'ธนกร' ฟาด 4 ส.ส.ก้าวไกล ปมลาออก กมธ.แลนบริดจ์ - 'ศิริกัญญา' สวน 'อนุทิน' ไม่ใช่มาเล่นการเมือง แต่ดิฉันกำลังถูกเล่นการเมืองอยู่

นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่ 4 ส.ส.พรรคก้าวไกล มี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายจุลพงศ์ อยู่เกษ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ และนายสมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์ ได้แถลงลาออกจากกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทย และอันดามัน หรือ “โครงการแลนด์บริดจ์” นั้น


ถือว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ เอาแต่ช่วงชิงความได้เปรียบ ทางการเมืองตลอดเวลา แต่ไม่มองถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนที่จะได้รับมาก่อน อยากให้พรรคการเมืองรุ่นใหม่ทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์เห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้งมากกว่า


ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) ของพรรคก้าวไกล ลาออกจากการเป็นกรรมาธิการ 4 คนว่า เรื่องแลนด์บริจด์เรามองในมิติที่เป็นบวก เพราะไม่ใช่เรื่องของการคุ้มทุน ไม่คุ้มทุนจากการก่อสร้างโครงการ แต่เรามองไปถึงเศรษฐกิจในประเทศ การจ้างงาน การผลิตวัสดุต่างๆ ในประเทศ รวมถึงเรื่องของโอกาสต่างๆ เราต้องมองภาพรวมของประเทศในฐานศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียน มันไม่ใช่แค่เชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทยเท่านั้น แต่เราสามารถใช้โครงการแลนด์บริจด์กระจายสินค้าต่างๆไ ปยังทุกภูมิภาคของประเทศรวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน


ส่วนมองการลาออกวันสุดท้ายในการลงมติเห็นชอบรายงานการส่งผลการศึกษาไปยังสภาฯอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละคน คนที่เข้าใจเขาก็จะต้องช่วยกันผลักดัน ตอนนี้ยังไม่มีตัวเลขออกมาชี้ชัดเลยว่าจะเป็นอย่างไร มันจะไปด่วนสรุปแบบนี้ไม่ได้ ความจริงการลาออกไปของพรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้ทำให้ผลการพิจารณาล่ม มันก็เดินต่อไป ตนมองว่าแทนที่จะอยู่ช่วยกันอย่าไปเล่นอะไรที่เป็นเกมการเมืองไปหมด ถ้าทุกอย่างเป็นเกมการเมืองไปหมดประเทศมันไปไหนไม่ได้


ขณะที่ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการที่ 4 สส.พรรคก้าวไกล ลาออกจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) ว่ามองทุกอย่างเป็นการเมือง ประเทศเดินไม่ได้ ว่า เราไม่ได้พยายามเล่นการเมืองในเรื่องนี้เลย อยากทำทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา เราเข้ามาเป็นคณะกรรมาธิการนี้โดยที่ไม่ได้มีธง เชื่อหรือไม่เชื่อ หรือว่าเห็นกับโครงการนี้แบบไหน แต่ปัญหาคือเรายังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นการที่ประธานคณะกรรมาธิการ เร่งรัดปิดประชุม ให้ลงมติรายงาน ต้องตั้งคำถามกลับไปว่า ฝ่ายไหนกันแน่ที่เล่นการเมือง


เพราะครั้งล่าสุดก่อนที่จะมี ปิดประชุมในครั้งนี้ เรายังถกกับ สนข. อยู่เลย ซึ่งถามไป 7 คำถามต่อสาธารณะ แต่ สนข. ก็หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง ซึ่งในครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับสนข. ประธานก็สั่งปิดประชุมขณะที่ยังถามไม่เสร็จ เนื่องจากเราไล่ต้อน สนข. จนตอบไม่ได้ หลายเรื่อง บรรยากาศก็มาคุ จึงสั่งปิดไปก่อนแล้วบอกว่าจะมาต่อในครั้งหน้า หรือสามารถขยายอายุของคณะกรรมาธิการได้ แต่หลังจากหนังสือเชิญประชุมออกมาปรากฏว่าไม่มีการเชิญ หน่วยงานเข้ามา อีกแล้ว จะเป็นการพิจารณาตัวรายงานและลงมติรับรายงานเลย


เป็นเหตุให้ตน งง ซึ่งตนเคยทักท้วงประธานไปแล้วว่าประธานพูดอีกอย่างหนึ่ง วันนี้ทำไมจึงไม่มีการเชิญ สนข. มาคุยกันให้จบ เพราะทุกครั้งที่มีประเด็นก็จะถูกเตะทวงถูกเลื่อนออกไป กว่าจะได้ซักถามคำถาม ที่ค้างคาใจกันอยู่ ก็ใช้เวลานานมาก ซึ่งบันทึก รายงาน การประชุม ยังเขียนไว้อยู่เลยว่า ประธานเห็นว่า สนข. ควรจะต้อง ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงจนกว่าจะสิ้นสงสัยกับกรรมาธิการ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญ จะบอกได้ว่าโครงการนี้คุ้มค่าหรือไม่


เราจ่ายเงินไป 68 ล้านบาท ให้ สนข. จัดทำรายงานความเป็นไปได้ ความเหมาะสมทางการเงินขึ้นมา แล้วเราบอกว่าเราไม่ต้องดู เราก็ไม่ต้องทำต่อแล้ว เพราะ 68 ล้านยังจ่ายไม่ครบ ถ้าเราไม่ต้องดูตัวเลขความคุ้มค่าใดใด ไม่เห็นจะมีความจำเป็นใดใดที่จะต้องไปจ่ายเงินให้ สนข. ไปจ้างที่ปรึกษามูลค่า 68 ล้านบาทมา แล้วตอบคำถามอะไรไม่ได้เลย


"นี่ไม่ใช่การมาเล่นการเมือง แต่ดิฉันคิดว่าดิฉันกำลังถูกเล่นการเมืองอยู่ การรวบรัดตัดความและพยายามที่จะปิดจบกรรมาธิการนี้ แม้แต่จะพิจารณาเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ ดิฉันยังทำไม่ได้เลย ไม่รู้จะลงมติอย่างไรถ้ายังไม่สิ้นสงสัย จึงเป็นที่มางั้นลาออกดีกว่า" นางสาวศิริกัญญา กล่าว


สุดท้ายเขาก็ลงมติกันเห็นชอบรายงานไป 20 ต่อ 2 ซึ่งยังเหลือกรรมาธิการในสัดส่วนก้าวไกลอีกสองคนในสัดส่วนคนนอก เหลือไว้เป็นตัวแทนของเรา ยืนยันว่าเราไม่ได้ทิ้งงานแต่รู้สึกว่าเราทำจนจบแล้วและนี่คือวันสุดท้ายของการปฎิบัติหน้าที่ในกรรมาธิการแล้ว เพียงแต่ไม่สามารถให้ความเห็นใดใดกับรายงานฉบับนี้ได้


ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของการไม่สังฆกรรมกับแลนด์บริดจ์ แต่เราอยากให้ได้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนเพียงพอ ซึ่งเป็นการแสดงออกตามสิทธิ์ ถ้าคุณจะทำรายงานกลุ่มกับเพื่อน แต่ว่าเล่มนี้ยังเก็บข้อมูลไม่ครบถ้วน จะไปสรุปแบบเพื่อนคุณ ก็ไม่กล้าจะมีชื่ออยู่ในรายงานเล่มนี้

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/E-dmLrdWFOA