เลือกตั้งและการเมือง

‘หมออ๋อง’ บุกทำเนียบทวงร่าง กม.การเงิน ยันไม่ได้ลํ้าอำนาจบริหาร – ‘เศรษฐา’ ถาม ทำแบบนี้เหมาะสมหรือไม่

โดย petchpawee_k

2 มี.ค. 2567

82 views

หมออ๋อง บุก ทำเนียบ ทวงถาม ร่าง กม. การเงิน บอกไม่มีมารยาทตรงไหน มาติดตามงาน เพราะร่าง กม. มีทั้งฝ่ายค้าน-รัฐบาล ลั่นไม่ไร้เดียงสา ถึงขึ้นไม่รู้ขั้นตอนออกกฎหมาย หวังจะได้พูดคุยฝ่ายบริหาร เดินวนตั้งแต่ ประตู 1 รอบตึกบัญชาการ เหตุไม่ได้ประสานใคร ตำรวจ วุ่น หา จนท. รับ สุดท้าย จบแค่คุย ผอ. กองประสานงานการเมืองทำเนียบ


เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.67)   เวลา​ 13.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล​ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา​ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล​ด้วยรถยนต์ประจำตำแหน่ง​ พร้อมรถตู้ข้าราชการจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทน​ราษฎร ​ติดตามไปด้วย​ 2 คัน​  โดยผ่านทางประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วก่อนหน้านี้  เพื่อทวงถามถึงร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน 31 ฉบับ


นายปดิพัทธ์​ ให้สัมภาษณ์ว่า​  ตนได้ทำหนังสือประสานมาแล้ว 2 ครั้ง  ยืนยันว่าไม่ใช่การมาบุกตามที่เป็นข่าว แต่เป็นการมาประชุมร่วมกันเพื่อติดตามความคืบหน้าของร่างกฎหมาย เนื่องจากไม่ทราบรายละเอียดว่าแต่ละร่างอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว  จึงอยากมาขอหารือถึงการทำงานร่วมกัน  ส่วนจะได้เจอใครหรือไม่นั้น ไม่เป็นไร   ยืนยันว่าเป็นเรื่องดีที่ฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติมีโอกาสหารือกัน และมองว่าการที่รัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้ในรัฐสภา ทางสำนักเลขาธิการนายกฯ ก็ต้องทราบเหตุผล เพราะในบางครั้งเอกสารที่แจ้งมายังสภาก็ไม่ได้ระบุชัดเจน


เมื่อถามถึงกรณีที่ สส.เพื่อไทย มองว่าการที่รองประธานสภาฯ เดินทางมาในครั้งนี้ จะเป็นการรุกล้ำอำนาจฝ่ายบริหารและทำเกินหน้าที่​   นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ตนไม่ได้มากดดันให้เซ็น แต่มองว่าการทำงานร่วมกันมีเรื่องต้องปรับปรุง  ไม่อย่างนั้นจะไม่ชัดเจน​ และเจ้าของร่างก็ไม่รู้ว่าจะต้องปรับปรุงร่างของตัวเองหรือไม่  ดังนั้นหากจะต้องมีการปรับปรุงอย่างไรก็ควรจะบอกมา และขณะนี้ 6 เดือนกว่าแล้ว  ฉะนั้นการจะตีร่างฯการเงิน ถือว่ามีขอบเขตที่กว้างมาก พร้อมยกตัวอย่าง ร่างฯรับราชการทหารและการถ่ายโอนกำลังพล​ และร่างฯกฎหมาย PRTR (Pollutant Release and Transfer Register) และร่างฯ เปิดเผยข้อมูลมลพิษถูกตีความว่าเป็นร่างฯการเงิน ฉะนั้นการจะตีความร่างฯ อย่างไร  เราต้องการความชัดเจนในเรื่อง


อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้คาดหวังว่าต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการพูดคุยครั้งแรก และเข้าใจในฝั่งรัฐบาล แต่ถ้าไม่พูดคุยกันเลย และตอบโต้กันผ่านหนังสืออย่างเดียวก็จะไม่มีโอกาสปรับปรุงการทำงานร่วมกัน


เมื่อถามว่า การที่รองประธานสภาต้องมาเอง แสดงว่าวิปที่ประสานกับรัฐบาลทำงานไม่ตอบโจทย์ใช่หรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่วิปรัฐบาล แต่ตนมีหน้าที่ดูแลการตรากฎหมายโดยตรง ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะแม้แต่ร่างของพรรคภูมิใจไทยเองก็ยังค้างอยู่


เมื่อถามว่า ทางประธานสภาผู้แทนราษฎรมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ท่านยังไม่มีความเห็น เพราะการดูแลเรื่องกฎหมายเป็นหน้าที่ตน ยืนยันว่าเป็นการทำหน้าที่ปกติ เพื่อช่วยให้กระบวนการนิติบัญญัติเป็นไปอย่างถูกต้อง


เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองมองว่านายปดิพัทธ์ทำในนามส่วนตัวมากกว่า นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ตนก็ยืนยันในเจตนา เพราะมีหลายร่างกฎหมายที่ยังไม่เข้าสภา


เมื่อถามอีกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีธรรมเนียมที่รองประธานสภาฯ ต้องมาตามกฎหมายเองแบบนี้ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า แล้วไม่ดีตรงไหน ตนมองว่าทำเนียบกับสภาควรใกล้ชิดกัน ถ้าทำงานร่วมกันบ่อย ๆ ความไม่เข้าใจกันก็จะลดลง ไม่คิดว่าต้องวางตัวห่างกัน ฝ่ายบริหารเองก็มาที่สภาบ่อย ถ้าสภาจะมาเยี่ยมฝ่ายบริหารบ้างก็ไม่เห็นจะผิดธรรมเนียมอะไร


“ขั้นตอนทางธุรการต้องเนี้ยบกว่านี้ ต้องแจ้งชัดเจนว่าติดภารกิจสำคัญอะไร  อย่างไร ตรงนี้ต้องมีโอกาสสะท้อนให้ฟัง ไม่ใช่ตอบโต้ผ่านสื่อ ต้องมีเวทีหารือแก้ไขปัญหาร่วมกัน และเรื่องกฎหมาย แน่นอนว่าผมไม่ได้ไร้เดียงสา เรื่องจังหวะการเมืองที่จะทำให้ร่างกฎหมายไหนเข้าพิจารณาหรือไม่ แต่อย่างน้อยต้องมีความโปร่งใส ตรงไปตรงมาว่าติดเรื่องอะไร”  


เมื่อถามว่า ไม่มีวาระซ่อนเร้นอะไรใช่หรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ไม่มี รีบคุยรีบกลับ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยมองว่าไม่มีมารยาททางการเมืองนั้น ตนขอตอบกลับว่า การมาคุยเพื่อทำงานร่วมกันเป็นเรื่องผิดมารยาทตรงไหน ตนเข้ามาปิดทำเนียบหรือ หรือมาไม่สุภาพ ยืนยันว่ามาด้วยเจตนาบริสุทธิ์ และขอความร่วมมือเท่านั้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายปดิพัทธ์  ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น  ก็เดินไปที่หน้าตึกบัญชาการ 1 เพื่อรอพบกับตัวแทนของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) โดยระหว่างที่ยืนรออยู่หน้าตึกบัญชาการ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบรัฐบาล ได้พยายามติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ สลน. ว่าใครจะลงมาพูดคุย ทำให้นายปดิพัทธ์   ซึ่งยืนรออยู่พูดว่า "สำนักงานเลขาธิการนายกฯ มีกี่คน ไม่อยู่สักคนเลยเหรอครับ"


จากนั้นได้โชว์ภาพเอกสารที่ส่งมายัง สลน. ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าจะมีการมาสอบถามความคืบหน้าของร่างกฎหมายต่อ สลน. ที่ทำเนียบรัฐบาล  กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที คณะของนายจงเจริญ สุวรรณรัตน์ ผอ.กองงานประสานงานทางการเมืองสำนัก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มาพบ พร้อมกับเชิญขึ้นไปพูดคุยที่ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 2


ต่อมา เวลา 14.00 น. ภายหลังการหารือ นายปดิพัทธ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ระบุว่า รองประธานสภาฯ คนที่ 1 กล่าวว่า การมาที่ทำเนียบฯ ในครั้งนี้ เพื่อมาดูกระบวนการทำงานทางธุรการ ว่าเมื่อมีการส่งร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงินมาแล้ว มีกระบวนการอย่างไร เพราะเวลาบอกว่า รอความเห็นจากหน่วยงานมันครอบคลุมทุกอย่าง  รวมถึงมาสอบถามเรื่องการการตอบกระทู้ถาม ที่เป็นประเด็นว่ารัฐมนตรีไม่มาตอบ แม้ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ระบุว่า หากรัฐมนตรีไม่มาตอบต้องชี้แจงเป็นหนังสือ บางท่านก็ชี้แจงละเอียด แต่บางท่านก็ชี้แจงไม่ละเอียดแค่บอกว่าติดภารกิจ ดังนั้น ต่อจากนี้อยากให้ชี้แจงชัดเจนขึ้น อีกประเด็นคือเรื่องความเดือดร้อนประชาชนที่ส่งมาที่ทำเนียบฯ หลังจากมีหารือในการประชุมสภาฯ ตรงนี้เราจะติดตามได้อย่างไร เนื่องจากประธานสภาฯ ร้อนใจว่าเรื่องหารือมีการตอบรับน้อย และจะสื่อสารกับประชาชนอย่างไร



ด้าน นายจงเจริญ กล่าวว่า รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหนังสือมาถึง สลน. โดยมีการพิจารณาแล้ว มีการมอบหมายตนไปพบรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่รัฐสภา ตนจึงอยู่ระหว่างรอ ว่าจะให้ไปพบเมื่อไหร่ เป็นจังหวะหนังสือที่ส่งสวนทางกันจึงอาจดูขลุกขลัก

-------------------------------------

นายกฯ ย้อนถามพฤติกรรม "หมออ๋อง" บุกทำเนียบเหมาะสมหรือไม่ เชื่อ หากประสานดีๆมีคนต้อนรับอยู่แล้ว เผยเตรียม สั่ง การ รมต.ในที่ประชุม ครม.วันอาทิตย์ ต้องไปตอบกระทู้ หากไม่ว่างต้องมอบคนแทน


 นายเศรษฐา ทวีสิน  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง กรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธาน​สภาผู้แทน​ราษฎร​ คนที่ 1 เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามร่างกฎหมายที่ค้างอยู่กว่า 31 ฉบับ รัฐบาลดองไว้ไม่เซ็นสักที ว่า ตนไม่ทราบเรื่องการดอง ไม่ทราบเรื่องคำศัพท์อะไรพวกนี้ แต่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ก็ได้ประสานรับเรื่องไว้แล้ว เดี๋ยวก็คงต้องไปดู


ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเดินทางมาของนายประดิพัทธ์ ไม่ได้มีการประสานล่วงหน้า ทำให้เกิดภาพมายืนรอ ไม่มีใครต้อนรับนานพอสมควร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อันนี้ผมไม่ทราบ ก่อนจะย้อนถามว่า มันเป็นพฤติกรรมที่ถูกต้องหรือไม่ ที่รองประธานจะบุกมาที่ทำเนียบรัฐบาล ตนไม่แน่ใจว่าต้องมีการประสานให้ชัดเจนหรือไม่ ถ้าประสานกันดี บอกเวลา แนะแนว ตนว่าทำเนียบเราก็เปิดรับ เราเป็นคนไทย เราต้องรับแขกอยู่แล้ว


เมื่อถามย้ำว่า มันไม่ใช่ธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติกันมาใช่หรือไม่ ที่รองประธานสภาฯ จะบุกมาถึงทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี มองว่า มันต้องมีครั้งแรกเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เป็นเรื่องที่ต้องให้ความเป็นธรรม ก็จะไปดูแลให้ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร


ส่วนที่ สส.พรรคเพื่อไทย ออกมายอมรับว่า ถ้านายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางไปสภาฯ รัฐมนตรีก็จะไม่มาตอบกระทู้ แต่ถ้าวันไหนที่นายกฯ เข้าก็จะแห่กันเข้าไป นายเศรษฐา​ กล่าวว่า ตนจะพยายามเข้าประชุมสภาฯทุกวันพฤหัสบดี ถ้าอยู่ประเทศไทย แต่ถ้าไม่อยู่ก็ได้กำชับให้ทางรัฐมนตรี ไปบ้างแล้ว และได้มอบอำนาจไป ให้คนไปตอบแทน หรือถ้าคนที่ไปตอบแทนไม่ว่างหรือติดภารกิจ ก็ต้องมอบต่อไปอีกทีหนึ่ง เราเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน เราต้องให้ความสำคัญกับสภาด้วย เมื่อไหร่ที่มีข้อสงสัย ข้อคลางแคลงใจ เราก็ต้องไปตอบ และในวันอาทิตย์นี้ก็จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี ก็จะนำไปสั่งการในที่ประชุมเป็นข้อแรก ว่าให้ไปตอบกระทู้ หากไม่ว่างก็มอบให้คนไปตอบแทน


เมื่อถามว่า เมื่อสั่งการแล้วจะเกิดคำพูดว่า นายกรัฐมนตรีไม่เข้า รัฐมนตรีก็จะไม่เข้าหรือไม่ นายเศรษ​ฐา กล่าวว่า ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เราเป็นฝ่ายบริหาร หากฝ่ายนิติบัญญัติมีความไม่สบายใจเกิดขึ้นเราก็ต้องให้ความกระจ่าง มีหน้าที่ต้องไปตอบคำถาม



https://youtu.be/Bg63JYi3Cko


คุณอาจสนใจ

Related News