เลือกตั้งและการเมือง

ตลาดแตก! ‘ทักษิณ’ เดินตลาดวโรรส แฟนคลับแห่ต้อนรับตะโกนบอกรักลั่น

โดย weerawit_c

16 มี.ค. 2567

43 views

ภารกิจวันที่สองของนายทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี  ที่จังหวัดเชียงใหม่  เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.67) หลังจากที่พักค้างคืนที่บ้านกรีนวัลเลย์ อำเภอแม่ริม โดยนายทักษิณสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาว สวมหน้ากากอนามัย และยังคงสวมเฝือกอ่อนที่คอ และมีพยาบาลยืนประกบเช่นเดิม เดินทางมาพร้อมกับลูกและหลานๆประกอบด้วย นายพานทองแท้ ,  นางสาวพินทองทา  , นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พร้อมครอบครัว  เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งนอกจากครอบครัวชินวัตรแล้ว ยังมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ร่วมเดินทางมาด้วย



โดยในเวลา 08.28 น. นายทักษิณ และครอบครัว เข้าสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย  ถนนห้วยแก้ว  ต.สุเทพ  อ.เมืองเชียงใหม่  เพื่อความเป็นศิริมงคล ในการเดินทางกลับเชียงใหม่ในรอบ 17 ปี



โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  , นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช , นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ , นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  และพล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผบ.ตร. รวมถึงคนเสื้อแดงถือป้าย “อีสาน รักมั่นไม่เปลี่ยนแปลง” และคนในพื้นที่รอให้การต้อนรับ



ทันทีที่นายทักษิณมาถึง  ได้กล่าวทักทายคนเสื้อแดงที่มารอต้อนรับ โดยเอ่ยชื่อทักทายอย่างเป็นกันเอง พร้อมกันนี้มีพระสงฆ์ในพื้นที่ มอบพระรอดลำพูนให้แก่นายทักษิณ และให้พรว่า “ขอให้อายุมั่นขวัญยืน อยู่รอดปลอดภัยและอยู่ไปนานๆ ไม่แก่ไม่เฒ่า” นอกจากนี้ยังมีบรรดาแฟนคลับกล่าวกับนายทักษิณ ว่า “ท่านยังเหมือนเดิม” นายทักษิณ ตอบกลับว่า  “75 ปีแล้ว”



จากนั้นนายทักษิณได้นำดอกไม้ธูปเทียนกราบสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา พร้อมนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองคล้องที่องค์ครูบาศรีวิชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล



จากนั้นนายอรรถพล ได้นำแผนการพัฒนาพื้นที่ดอยสุเทพ มาเล่าให้นายทักษิณฟัง โดยนายทักษิณ ได้สอบถามเรื่องแหล่งน้ำธรรมชาติ ว่าจะสามารถนำน้ำมาใช้ได้จากไหน นอกจากนี้นายทักษิณ ยังได้กล่าวชื่นชมนายอรรถพล อธิบดีกรมอุทยานฯ ว่า “อธิบดี ดีนะ ผมดูในข่าวอยู่ตลอด”



จากนั้นในเวลา 09.00 น.นายทักษิณ พร้อมครอบครัว เดินทางขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด  10 จุด โดยเริ่มที่สักการะท้าวเวสสุวรรณ ก่อนทำพิธีบวงสรวงพระธาตุ รวมทั้งทำพิธีห่มผ้าพระธาตุ  โดยจังหวะหนึ่งระหว่างเดินห่มผ้าพระธาตุ นายทักษิณหันไปบอกนางสาวแพทองธาร ว่าเจ็บหลัง ทำให้พยาบาลและคณะทำงานต้องรีบเตรียมเฝือกอ่อน สำหรับอุปกรณ์พยุงหลังหรือเฝือกดามหลังทันที แต่นายทักษิณยังคงมีอารมณ์ดีใจ โดยช่วงหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “พระประจำวันเกิดของผม คือ ปางพระนอน แต่ไม่ค่อยได้นอนทำแต่งาน เมื่อสักครู่เดินขึ้นมาช่วงหนึ่งรู้เลยว่าเข้าสู่วัยสาวแล้ว สาวราวบันได ”



เวลา 10.33 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงตลาดวโรรส ซึ่งเป็นตลาดที่ครอบครัวชินวัตรจะมาเดินและซื้อของทุกครั้งที่มาเชียงใหม่  ซึ่งเมื่อมาถึงมีกลุ่มแฟนคลับรอให้การต้อนรับบริเวณหน้าตลาดจำนวนมาก และกรูกันเข้าไปมอบดอกไม้และขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกับนายทักษิณ  จึงทำให้เกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย  ซึ่งเมื่อใครได้ถ่ายรูปและจับมือแล้ว ก็นำรูปมาโชว์และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน



จากนั้นนายทักษิณและครอบครัว เดินเข้ามายังตลาดวโรรส และแวะร้านหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ดั้งเดิมและนายทักษิณรู้จักคุ้นเคยมากว่า 60 ปี มาซื้อหนังสือพิมพ์ตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ ได้พบกับนางอรุณศรี พวงพฤกษา หรือ ป้าศรี อายุ 83 ปี   โดยนางอรุณศรี ถึงกับน้ำตาซึม พร้อมกับสวมกอดกัน ก่อนที่นางอรุณศรี จะกล่าวว่า รู้จักกันมา 64 ปี ตั้งแต่นายทักษิณอายุ 16 ปี และตอนนั้นนางอรุณศรีอายุ 23 ปี เคยไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยกัน ร่วมทัวร์กับนักเรียนมงฟอร์ต และไม่เคยจะคิดหักหลังนายทักษิณ แม้แต่ครั้งเดียว



ด้านนายทักษิณ ระบุว่า “ไม่เจอกับป้าศรีมา 15 ปี ครั้งสุดท้ายไปพบกันที่ฮ่องกง รักและเคารพป้าศรีอย่างมาก” พร้อมกับสอบถามสุขภาพป้าอรุณศรี และขอให้รักษาสุขภาพให้ดีเพราะช่วงนี้อากาศที่เชียงใหม่ไม่ดี   ทั้งนี้ช่วงที่คุยกับป้าอรุณศรี นายทักษิณได้ถอดหน้ากากอนามัย เพื่อให้ป้าอรุณศรีได้เห็นหน้าชัดๆ



ขณะที่นางอรุณศรี ได้หยิบหนังสือมติชนรายสัปดาห์ หน้าปกรูปนายทักษิณ เขียนว่า “ปิ๊กบ้านเปิ้น อะหยังรออยู่” พร้อมโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู และระบุว่า ช่วงที่นายทักษิณไม่อยู่ประเทศไทย จะนำรูปต่างๆ ทั้งรูปเก่าและรูปใหม่มาดูให้หายคิดถึง บางทีดูไปก็ร้องไห้ไป ก่อนที่ป้าศรีจะมอบน้ำผึ้งและพวงมาลัยให้นายทักษิณ จากนั้นนายทักษิณ ได้เรียกลูกๆ มาสวัสดีป้าศรี  และกล่าวว่า “วันนี้แวะไปไหว้พ่อกับแม่ก่อน สงกรานต์จะปิ๊กมาแฮ๋ม ตอนนั้นคนจะน้อยกว่านี้”



ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างลงพื้นที่จุดนี้ มีประชาชนมอบพวงมาลัยดอกไม้ให้นายทักษิณและนางสางแพทองธาร  พร้อมระบุว่า อยากให้นางสาวแพทองธารเป็นนายกฯ คนต่อไป



เวลา 12.30 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยลูกหลาน และญาติพี่น้อง  ประกอบด้วยนางเยาวเรศ ชินวัตร (น้องสาว) , นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (น้องสาว) , นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล (น้องสาว) พร้อมครอบครัว เดินทางมาไหว้สุสานของพ่อเลิศ - แม่ยินดี ชินวัตร บิดาและมารดา ที่บริเวณเนินเขาด้านทิศตะวันตก ติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ออน  ต.แม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีการย้ายอัฐิจากวัดโรงธรรมสามัคคี อำเภอสันกำแพง  มาไว้ที่สุสานแม่ออน ซึ่งเป็นที่ส่วนบุคคล  โดยมีการประกอบพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ มีซินแสเป็นผู้นำพิธี



ซึ่งระหว่างที่รอฤกษ์ไหว้บรรพบุรุษในเวลา 13.00 น. นายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางเป็นภาษาคำเมือง โดยเปิดเผยว่า สุสานแห่งนี้เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว และตัวเองเพิ่งเคยมาไหว้เป็นครั้งแรก  เพราะช่วงก่อนหน้านี้อยู่ต่างประเทศ  แต่จากนี้ตั้งใจว่า จะมาไหว้เป็นประจำทุกปีอย่างแน่นอน



เมื่อถามว่า วันนี้ลูกหลานมากันครบทำให้มีความสุขหรือไม่ นายทักษิณ  กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ผลสุดท้ายแล้ว ความสุขอยู่ที่ครอบครัว ซึ่งหากเข้าใจโลกจะรู้ว่า Happiness is at home ความสุขอยู่ที่บ้าน ที่อื่นอาจจะเป็นสิ่งสมมุติ แต่สิ่งที่แน่นอนคือ Happiness is at home”



เมื่อถามว่า ประชาชนที่มาเจอบอกว่าหน้าตาสดชื่นแจ่มใส นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมมีกำลังใจดี แต่ไม่ใช่ใจบันดาลแรง” ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะแซวว่าเป็นคำพูดของคนอื่น ซึ่งนายทักษิณยิ้ม พร้อมหัวเราะ ก็พูดสั้นๆว่า “แหม่”



เมื่อถามว่า ตอนไหว้วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร มีอาการเจ็บหลัง ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณ กล่าวว่า อาการเจ็บหลัง เกิดจากกล้ามเนื้อสะดุ้ง ซึ่งเป็นอยู่แล้ว   นาน ๆ ถ้าผิดจังหวะก็จะเป็นขึ้นมา  พอดีมีอาการเมื่อคืน  นึกว่าไม่เป็นอะไร แต่สะดุ้งอีกรอบจนเจ็บ พอรัดเอวแล้วก็รู้สึกดีขึ้น ส่วนอาการที่คอ ที่ใส่เฝือกอ่อนที่คอก็เป็นไปตามอายุ มันเสื่อมก็ต้องคอยดูไว้ เพราะไม่อย่างนั้นจะกดเส้นประสาท ซึ่งสามารถถอดๆใส่ๆได้แล้วแต่อาการ



เมื่อถามว่า มาจ.เชียงใหม่ได้กินอาหารที่ชอบแล้วหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า  กินทุกอย่าง ตอนอยู่ต่างประเทศก็ได้กิน แต่รสชาติไม่เหมือนที่นี่  เพราะต้องแช่แข็งไป อย่างก๋วยเตี๋ยวเนื้อก็ต้องไปกินที่ไม่มีแอร์ กินไปด้วยเหงื่อออกไปด้วยทำให้อร่อย



เมื่อถามว่า ไปเดินตลาดวโรรสมีคนต้อนรับเยอะ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ดีใจที่เขายังไม่ลืมคนเฒ่าคนหนึ่ง เมื่อถามว่า มีคนทักว่าหน้าไม่แก่เลย นายทักษิณ กล่าวว่า “ก็เพราะผมมาอยู่กับครอบครัว จิตใจก็อิ่ม ไม่เหมือนตอนที่อยู่โรงพยาบาลตำรวจ ที่จิตใจมันห่อเหี่ยวนิดหน่อย วัยผมเป็นวัยรักลูกหลงหลาน”


https://youtu.be/1JTtzlSh2Os

คุณอาจสนใจ

Related News