เลือกตั้งและการเมือง

'ภูมิธรรม' โต้ 'ธนาธร' บอกเป็นสิทธิ์ที่ไม่เห็นด้วยกู้เงิน 5 แสนล้าน มองกระตุ้นเศรษฐกิจ-รัฐสวัสดิการ เป็นคนละเรื่องกัน

โดย weerawit_c

19 พ.ย. 2566

69 views

วานนี้ (18 พ.ย.) นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แสดงความคิดเห็นว่า ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน 5 แสนล้านแจกประชาชน พร้อมเสนอว่าหากตน มี 5 แสนล้านบาทจะเริ่มต้นด้วยการพัฒนาใน 5 ด้าน คือ การขนส่งสาธารณะ สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การศึกษา และน้ำปะปา


โดยนายภูมิธรรมระบุว่า เป็นสิทธิของนายธนาธร ที่จะสามารถนำเสนอความเห็นได้ รัฐบาลพร้อมรับฟัง แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือตนมองว่านายธนาธรพูดแยกส่วน พูดถึงเงิน 5 แสนล้านแบบลอยๆ ที่นำไปใช้ในเรื่องต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลนี้ ต้องทำอยู่แล้ว


พร้อมมองว่าต้องพูดบนฐานองค์ประกอบทั้งหมด มีความจำเป็นทั้งหมดที่ต้องทำ เงินจำนวนนี้ที่นำมาใช้มีความแตกต่างกันระหว่างรัฐบาล กับนายธนาธร คือนายธนาธรมองว่าควรนำเงินไปกระจายก่อนและค่อยๆเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งเรื่องนี้เราไม่เห็นด้วย แต่มองว่าต้องทำให้สมบูรณ์เสียก่อนแล้วถึงจะกระจายให้กันอีกที


พร้อมถามกลับว่า การนำเงิน 5 แสนล้าน ไปทำรัฐสวัสดิการ ทราบหรือไม่ว่าเป็นงบที่ผูกพันทุกปี แต่รัฐบาลใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น หากนำไปแบบนั้นก่อน จะเกิดความเดือดร้อนกับชนชั้นกลางและผู้ประกอบการ ขอให้ไปดูตัวอย่างในต่างประเทศ ที่ประชาชนจะต้องเสียภาษี 40-50% พร้อมถามกลับว่าประชาชนมีความพร้อมหรือไม่ หากนายธนาธรพูดไม่หมดมันก็ดี ตนมองว่าเวลาพูดต้องพูดให้ครบ และไม่ได้ปฏิเสธในสิ่งที่นายธนาธรอยากทำ เราอยากฟัง แต่ท่านต้องพูดให้หมด


นายภูมิธรรมยังระบุว่าสภาพเศรษฐกิจในวันนี้ หากจะบอกว่าไม่วิกฤตก็พูดได้ในระดับสถานะของนายธนาธร แต่หากไปถามชาวบ้าน ชาวนา นักธุรกิจผู้ประกอบการทั้งหลาย ที่รับรู้ถึงสภวาะที่เผชิญแบบนี้มานาน


“การพูดของคุณธนาธร ถือว่าไม่ได้มองในภาพกว้างไปถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ผมก็ให้ข้อเสนอเผื่อคุณธนาธรจะไปพิจารณา ผมไม่ได้มีปัญหากับข้อเสนอนี้ แต่อยากให้มองให้กว้างขึ้น เพื่อที่จะช่วยกันแก้ปัญหา อย่ามองว่าเป็นเกมทางการเมือง ที่จะช่วงชิงความนิยม จากพี่น้องประชาชน ตรงนั้นไม่ได้สร้างสรรค์หรือไม่ได้เกิดประโยชน์ หากมาร่วมกันทำ หรือเปิดโต๊ะพูดคุยกัน น่าจะดีกว่าไปพูดในที่สาธารณะ เพื่อให้มีภาพพจน์ที่ดูดี ผมว่าอันนั้นไม่สง่า”


นายภูมิธรรมยังระบุอีกว่า ตนพูดแบบนี้ทัวร์อาจจะลงได้แต่ผมก็พูดจากใจจริง อยากเห็นการเสนอแนะที่มาแก้ปัญหากันจริงๆ


ขณะที่ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หากมี 5 แสนล้านบาท จะนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนั้นตนขอเห็นต่าง


สิ่งที่ นายธนาธร พูด เป็นโครงการที่เป็นระเบียบปฏิบัติประจำของรัฐบาลอยู่แล้ว หลายเรื่องก็มีความก้าวหน้าไปมาก หากจะนำเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ก็จะถูกใช้ผ่านบริษัทหรือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ กว่าจะส่งต่อถึงมือประชาชนต้องใช้เวลานาน นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล เป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่กระเป๋าเงินของประชาชนโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง


เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เงินจะสะพัด หมุนไปในหลายภาคส่วนหลายๆ รอบ ประชาชนจะมีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยทันที การค้าการขายจะดีขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมจะโต ประเทศไทยไม่ได้มีเงินมาก หากนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ไปทำสวัสดิการแห่งรัฐก่อน เม็ดเงินนั้นจะไม่เกิดการหมุนเวียน เงินในกระเป๋าประชาชนไม่มี เศรษฐกิจก็ไม่โต


อัดฉีดเม็ดเงินให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋าก่อน เพราะเป็นปัญหาเร่งด่วน จากนั้นเมื่อเศรษฐกิจโต รัฐบาลก็พร้อมจะยกระดับในการดูแลสวัสดิการประชาชนให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน รัฐบาลเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนจากวิกฤติที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ วิธีคิด วิธีทำแบบเดิมๆ จึงไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาประเทศ


ทั้งนี้ด้าน นายวรชัย เหมะ คณะที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของรองนายกฯ เผยว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นนโยบายของแต่ละพรรค นายธนาธร เคยพูดว่าถ้าเป็นรัฐบาล จะกระตุ้นเศษรฐกิจตามแนวทางนี้ ซึ่งต้องพิสูจน์กันว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ ใครจะสร้างพายุหมุนได้มากกว่ากัน ระหว่างแนวทางของพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อสร้างกำลังซื้อให้ประชาชนคลอบคลุมทั้งประเทศ 50 ล้านคน สนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประจายทั่วประเทศ


ที่นายธนาธร พูดคือหลักคิดเมื่อพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล ก็จะใช้วิธีการของเรา ซึ่งนายธนาธรเองก็ไม่ได้คัดค้านนโยบายของพรรคเพื่อไทย เพียงแต่เปรียบเทียบนโยบายว่าต่างกันอย่างไร ต่างคนต่างคิดต่างคนต่างทำ วันนี้เป็นเวลาของพรรคเพื่อไทย แนวคิดของนายธนาธร คงต้องรอวันที่พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลก่อน แล้วจะได้เปรียบเทียบกันว่าแบบไหนดีกว่า



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/WpOkYef12_U

คุณอาจสนใจ

Related News