เลือกตั้งและการเมือง

'หมอชลน่าน' ควง 'อุ๊งอิ๊ง' ตรวจความพร้อมนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตร ปชช.ใบเดียว นำร่อง 4 จังหวัดทั่วประเทศ

โดย weerawit_c

7 ม.ค. 2567

66 views

เมื่อเวลา 10.30 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ และนพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ พร้อม นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ สส. พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ติดตามความคืบหน้าการดำเนินนโยบาย"บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่" ที่โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน อ.จตุรพักตรพิมาน ตรวจเยี่ยมดูระบบการตรวจสอบประวัติสุขภาพอิเลกทรอนิกส์ , การออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล , ใบสั่งยา/ใบสั่งแล็ปออนไลน์ การแพทย์ทางไกล เภสัชกรรมทางไกล การนัดหมายออนไลน์ และระบบส่งยาและเวชภัณฑ์ที่บ้าน รวมถึงระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยมี ประชาชนในพื้นที่ได้มาทดลองระบบในทุกขั้นตอน ซึ่งถือว่ามีความพร้อมในการบริการประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ


โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นความสำเร็จของพี่น้องชาวสาธารณสุขโดยเฉพาะที่อำเภอจตุรพักตรพิมานถือเป็นอำเภอที่มีความพร้อมและเข้มแข็งในการหลักดันนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวให้เห็นผลใน 100 วัน

ซึ่งเป็นสาเหตุในการเลือกโรงพยาบาลจตุรพักตร์พิมานเป็นจังหวัด 1 ใน 4 จังหวัดนำรอง เพราะมีความพร้อมในทุกด้าน


นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา มีเป้าหมายให้พี่น้องประชาชน ให้มีสุขภาพวะที่ดีทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา เข้าถึงระบบสาธารณสุขได้อย่างรวดเร็วสะดวกสบายง่ายต่อการรับบริการ เพื่อยกระดับและปรับระบบทั้งหมด จาก 30 บาทรักษาทุกโรคเป็น 30 บาทรักษาเครดิตด้วยบัตรประชาชนใบเดียวด้วยเทคโนโลยี


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เธอว่านโยบายนี้เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณะสุข เป็นนโยบายที่ต้องเร่งรัดให้เห็นผลภายใน 100 วัน เราเป็นคำมั่นสัญญาของรัฐบาลที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนวันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนนโยบาย ทำให้บัตรประชาชนเป็นบัตรประกันสุขภาพ ใช้ได้สะดวกทุกพื้นที่ทุกหน่วยบริการไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก ร้านขายยา หรือ ห้องแลป


ด้านนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนี้รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้น และวันนี้ได้มาเห็นระบบจริงจึงขอชื่นชมบุคลากรสาธารณสุขทุกท่าน สายฝนทำให้มั่นใจว่าบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่จะสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้ทุกที่จริงๆ และเชื่อว่าทุกคนเคยใช้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค วันนี้ผ่านมา 22 ปีจำเป็นจะต้องอัพเกรดขึ้นทำให้ดีขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายให้กับประชาชนตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป จึงมั่นใจว่าจะทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น


สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร พูดถึง 30 บาทรักษาทุกโรคไม่มีใครเชื่อ แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้และทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้นตลอด 22 ปี และต่อไปนี้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะทำนโยบายให้ดียิ่งขึ้นไปอีก


จากนั้น นพ.ชลน่าน และนางสาวแพทองธาร พร้อมคณะ ได้ร่วมกิจกรรมเข้าจังหวะเพลง “30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” กับพี่น้อง อสม. และประชาชน ก่อนที่จะพบปะกับประชาชนที่มาต้อนรับอย่างเป็นกันเอง


ส่วนช่วงเย็นวันนี้จะเริ่มคิกออฟโครงการอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งจะมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดโครงการ ณ ลานสาเกตุนคร หน้าหอโหวด 101 จังหวัดร้อยเอ็ด และนำร่องพร้อมกันในอีก 3 จังหวัด คือ แพร่ , เพชรบุรี และนราธิวาส รองรับการให้บริการประชาชนครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ


สำหรับการยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ถูกยกระดับเป็น "30 บาทรักษาทุกที่" หรือเรียกสั้นๆว่า "30 บาทพลัส" ที่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐ และเอกชนได้ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และที่สำคัญ ยังสามารถเข้ารับการรักษามะเร็งได้ครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การฉีดวัคซีน การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม หากตรวจพบก็จะถูกส่งต่อเข้ารับการรักษาต่อไป


นอกจากนี้ ยังเข้าถึงบริการในเขตเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน โดยเชิญเอกชนเข้ามาร่วมให้บริการมากขึ้น ทั้งร้านยา คลินิกทันตกรรม คลินิกกายภาพบำบัด นับเป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข และอำนวยความสะดวกในการรับบริการของประชาชนอย่างแท้จริง


ส่วนการขยายนโยบายในเฟส 2 นั้น ภายในเดือนมีนาคมนี้ จะครอบคลุมพื้นที่อีก 8 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, สิงห์บุรี, สระแก้ว, หนองบัวลำภู, นครราชสีมา, อำนาจเจริญ และพังงา ส่วนจังหวัดอื่นๆอยู่ในเฟสต่อๆไป ตามความพร้อมของแต่ละจังหวัด


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/vTJ_clEctkI

คุณอาจสนใจ

Related News