เลือกตั้งและการเมือง

มติที่ประชุมใหญ่ “พรรคประชาธิปัตย์” เลือก “อภิสิทธิ์” นั่งหัวหน้าพรรคคนที่ 10

18 ต.ค. 2568

432 views

บรรยากาศการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคประชาธิปัตย์ ในวันนี้ (18 ตุลาคม) นี้ เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมี สมาชิกพรรคอดีตส.ส. ที่ลาออกไปแล้วย้ายกลับมา ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุมที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แคนดิเดตหัวหน้าพรรค เดินทางมาถึงในเวลา 08:35 น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ว่าที่โฆษกพรรค และนายวีระพงษ์ ประภา อดีตผู้แทนการค้าไทย ที่มาเสริมทัพใหม่


โดยทันทีที่นายอภิสิทธิ์ ถึงห้องประชุมก็เดินทักทายสมาชิกพรรคที่เป็นคนรุ่นเก่า พร้อมดอกกุหลาบเป็นกำลังใจ และยังมีสมาชิกพรรคบางส่วนเข้ามาสวมกอด และยืนยันกับนายอภิสิทธิ์ว่าจะให้การสนับสนุนเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งนายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ใจไม่เคยไปไหน


ด้ายนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายสุรบถ หลีกภัย บุตรชาย อดีตสส.บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมาถึงและเยี่ยมชมนิทรรศภาพวาด "ชาวประชาธิปัตย์" จากลายเส้น.. ชวน หลีกภัย โดยนายสุรบถได้กล่าวชมภาพวาดของนายชวน ว่า ลายเส้นสวย


ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ลาการประชุม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ชุดใหม่จะประกอบไปด้วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค, นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ เป็น เลขาธิการพรรค, นายสกลธี ภัททิยกุล เป็นรองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร, นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร เป็นรองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคเหนือ, นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคกลาง, นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้, นางสาวการดี เลียวไพโรจน์ เป็นรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ, นายกรณ์ จาติติกวณิช เป็นรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ, นายจุรี นุ่มแก้ว เป็นรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจ และนายพงศกร ขวัญเมือง เป็นโฆษกพรรค


สำหรับการเลือกหัวหน้าพรรค และ กก.บห. ชุดใหม่นั้น ตามข้อบังคับ ข้อ 30 ได้กำหนดคุณสมบัติว่าต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี และเป็นสมาชิกพรรคติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่สมาชิกดังกล่าวมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้


1. เป็นหรือเคยเป็นกรรมการบริหารพรรค

2. เป็นหรือเคยเป็นคณะกรรมการสาขาพรรค

3. เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามพรรค

4. เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรีในนามพรรค

5. เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่พรรค

6. สมาชิกที่ที่ประชุมใหญ่มีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้ที่อยู่ในที่ประชุม มีมติให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค


ขณะที่ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ ถึงความคาดหวังในการประชุมวันนี้ ว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กลับมา ส่วนคณะกรรมการบริหารก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา สำหรับภารกิจที่จะให้พวกเราช่วยสนับสนุนนั้น ก็คิดว่าคงจะไม่น่ามีปัญหาอะไร


ส่วนเชื่อว่าจะสามารถฟื้นศรัทธาประชาชนได้หรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่า คงไม่ใช่เปิดปุ๊บติดปั๊บ ในเรื่องของความเชื่อมั่น แต่เท่าที่ติดตามส่วนใหญ่ชาวบ้านก็ดีใจยกเว้นสื่อที่วิจารณ์ สมมติว่าหากมีความเปลี่ยนแปลง นายอภิสิทธิ์กลับมา ส่วนใหญ่ก็จะให้กำลังใจ และหวังว่าจะได้กลับมาสนับสนุนพรรคปชป. แต่ตนขอเรียนว่าต้องช่วยสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ที่ตนย้ำคำว่าไม่ใช่เปิดปุ๊บติดปั๊บ เพราะไม่ใช่พอเปลี่ยนหัวหน้าปุ๊บ ทุกอย่างจะดีขึ้นหมด มันไม่ใช่อย่างงั้น ต้องใช้เวลาทำงาน แต่นายอภิสิทธิ์ก็เป็นคนที่มีบทบาท มีพื้นฐานเป็นนักการเมือง ไม่ใช่นักธุรกิจการเมือง ไม่ได้เข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ ไม่มีธุรกิจแอบแฝง


นายชวน กล่าวต่อว่า ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ ตนเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ประชาชนโดยทั่วไปที่ติดตามบทบาทพรรคการเมือง ก็จะเห็นว่าปชป. ที่อยู่มาเกือบจะ 80 ปีแล้วที่ดำรงอยู่ได้ ไม่ใช่เพราะมีเงินซื้อ มีอำนาจ แต่อยู่ได้โดยการยึดความชอบธรรม ถูกต้อง นี่คือสิ่งสำคัญ


ด้าน นายกรณ์ จาติติกวณิช สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนการประชุมวิสามัญเพื่อเลือก หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนเชื่อในศักยภาพของประเทศมาโดยตลอดว่าชีวิตคนของคนไทยต้องดีขึ้นได้ และตระหนักว่าจะเป็นไปได้ทั้งหมด การเมืองต้องดีขึ้น เพราะเรื่องใหญ่ๆต้องแก้ด้วยการเมือง เมื่อมีสัญญาณชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการที่จะกลับมา เป็นการเมืองที่ดี ช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ ตนก็พร้อมที่จะกลับมามีส่วนร่วมซึ่ง


นายกรณ์ ยังระบุว่า ทั้งตน นายสกลธี ภัททิยกุล และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คิดว่าสิ่งที่เรามีคือมีประสบการณ์ และตระหนักว่าสิ่งที่เราขาดคือพลังของคุณรุ่นใหม่ และปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่รวดเร็ว เพราะฉะนั้นตนก็ได้ตั้งใจว่าวันกลับมาของเราในครั้งนี้ จะกลับมาเพื่อที่จะเป็นการผนึกกำลังกับคนรุ่นใหม่ๆเลือดใหม่ๆที่จะเข้ามาในพรรค เพื่อที่จะขับเคลื่อนพรรคให้สามารถที่จะแก้ไขปัญหาประเทศได้ตามความคาดหวังของประชาชน


ส่วนได้คนดูใหม่ที่จะมาร่วมเสริมทีมแล้วหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า จากโครงสร้างบริหารที่คิดกันอยู่ ขึ้นอยู่กับสมาชิกที่จะลงคะแนนแต่โครงสร้าง ที่คิดจะเป็นการผสมผสานที่ชัดเจน ระหว่างคนที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ เพียงแต่ว่าวันนี้ยังไม่พอ แต่จากนี้เป็นต้นไป เราจำเป็นที่จะต้องเปิดรับ ถ้าในแง่ผู้สมัครในอนาคต รวมถึงทีมงานที่มีความรู้ และอยากที่จะมีข้อเสนอแนะ และคำแนะนำที่ดีให้กับพรรค จะจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะเปิดรับข้อคิดเห็นจากทุกคน และเดินหน้าไปด้วยกัน เพราะเราเชื่อว่าประสบการณ์ของคนรุ่นเก่าและความรู้ของคนรุ่นใหม่จะสามารถทำให้การเมืองดีขึ้นได้ และนำไปสู่การสร้างโอกาส ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น


โดยที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ มีมติเลือก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 10 โดยมีนายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ เป็นผู้เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์เพียงคนเดียว ไม่มีคู่แข่ง ซึ่งผลการเลือกหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ ได้รับคะแนนเสียง 96.1810 %


https://youtu.be/RYO0GImqJfw

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ