‘อนุทิน’ ยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง.ถล่ม ชี้ต้องตรวจสอบเชิงลึกรอบด้าน คาดใช้เวลาเป็นเดือน

อนุทิน  ยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง. ถล่ม เหตุต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ออกแบบ และรอตรวจสอบเชิงลึก ชี้หน้างานตอนนี้ยังเก็บหลักฐานไม่ได้ อยู่ระหว่างกู้ภัย คาดใช้เวลาอีกเป็นเดือน

เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ  เรียกประชุม คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างอาคาร สตง. ถล่ม เพื่อรายงานความคืบหน้า หลังครบ 7 วัน

หลังการประชุม นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการประชุมครบ 1 สัปดาห์ตามกรอบ ซึ่งจะเป็นการหาสาเหตุเบื้องต้น โดยใช้เวลา 7 วัน  แต่สภาพหน้างานที่ยังต้องทำงานคู่ขนานกับการช่วยผู้ประสบภัย และค้นหาผู้เสียชีวิต ทำให้การไปเก็บตัวอย่างวัสดุเพื่อไปทดสอบยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นหากจะหาสาเหตุที่ชัดเจนว่าเหตุใดตึกถึงถล่ม ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะมีเรื่องของความเป็นธรรมของทุกฝ่าย

“แต่สาเหตุเบื้องต้นที่เป็นสารตั้งต้นนำไปสู่การตรวจสอบในเชิงลึกต่อไปในทางวิศวกรรม ก็คือเรื่องแบบ  ซึ่งตรงนี้ต้องใช้เวลาทำการวิเคราะห์เชิงลึก และทำโมเดลขึ้นมาพิจารณา ต้องใช้ระยะเวลาสักพัก เพื่อความมั่นใจ”

ส่วนที่คณะกรรมการเข้ามาชี้แจง เป็นการเข้ามาแจ้งว่า ขอให้มั่นใจว่า การออกแบบตึกในประเทศไทยมีการเผื่อค่ารองรับแผ่นดินไหว ค่าสั่นสะเทือนต่างๆ ซึ่งตั้งเกณฑ์ไว้สูงมาก ดังนั้นทุกอาคารที่อยู่ในประเทศไทยตอนนี้ มีความทนต่อแผ่นดินไหวที่เกิดจากเมียนมาได้ ส่วนผลก็ยังรอผลเพิ่มเติมอีกสักนิด  แต่คิดว่าน่าจะเป็นหลักเดือน เพราะต้องมีการตรวจสอบเชิงวิชาการ เชิงวิศวกรรม ในเรื่องของการหาสาเหตุ

“การออกแบบตึกนี้ คอลิฟท์แทนที่จะอยู่ตรงกลาง ก็ไปอยู่ข้างหลัง ซึ่งมันอาจเกิดแรงบิดได้ เพราะฉะนั้นการใส่เซฟตี้แฟ็กเตอร์ (อัตราส่วนความปลอดภัย) ก็ต้องดูว่าเค้าใส่เพียงพอหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ก็เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ออกแบบด้วย เพราะถ้าไปบอกว่าใส่ไม่พอ บริษัทเขายุ่งเลยนะ เพราะฉะนั้นก่อนจะกล่าวหาใคร ก็ต้องไปคำนวณ ดูการออกแบบ และใส่เสร็จเซฟตี้แฟ็กเตอร์มาถูกต้องหรือไม่ การต่อต้านแรงบิดแรงเฉือน ทุกแรงที่มี ได้ทำถูกหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ใช้เวลานานเป็นเดือน”

ส่วนเรื่องการเยียวยาป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ได้แจ้งอธิบดี ปภ. ไปว่าต้องไปหาการยกเว้นหลักเกณฑ์ เพราะในข้อกฎหมายปัจจุบันหากเสียชีวิตได้เงิน 29,000 บาท  บาดเจ็บ ได้ 4,000 กว่าบาท พอได้ยินตัวเลข ก็สั่งการเลยว่าต้องหาวิธีเพิ่มเงินเยียวยาให้เหมาะสม เพราะถ้าใครฟังตัวเลขนี้ก็ไม่มีคำว่าเหมาะสม จึงต้องขอยกเว้นหลักเกณฑ์  โดยเรามีงบช่วยเหลือฉุกเฉินต่างๆ อย่างกรณีน้ำท่วมเชียงราย บ้านเรือนที่เสียหาย กฎสำนักนายกฯ ยังได้เงินชดใช้ประมาณ 50,000 บาทต่อครัวเรือน แล้วนี่เป็นคนก็ต้องได้มากกว่านี้ ซึ่งอธิบดี ปภ. ก็รับทราบแล้ว และหากถามใจตนก็คงอยากเติมศูนย์ให้อีกหลายตัว และเบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับอธิบดีกรมบัญชีกลาง ไปบ้างแล้ว

ด้าน ผศ.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา เราพยายามเก็บข้อมูลภาคสนามให้ได้มากที่สุด  แต่ตอนนี้บางชิ้นส่วนที่เราต้องการ  ยังไม่สามารถหยิบออกมาได้ และสิ่งต้องการจัดเก็บจริงๆ อย่างเช่น เหล็ก ก็ต้องอยู่ในเนื้อคอนกรีต  ไม่ใช่เหล็กที่เราเหยียบย่ำจนเสียรูปไปแล้ว  จึงได้แจ้งหน้างานไปว่าตรงไหนที่ยกออกมาแล้ว ขอเก็บไว้ตรงนั้นก่อน ณ เวลานี้ยังอยู่ในเรื่องของการรื้อและสืบค้น เพราะฉะนั้นบางส่วนจึงเอาลงมาไม่ได้ ก็ต้องใช้เวลา

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/_q7uf5h3wjM