เลือกตั้งและการเมือง
จับใหญ่! 'เศรษฐา' นำทีมยึดสาร 'โทลูอีน' สารตั้งต้นผลิตยาเสพติด 90 ตัน ผลิตยาบ้าได้ 270 ล้านเม็ด
โดย thichaphat_d
13 ก.ค. 2567
167 views
นายกฯ แถลงผลตรวจยึดโทลูอีน (Toluene) เคมีภัณฑ์ที่เป็นวัตถุอันตรายประเภท 3 ตาม พรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จำนวน 90 ตัน ต้นทางจากเมืองปูซาน เกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นทางผ่านไปย่างกุ้ง
เมื่อเวลา 10.40 น.วานนี้ (12 ก.ค.)นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดโทลูอีน (Toluene) เคมีภัณฑ์ที่เป็นวัตถุอันตรายประเภท 3 ตาม พรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จำนวน 90 ตัน ณ คลังสินค้าอันตราย (JWD) ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยการตรวจยึดดังกล่าวเป็นผลจากการที่ กรมศุลกากร ได้ตรวจสอบใบตราส่งสินค้าผ่านแดนสำแดงชนิดสินค้า โทลูอีน (Toluene) ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 จัดเป็นของต้องกำกัดต้องมีใบอนุญาตในการผ่านแดน จึงได้แจ้งกักสินค้าเพื่อตรวจสอบ ประกอบกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ยังได้ตรวจสอบพบว่าสินค้าผ่านแดนดังกล่าวมิได้ขออนุญาตนำผ่าน อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
อีกทั้งได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี ว่าจะมีการนำเข้าสารโทลูอีน (Toluene) จำนวน 90 ตันโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อนำส่งไปยังปลายทางนครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกกฎหมาย และยังพบว่ามีต้นทางมาจากเมืองปูซาน เกาหลีใต้ ซึ่งได้นำมาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง นำผ่านประเทศไทยและออกที่ศุลกากรแม่สอด จังหวัดตาก หากใช้เป็นสารเคมีจำเป็นในขั้นตอนการผลิตยาเสพติดจะผลิตยาไอซ์จะได้ 4,500 กิโลกรัม ยาบ้า 270 ล้านเม็ด และโคเคน 4,500 กิโลกรัม
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ทำการสืบสวนทางลับ และเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมประสานกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในการตรวจใบอนุญาตการนำผ่านสารโทลูอีน และจากการตรวจสอบจากระบบการตรวจสอบการแจ้งยื่นเอกสารทางทะเบียนขอนำผ่านสินค้าในฐานข้อมูลกรมโรงงานอุตสาหกรรม และประสานสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อขอความร่วมมือในการร่วมตรวจสอบสินค้าและจากการบูรณาการประสานข้อมูลร่วมกันทั้ง 4 หน่วยงาน พบประเด็นน่าสงสัยนำสู่การยึดสารโทลูอีน
1. สำนักงาน ป.ป.ส. พบว่า บริษัทผู้สั่งซื้อสินค้าผ่านแดนในสหภาพเมียนมาไม่มีอยู่จริง อีกทั้งไม่มีการขออนุญาตนำเข้ากับทางการเมียนมาแต่อย่างใด โดยบริษัทได้สั่งซื้อสารโทลูอีน (Toluene) จากประเทศเกาหลีใต้โดยขนส่งทางเรือ จากเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 พ.ค.67 และสินค้าได้ถึงท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.67
2. จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่า บริษัทผู้ขอผ่านแดน ไม่เคยมีการนำสินค้าผ่านแดนสินค้าสารโทลูอีนมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก
3. สินค้านี้ จะออกจากประเทศไทยที่ด่านศุลกากรแม่สอด ไปกรุงย่างกุ้ง สหภาพเมียนมา ต่อมากระทั่งวันที่ 8 ก.ค.67 กรมศุลกากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสำนักนักงาน ป.ป.ส. ร่วมตรวจสอบพบว่าการนำผ่านสารโทลูอีน จำนวน 90 ตัน ไม่ได้รับอนุญาตการนำผ่านแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทย
ดังนั้นกรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงได้แจ้งข้อหา นำผ่านสารโทลูอีน จำนวน 90 ตัน เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 และมีการดำเนินการตามกฎหมายของศุลกากร ตามมาตรา 102 และมาตรา 103 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 โดยสินค้างดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน
นายกรัฐมนตรี ยังบอกอีกว่ารัฐบาลมีนโยบายทำลายวงจรยาเสพติดทุกมิติ โดยเฉพาะเคมีภัณฑ์ที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อสังคมและระบบเศรษฐกิจในภาพรวม โดยกำชับให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) บูรณาการการสืบสวนปราบปรามอย่างเด็ดขาด
โดยมี สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหน้าที่ในการสืบสวนและป้องกันการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและประสานงาน กรมศุลกากรทำหน้าที่ในการตรวจสอบควบคุมการนำเข้า - ส่งออกผ่านแดน - ถ่ายลำ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีในการตรวจค้นและการประสานงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรมทำหน้าที่ในการ
ควบคุมตรวจสอบการใช้สารตั้งต้น และการออกกฎระเบียบและมาตรการควบคุมการใช้สารตั้งต้น ตรวจสอบติดตามการใช้สารตั้งต้น สารเคมี เพื่อลดการนำไปใช้ในทางที่ผิด
รวมทั้งสกัดกั้นการลักลอบนำสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ผลิตยาเสพติดเพื่อเป็นการกวาดล้างกลุ่มหรือเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนให้หมดสิ้น โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด ด้วยการเพิ่มมาตรการและแนวทางในการป้องกันการลักลอบสารตั้งต้นยาเสพติดในอนาคต และเพิ่มมาตรการการตรวจสอบและควบคุมการนำเข้าส่งออกอย่างจริงจัง
รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/qySvTX5POM4