ประชาสัมพันธ์

"อนุทิน" จ่อลง​พื้นที่อุบลฯ ติดตามการเพิ่มประสิทธิภาพ เฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยระดับพื้นที่​ แก้น้ำท่วม​วาริน​ชำราบซ้ำซาก

โดย panisa_p

12 มิ.ย. 2568

16 views

“อนุทิน”​ จ่อลง​พื้นที่อุบลราชธานี​ เพื่อติดตามการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนภัยระดับพื้นที่​ -​ แก้น้ำท่วม​วารินชำราบ​ ซ้ำซาก ด้านนายอำเภอ​ยอมรับ​ สถานการณ์​น้ำแม้สุ่มเสี่ยง​ แต่ยังรับมือได้​ ขณะชาวบ้านขอหน่วยงานรัฐร่วมแก้จริงจัง​ วอนปรับการเยียวยาให้เร็วขึ้นเหตุต้องกู้หนี้ยืมสิน




นายอนุทิน​ ชาญ​วีรกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ เตรียมลงพื้นที่อำเภอวารินชำราบ​ จังหวัดอุบลราชธานี​ เพื่อติดตามการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนภัยระดับพื้นที่ และติดตามโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วม พื้นที่ชุมชนพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ก่อนจะเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก​ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าวารินชำราบ​ เป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำมูลก่อนออกแม่น้ำโขง​



โดยนายอำนวยศักดิ์​ นวลศิริ นายอำเภอ​วารินชำราบ​ กล่าวถึงแผนการรองรับน้ำ พื้นที่อำเภอวารินชำราบในปีนี้​ว่า​ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ลงพื้นที่อำเภอวารินชำราบหลายครั้ง ร่วมกับเทศบาลเมืองวารินชำราบ ซึ่งขณะนี้มีความพร้อม เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชน กรณีหากเกิดปัญหาน้ำท่วม พื้นที่อำเภอวารินชำราบติดแม่น้ำมูล ซึ่งส่วนมากเป็นพื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงมีชุมชนเมืองก็มีอยู่หลายชุมชน​ แต่ทุกภาคส่วนได้ประชุมหารือ เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ไว้ทั้งหมดแล้ว​ หากเกิดน้ำท่วมจริงก็พร้อมที่จะรับมือ​ และในส่วนจังหวัดก็ได้ติดตามการพยากรณ์อากาศ พร้อมกับติดตามเฝ้าระวังการระบายน้ำในพื้นที่ ที่บางแห่งเป็นปัญหาจริงๆ เช่น​ บริเวณจุดกลางระหว่างเทศบาลเมืองวารินชำราบกับเทศบาลตำบลแสนสุข​ ที่เมื่อเกิดฝนตกเพียงนิดเดียวก็จะเกิดน้ำท่วมขัง​ แต่เรามีการทำงานในระดับมหภาคที่ทำงานร่วมกัน ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือ ปภ.​ กรมชลประทาน​ และกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น​



ส่วนการระบายน้ำ เทศบาลมีการตั้งจุดระบายน้ำ เพื่อสูบน้ำออก​ 2 จุดใหญ่ๆ​ อย่างที่วัดเสนาวงศ์​ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และเมื่อเกิดสถานการณ์จริงการอพยพประชาชน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว อย่างไรก็ตามสถานการณ์การระบายน้ำขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวล ทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับในพื้นที่ สถานการณ์น้ำในขณะนี้อยู่ในระดับที่ยังรับได้



เมื่อถามว่ามั่นใจว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้จะไม่ท่วมใช่หรือไม่ นายอำเภอวารินชำราบกล่าวยอมรับว่า ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่ขณะนี้มีการพร่องน้ำของเขื่อนไว้​ แล้วคาดว่าน่าจะระบายได้ แต่ขณะนี้หากดูจากสภาพน้ำ ก็มีความสุ่มเสี่ยงเหมือนกัน​ เนื่องจาก ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ระดับน้ำในปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ไว้วางใจอะไรทั้งสิ้นต้องเตรียมการไว้ตลอด​ สืบเนื่องจากฝนมาเร็วขึ้น​ ขณะที่การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จะนำบทเรียนของปีที่ผ่านมามาปรับใช้ในปีนี้ให้ดีขึ้น​ มีการถอดบทเรียนเรื่องของความล่าช้าในการเยียวว่ามีความผิดพลาดจุดใด ก็ต้องนำมาปรับแก้ไขให้ดีที่สุด



ด้านนายเรวัฒน์ สุนทรสถาพร​ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี กล่าว ถึงการเสนอแผนงานโครงการในวันพรุ่งนี้ต่อที่ประชุม​ ว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมชลประทาน ซึ่งชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง กรมชลประทานก็นำเสนอแผนงานโครงการสร้างคันกั้นน้ำให้กับชุมชน โดยในส่วนวารินชำราบอาจต้องมีการสร้างคันกั้นน้ำชั่วคราว ซึ่งกรมชลประทานได้ทำไปเมื่อปีที่ผ่านมา โดยอาจต่อยอดเป็นโครงสร้างถาวร เพื่อป้องกันจุดฟันหลอ ทำให้น้ำในแม่น้ำมูลเล็ดลอดเข้ามาในพื้นที่



ด้านประชาชนในชุมชนบ้านบ้งมั่ง​ นางบุญทัน เพ็งธรรม​ กล่าวว่าสำหรับชาววารินชำราบที่มีบ้านเรือนติดแม่น้ำมูล จะดูการแจ้งเตือนจากทางราชการ​ เช่นกรมชลประทานได้นำธงมาติด ส่วนในชุมชนจะมีการประกาศเสียงตามสาย ซึ่งเราเตรียมตัวทุกปี เพราะอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมธรรมชาติ ส่วนการแก้ไขปัญหา อยากให้ทำให้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ไม่ต้องรอคำสั่ง ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานเป็นหนึ่งเดียว หากทำได้ชาวบ้านจะอุ่นใจมากขึ้น พร้อมฝากไปยังนายอนุทินที่จะลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ อยากให้รัฐบาลที่มีอำนาจโดยตรงบริหารจัดการลุ่มน้ำมูลอย่างจริงจัง เพราะหากสั่งตรงมาสามารถทำได้อยู่แล้ว หากจริงจังจริงใจ ชาวบ้านจะได้อยู่ดีกินดีที่สำคัญบ้านเรือนที่อยู่จะได้ไม่ทรุดโทรม แต่คงไม่หวังว่าปัญหาน้ำท่วมจะหมดไป เพราะเข้าใจว่าเราเป็นพื้นที่รับน้ำ แต่ขออย่าให้เหมือนปี 2562 และปี 2565 ก็พอ เนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก​ แต่ก็ยอมรับว่าต้องปรับตัวให้ได้เพราะพื้นที่ที่อยู่อาศัยเป็นพื้นที่รับน้ำ​ แต่ต้องให้ย้ายไปอยู่ที่อื่นคงไม่ได้เพราะเป็นที่อยู่ดั่งเดิม​ จึงอยากให้ลูกหลานที่จะอยู่ในพื้นที่นี้ต่อไปมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น



โดยชาวบ้านยังฝากไปถึงรัฐบาลหากสามารถแก้ไขปัญหาน้ำได้ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น ประชาชนไม่ต้องเป็นหนี้ เพราะที่ผ่านมา การเยียวยาล่าช้า และได้น้อย ทำให้ประชาชนต้องไปกู้หนี้ยืมสิน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  อนุทินชาญวีรกูล

คุณอาจสนใจ

Related News