เลือกตั้งและการเมือง
สส.ปชน.ฝากจับตาปมเงินสด 12 ล้านซุกกล่อง ส่อเอี่ยวประมูลคลื่น กสทช. เอื้อประโยชน์ให้ บ.โทรคมนาคม
โดย petchpawee_k
7 มิ.ย. 2568
101 views
สส.สมุทรปราการ ปชน. ฝากจับตา ปมเงินสด 12 ล้านในกล่องพลาสติก สุดมหัศจรรย์ที่มีเอกสาร กสทช. เอี่ยวการประมูลคลื่น กสทช. ที่ตั้งราคาประมูลไว้ต่ำ หวังเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทโทรคมนาคมหรือไม่
วานนี้ (6 มิ.ย.68) คุณพนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน โพสต์ถึงประเด็น เงิน 12 ล้านที่เจอในกล่องและมีเอกสารถึง กสทช. นั้น ข้อความระบุว่า
เงินสด 12 ล้านในกล่องพลาสติกมหัศจรรย์ที่มีเอกสาร กสทช. วางอยู่ข้างๆ นี้ จะเกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่นของ กสทช. ที่ตั้งราคาประมูลไว้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินหรือไม่?
ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ดิฉันขอถือโอกาสนี้เล่าเรื่องมหากาพย์การประมูลคลื่น กสทช. ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ให้ทุกคนฟังกันเลยค่ะ
วันที่ 29 มิถุนายนนี้ กสทช. เตรียมเปิดประมูลคลื่นความถี่ 4 ย่านหลัก โดยมีการตั้งราคาประมูลเริ่มต้นไว้ต่ำเตี่ยเรี่ยดินอย่างมีข้อกังขา เสี่ยงจะทำให้การเปิดประมูลคลื่นรอบใหม่นี้ ทำรัฐสูญเสียรายได้มหาศาล โดยเฉพาะคลื่น 2100 MHz และ 2300 MHz
มติบอร์ดกสทช.อนุมัติการนำคลื่นความถี่ 4 ย่านออกมาประมูล และเคาะราคาเป็นที่เรียบร้อย
850 MHz ราคา 7,738.23 ล้านบาท
1500 MHz ราคา 1,057.49 ล้านบาท
2100 MHz ราคา 4,500 ล้านบาท
2300 MHz ราคา 2,596.15 ล้านบาท
ประเด็นมีอยู่ว่า ตลาดโทรคมนาคมไทยในปัจจุบันเหลือผู้เล่นหลักเพียง 2 ราย คือ AIS และ True/DTAC โดยปัจจุบัน AIS ใช้คลื่น 2100 MHz ส่วน TRUE ใช้คลื่น 2300 MHz
พอเป็นแบบนี้ก็แบ่งเค้กลงตัวพอดี ประมูลพอเป็นพิธีไม่ต้องแย่งกันประมูล แต่ละคนก็เอาคลื่นเดิมของตัวเองไป ราคาเคาะจบก็คงเป็นราคาเริ่มต้นการประมูลนั่นล่ะ รัฐก็คงไม่ได้รายได้เพิ่มจากการประมูลคลื่นความถี่ตามที่ควรจะได้รับ
เรื่องนี้มีอยู่ 2 ประเด็น ประเด็นแรกเป็นเรื่องการผูกขาดที่ กขค. (คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า) และ กสทช. สององค์กรกำกับดูแล (ที่ไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่ากำลังดูแลผลประโยชน์ของรัฐหรือกำลังดูแลให้กับเหล่าเอกชนทุนผูกขาด) ปล่อยให้มีการควบรวมจนสภาพตลาดไม่เหลือการแข่งขันใดๆ ซึ่งประเด็นนี้เดี๋ยวมาว่ากันวันหลัง
ประเด็นที่สอง เอาล่ะ ในเมื่อตลาดมันไม่เหลือการแข่งขันใดๆ อีกแล้ว ราคาคลื่น 2100 MHz และ 2300 MHz ที่ตั้งราคาประมูลเริ่มต้นไว้ต่ำเกินไปหรือไม่
เราพบว่าราคาขั้นต่ำที่ทาง กสทช. ประกาศออกมาผ่านการรับฟังความคิดเห็นทั้ง 2 ครั้ง และใช้แนวทางการประมาณการราคาโดยโมเดลทางเศรษฐมิติ ประกอบกับราคาประมูลครั้งก่อนหน้า แต่กลับมีรายละเอียดที่ชัดเจนของที่มาที่ไปของโมเดลที่ใช้ในการประมาณการ
ยกตัวอย่าง คลื่น 2100 MHz มีการตั้งราคาประมูลเริ่มต้นที่ 4,500 ล้านบาท โดยอ้างราคาจากการประมูลคลื่น 3G เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งนั่นเป็นราคาของปี 2555 ทาง กสทช. กลับไม่แม้แต่จะคำนวณให้เป็นราคา ณ ปี 2568 โดยนำปัจจัยของเงินเฟ้อเข้ามาคำนวณ ซึ่งหากเรานำอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมาคิดให้เป็นราคาในปัจจุบัน ราคาที่ควรจะเป็น 5,150 ล้านบาท สูงกว่าราคาขั้นต่ำ 650 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงความยินดีจะจ่าย (willingness to pay) ของบริษัทที่จะเข้าร่วมประมูล เราพบว่าในปัจจุบันบริษัท AIS จ่ายค่าบริการเช่าใช้โครงข่ายในราคา 12,669.10 ล้านบาทให้กับ NT อยู่แล้ว ซึ่งสะท้อนว่าบริษัทมีความสามารถที่จะจ่ายได้สูงกว่าราคาตั้งต้นเกือบ 3 เท่า
ราคาตั้งต้นของคลื่น 2300 MHz ก็เช่นเดียวกัน กสทช. ตั้งราคาประมูลเริ่มต้นที่เพียง 2,596.15 ล้านบาท ในขณะที่ DTAC ซึ่งเช่าใช้อยู่ในปัจจุบันจ่ายให้รัฐในราคาที่สูงกว่ามากถึง 7,309.10 ล้านบาทหรือเกือบ 3 เท่าเช่นกัน
การกำหนดราคาขั้นต่ำในการเริ่มต้นประมูลที่ต่ำเกินไปย่อมทำให้เกิดข้อครหาขึ้นได้ว่า กสทช. ตั้งใจจะเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทโทรคมนาคมหรือไม่
แม้ว่าจะมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเงิน 12 ล้านในกล่องพลาสติกมหัศจรรย์นี้ จะเกี่ยวข้องกับการประมูลคลื่นของ กสทช. ที่ตั้งราคาประมูลไว้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินจริงหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงคือเราพบเอกสารเกี่ยวกับ กสทช. จำนวนนึง อยู่ข้างๆ กล่องเงิน ยังไงเราประชาชนมาร่วมติดตามกันต่อไปค่ะ
แท็กที่เกี่ยวข้อง สส.ปชน. ,เมืองทอง ,นนทบุรี ,เงิน12ล้านซุกกล่อง