เลือกตั้งและการเมือง

'พิธา' ลั่นไม่มี 'ฝ่ายแค้น' มีแต่ 'คู่แข่ง' ย้อนถามปมเคยแค้นกัน 20 ปี - 'ดนุพร' สวนกลับ "ลดวาทกรรม แล้วทำงาน"

โดย weerawit_c

15 ก.ย. 2567

22 views

วานนี้ (14 ก.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุถึงฝ่ายค้าน อย่าเป็นฝ่ายแค้นว่า เมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) ขึ้นเครื่องบินไฟล์ทเดียวกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เสียดายที่มีโอกาสพูดคุยกันน้อยไปหน่อย จะได้พูดกับนายสมศักดิ์ว่า เป็นคู่แข่ง ไม่ใช่คู่แค้น และตัวเองก็ไม่ได้ไร้เดียงสาทางการเมือง เพราะเห็นที่แค้นกันมาก เมื่อ 20 ปีก่อน ก็เป็นรัฐบาลเดียวกัน หรือที่ผ่านมาที่รัฐประหารครอบครัวตัวเอง ก็กลับมาเป็นคณะรัฐมนตรีเดียวกัน เพราะฉะนั้นสำหรับตัวเอง ถือเป็นคู่แข่ง ที่ไม่เคยมีเรื่องส่วนตัวซึ่งกันและกัน


นายพิธา ยังระบุว่า ขณะนี้เหมือนการสมานฉันท์กันของกลุ่มชนชั้นนำ ที่ไม่ได้ต้องการความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างตั้งแต่แรก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าเห็นใจของประชาชน ที่เคยติดตามแกนนำ หรือชนชั้นนำเหล่านั้น ซึ่งน่าจะกำลังรู้สึกเคว้งคว้าง สับสนว่า เกิดอะไรขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งวนลูปมาโดยตลอด และการสมานฉันท์ที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่การสมานฉันท์กันแค่แกนนำ แต่ควรสมานฉันท์กับประชาชน ที่สูญเสียอิสรภาพ สูญเสียชีวิต สูญเสียเวลาไปด้วยเช่นเดียวกัน


นายพิธา กล่าวต่อว่า การเสาะหาข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือ การแก้ไขกฎหมายให้เกิดความรับผิดชอบกับผู้ที่สังหารประชาชน และทำให้เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้น หรือ ใบอนุญาตที่จะทำให้เกิดการฆ่าคน จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต แบบนี้ต่างหากที่เป็นการ Set Zero ประเทศ ให้เกิดความสมานฉันท์จริง ไม่มีขั้ว และเดินข้ามกันอย่างตรงไปตรงมา แข่งขันกันบนระบบ มองว่า ควรเป็นเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่รัฐบาลก้าวไกล


ในขณะที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีเสียง 312 เสียง และพยายามจะผลักดัน ให้เกิดความเท่าเทียมในการนิรโทษกรรม เสาะหาข้อเท็จจริง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้มีการรัฐประหาร ก็เสียดายที่โอกาสในการสมานฉันท์กันทั้งประเทศ รวมถึงประชาชน กลายเป็นสมานฉันท์กันแค่ 25 - 30 ที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีตอนนี้


ด้าน นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาพรวมของการแถลงนโยบายตลอด 2 วันที่ผ่านมา เป็นไปด้วยดี ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากทุกฝ่าย โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอนโยบายเร่งด่วน ระยะกลาง และการวางรากฐานให้กับประเทศ ครบทุกด้าน จึงถือเป็นการเริ่มต้นการทำหน้าที่ประมุขฝ่ายบริหารได้สมบูรณ์แล้ว


แต่มีข้อสังเกตุที่จับตา คือ ฝ่ายค้านได้พยายามหยิบยกวาทกรรมที่ไม่สามารถก้าวข้ามอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้เลย ซึ่งเป็นที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวาทกรรม นายใหญ่ นายทุน นายหน้า‘ โดยผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาชน หรือวาทกรรมรองหัวหน้าพรรคประชาชนเอง ในเรื่องอยากเห็นนายกฯ มีแสงสว่างในตัวเอง ซึ่งประชาชนย่อมรู้ดีว่าหมายถึงใคร ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าการเมืองใหม่ที่อยากเป็นนั้นไม่มีอยู่จริง กลับทำให้การอภิปรายนโยบายคณะรัฐมนตรี บิดเบี้ยวจนคล้ายกับเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการประชุมรัฐสภาในครั้งนี้


อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับพี่น้องชาวเชียงราย เชียงใหม่ที่กำลังประสบอุทกภัย ขณะนี้รัฐบาล ได้สั่งการหน่วยงานในสังกัดไปล่วงหน้าแล้ว ประกอบกับที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เสร็จสิ้นกระบวนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจและสั่งการ กำชับทุกฝ่ายช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชน เป็นเวลาที่ทุกภาคส่วนควรร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อประชาชนมากกว่าการสาดวาทกรรม จับผิด การทำงานของนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เกิดผลดีต่อสถานการณ์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/ilN_cJJPE8M

คุณอาจสนใจ

Related News