล่าว่า รายได้ของร้านลดลงอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา ลูกค้าที่เข้ามาในร้านเลือกที่จะซื้อขนมปังเพียงเท่านั้น เพราะว่าส่วนใหญ่อยู่ในช่วงกักตัวจึงมีเวลามากขึ้นที่จะทำเมนูอาหารอื่น ๆ ด้วยตัวเอง

ปิดท้ายในประเทศเยอรมนี มีกิมมิคแปลกตาจากร้านขนมแห่งหนึ่ง ที่ขอพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยไอเดียที่ดึงดูดลูกค้า หันมาสนใจขนมของร้านมากขึ้น เป็นการสร้างสรรค์เค้กในออกมาเป็นรูปร่างสินค้าที่เป็นต้องการในช่วงนี้