ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ฉะตรงๆ ต่อหน้าผู้กำกับหนัง 'The Cave นางนอน' สร้างไม่ตรงเรื่องจริง

สังคม

ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ฉะตรงๆ ต่อหน้าผู้กำกับหนัง 'The Cave นางนอน' สร้างไม่ตรงเรื่องจริง

โดย

26 พ.ย. 2562

14.9K views

หลังจากวานนี้ เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (25 พ.ย.62) มีการฉายภาพยนต์ ที่ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง กลุ่มเซ็นทรัล จังหวัดลำปาง ร่วมกับโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง (ผู้ว่าหมูป่า) , ผู้กำกับชื่อดัง ทอม วอลเลอร์ แห่ง เดอ วอร์เรนท์ พิคเจอร์ม, และอาสาสมัครตัวจริงบางส่วนที่เคยเข้าร่วมภารกิจ นำโดย จิม วอร์นี่ นักดำน้ำชาวเบลเยี่ยม ร่วมชมและเปิดรอบปฐมทัศน์การกุศลภาพยนตร์แห่งปี เรื่อง THE CAVE นางนอน 
โดยเชิญร่วมบริจาคเงินเพื่อนำรายได้ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้นำสมทบช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยภิบัติต่างๆ ใน จังหวัดลำปาง ( ไฟป่า,หมอกควัน) และ สบทบทุน น.ต. สมาน กุนัน (จ่าแซม) ผู้ที่ถูกขนานนามว่า “วีรบุรุษแห่งถ้ำหลวง”
ทั้งนี้เมื่อนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง (ผู้ว่าหมูป่า) มาถึง และได้พบกับ ทอม ผู้กำกับฯได้มีการระบายความรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับภาพยนต์เรื่องดังกล่าว ก่อนที่จะเข้าไปในโรงภาพยนต์ว่า ในบทภาพยนต์บางส่วนไม่ตรงกับเรื่องจริง นายทอมก็บอกว่าเป็นภาพยนต์ ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ ได้บอกว่าใช้เป็นภาพยนต์ แต่การพรีเซนต์คุณใช้คำว่าสร้างจากเรื่องจริง ทำให้หลายคนรับไม่ได้ เพราะหนังเรื่องนี้จริงๆ มันน่าจะสร้างความสามัคคีให้กับคนได้ให้กับโลกได้ เพราะมันเป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับความสามัคคี แต่มุมมองมันต่างไป
ซึ่งทอมได้บอกว่าเข้าใจ แต่ที่นำเสนอคืออยากให้เห็นการทำงานกู้ภัยของจิม มากกว่า ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์บอกว่า ใช่แต่การนำเสนอหรือสื่อต้องให้เห็นว่าโฟกัสให้เห็น อยู่ที่คนๆเดียว ซึ่งคนที่ทำงานเป็นหมื่นคนเขาก้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แล้วความสำเร็จในเรื่องอื่นๆมันหายไปจากบท ไม่มีการพูดถึง ซึ่งก็มีการตอบโต้กันเล็กน้อย เพราะส่วนของทอมก็บอกว่าเรื่องที่ตนทำก็เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่งเท่านั้น  
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า เข้าใจแต่ควรจะนำเสนอถึงหนึ่งชีวิตที่ยากลำบากเพื่อแสดงให้เห็นความสามัคคีในโลกนี้ยังมีอยู่ แต่เราไม่ได้พูดภาพรวม ซึ่งนายทอมก็พูดถึงปัญหาในการขออนุญาตกับหน่วยงานไทยมาก
หลังจากนั้นเมื่อเข้าไปยังภายในโรงภาพยนต์ นายณรงค์ศักดิ์ ได้กล่าวก่อนที่จะฉายภาพยนต์ว่า ที่ผ่านมามีหลายที่ที่เชิญให้ตนเองไปร่วมชมภาพยนต์ด้วยแต่ตนเองปฎิเสธ แต่ลำปางคือบ้านก็เลยต้องมาในวันนี้ ดังนั้นอยากบอกก่อนว่าหากเราต้องการชมภาพยนต์เรื่องนี้ เป็นแบบสารคดีหรือเรื่องจริง อาจจะไม่เหมือนกับที่เราคาดคิด 
ตนเองชื่นชมคุณทอมและทีมงานเรื่องการทำโปรดักชั่นในเวลาที่จำกัดและก็อยากทำภาพยนต์เรื่องนี้ออกมาเพราะมันจะกลายเป็นประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่ง แต่ในส่วนตัวของตนเองขอชื่นชมเรื่องที่เก็บรายละเอียดของจ่าแซม ซึ่งในธีมหรือความรู้สึกของตนเองจ่าแซมคือวีระบุรุษตัวจริงของเหตุการณ์นี้ รวมถึงมีคนไปร่วมในเหตุการณ์กว่าหมื่นคน แต่เราสูญเสียจ่าแซมไปเพียงคนเดียว และหลังจากนั้นทำให้พวกเราทำงานอย่างละเอียดและรอบคอบมากขึ้นและไม่ให้เกิดการสูญเสียขึ้นอีกเลยจนทำงานสำเร็จ 
แต่ในฐานตนเองเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ขอเสริมความรู้เพิ่มเติมจากการดูภาพยนต์และจะทำให้เข้าในบริบทมากขึ้น หากถามว่าภาพยนต์เรื่อง THE CAVE นางนอน เป็นยังไงก็ขอบอกว่าเป็นการนำเสนอวีระบุรุษท่านหนึ่งคือจิม วอร์นี่ นักดำน้ำชาวเบลเยี่ยม จ่าแซม และทีมงานนักดำน้ำที่เข้าไปช่วยอย่างอยากลำบาก เราชื่นชมในโปรดักชั่น ที่ได้ทำการพาตัวเด็กและโค้ชออกมาจากถ้ำยากเย็นแค่ไหน ใครที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์จะไม่รู้ 
ตนเองยอมรับว่าตอนแรกที่รู้เรื่องก็ไม่คิดว่าจะยากขนาดนั้นแต่พอไปอยู่หน้าถ้ำถึงรู้ว่ายากประกอบกับมีคนกว่าหมื่นคนที่ประสงค์มาอยู่หน้าถ้ำ บางส่วนประสงค์มาช่วยอย่างจริงใจ บางส่วนอยากมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โปรโมทตัวเองหรืออะไรบางอย่าง สิ่งที่ภาพยนต์เรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายทอดคือ จริงๆ แล้วเราแบ่งการปฎิบัติงานออกเป็น 4 แผน คือ
1.สูบน้ำออกเท่าที่นักดำน้ำต้องการเพื่อให้นักดำน้ำเข้าไปช่วยเด็กออกมา 
2.เดินทางโพลงบนยอดดอยเพื่อหาทางเข้าถ้ำ 
3.หาเส้นทางของน้ำที่ไหลเข้าถ้ำ 
4.หาจุดผนังถ้ำที่บางที่สุดและหาจุดที่เด็กอยู่และเจาะถ้ำ
ตนเห็นความตั้งใจของทอมที่ต้องการสร้างภาพยนต์เรื่องนี้โดยเฉพาะโปรดักส์ชั่นต่างๆและด้วยข้อจำกัดหลายอย่างรวมถึงข้อจำกัดของเวลา แต่ทั้งนี้ตนอยากให้ภาพยนต์ที่ออกมาเห็นถึงความร่วมไม้ร่วมมือการประสานงานกันของกลุ่มคนกว่าหมื่นคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในครั้งนี้แต่ไม่ปรากฎในภาพยนต์
ซึ่งหากความสำเร็จที่เกิดขึ้นก็ขอให้นึกถึงคนเหล่านั้นด้วยโดยเฉพาะจ่าแซม และอยากฝากเรื่องราวบางอย่างที่ปรากฎในภาพยนต์ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่มีคนมาเล่าให้ผู้กำกับฟัง ซึ่งอาจจะไม่ได้เช็คและเป็นมุกที่เราไปโจมตีการทำงานของราชการไทย ซึ่งเราอาจจะคิดว่าเอาสื่อเพื่อให้คลายความเครียดคลายความกดดันลงไปได้ แต่มันเป็นมุกที่ข้าราชการอย่างตัวเอง เสียความรู้สึกและเสียใจเหมือนกันที่ไม่ได้ทำเหตุการณ์ตรงนั้นเกิดขึ้น แต่ถูกนำล้อเลียนในภาพยนต์ที่จะนำไปฉายทั่วโลก เช่นฉากที่มีการแลกบัตร และการด่าว่าหากอยากใหญ่ก็ไปใหญ่ที่จังหวัดของคุณโน้น รวมถึงการติดต่องานที่เจ้าหน้าที่หญิงบอกว่าให้ไปที่ศาลากลางจังหวัด ซึ่งเรื่องจริงก็ยังไม่รู้เลยว่าเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นเป็นใคร และไม่เคยให้ไปติดต่องานที่ศาลากลาง 
ตนเองในฐานะทีมปฎิบัติการทั้งหมดก็ขอบ่นในจุดนี้นิดหนึ่ง แต่อยากบอกว่าเรื่องนี้ท่าเป็นความดียังไงขอขอบคุณคุณทอมและทีมงานของตนอีกกว่าเก้าพันกว่าชีวิตซึ่งไม่นับตนเอง เพราะตนเองจะพูดสมอว่าตนเองคือจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย เพราะหากจิ๊กซอว์ทุกตัวที่ส่งมาถึงมือตนเองไม่ดี ไม่ทางที่ภาพจะออกมาสวยหรู ตนเองแค่ลงตัวสุดท้ายเท่านั้น 
ฉะนั้นขอให้ความดีอยู่ที่คณะทำงานทุกท่านรวมถึงจ่าแซม ดังนั้นหากใครชมแล้วก็ขอให้เข้าใจว่ามันคือภาพยนต์ ไม่ใช่สารคดี จริงแล้วควรจะใช้คำว่า บทภาพยนต์ คนจะได้เข้าใจ เพราะหากเราบอกว่าเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงแต่หลายเรื่องมันไม่จริงแม้แต่ตัวละครหลายตัวก็ไม่สามารถบอกได้ว่าคือใคร คอสตูมต่างๆอาจจะไม่ตรง
ขณะที่ทอม ได้บอกว่าผมเข้าใจผู้ว่าฯ ที่อาจจะบอกว่าตรงนั้นไม่ตรง ตรงนี้ไม่ตรง แต่อยากให้เห็นถึงการช่วยชีวิตเด็กออกจากถ้ำจากทีมกู้ภัยใต้น้ำซึ่ก็ใช้คนที่เข้าไปช่วยจริงๆมาแสดงซึ่งก็คิดว่าตนเองถ่ายทอดในส่วนนี้ได้สมบูรณ์ แต่ส่วนอื่นเนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ก็อาศัยการบอกเล่าจากผู้ที่เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ประกอบด้วย และคิดว่าหนังเรื่องนี้จะไปไกลทั่วโลก 
ส่วนในหนังเรื่องนี้ตนเองก็ต้องบอกว่าได้ใส่ประเด็นบางอย่างที่อยากเล่าเข้าไป เพราะไม่ได้ตามนักข่าวตลอดและก็มีการนำเสนอสารคดีไปเยอะแล้ว ซึ่งก็ต้องมีที่ตนเองอยากเอามาใส่ในหนัง ซึ่งได้เขียนบทไว้ และรู้สึกว่าคนไทยควรจะรู้ว่ามันมีแบบนี้ด้วยนะ เช่นความลำบากในการเข้าไปช่วย บางคนอยากไปช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยยังไง หรือไม่มีบัตรเข้า แบบนี้ก็ถือว่าน่าสนใจอยากเล่าตรงนี้ด้วย เราไม่ได้เข้าข้างใคร เพราะเหตุการครั้งนี้มีอะไรหลายอย่างที่สามารถนำมาใส่ในหนังได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ