เลือกตั้งและการเมือง

โค้งแล้วโค้งอีก! ‘ปูอัด’ แถลงเปิดใจ ขอโทษ 3 คู่กรณี - ‘ชัยธวัช’ ซัดไร้สำนึก แถลงซ้ำเติมผู้เสียหาย

โดย petchpawee_k

4 พ.ย. 2566

146 views

“ปูอัด” โค้งแล้วโค้งอีก แถลงเปิดใจครั้งแรก หลัง “ก้าวไกล” มีมติคาดโทษคุกคามทางเพศ บอกถ้าผิดจริง ก็ขอโทษ เปิดแชทผู้เสียหาย 3 ราย ขอ ปชช.ช่วยคิด คุกคามหรือไม่ ขอโทษเพื่อนสมาชิกพรรค ทำให้มีรอยร้าว  

เมื่อวานนี้ (3 พ.ย.66) เวลา 13.40 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคก้าวไกล เขตจอมทอง นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ สส.ปูอัด  สส.กทม.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวภายหลังได้รับหนังสือแจ้งให้ปฏิบัติตามมติของพรรค ให้แถลงยอมรับและขอโทษผู้เสียหายอย่างจริงใจ พร้อมการเยียวยา หลังถูกตัดสินปมคุกคามทางเพศ แต่ยังไม่ถูกขับออกจากพรรค  โดยระบุว่า  เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ได้รับหนังสือคำสั่งจากกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่เป็นมติของที่ประชุมพรรค  ทำให้วานนี้ (3 พ.ย.66) ตั้งใจจะมาชี้แจงและนำเสนอหลักฐานต่อสื่อมวลชนและประชาชนทุกคน  ในข้อกล่าวหาตามคำร้องของผู้ร้องในเอกสาร ที่ตนเองได้ส่งให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณาทั้งหมดแล้ว หากเป็นการคุกคามทางเพศ โดยใช้อำนาจบีบบังคับจริงตนเองก็ต้องขอโทษและพร้อมที่จะน้อมรับในมติพรรค


โดยได้ชี้แจงตอบโต้รายละเอียด ของผู้ร้องทั้งหมด 3คน พร้อมอ่านรายละเอียดแชทหลักฐานที่พูดคุยกับผู้เสียหาย

ผู้ร้องที่ 1 ตามเอกสารที่ระบุว่า มีการใช้อำนาจคุกคามทางเพศ ไปที่ผู้ร้องคนที่หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ช่วยที่ร่วมกันทำพื้นที่ในเขตจอมทองมาโดยตลอด ตนขอแสดงหลักฐานข้อความส่วนตัวระหว่างตนและคู่กรณีดังนี้ จากนั้น นายไชยามพวานได้อ่านบันทึกการสนทนาให้กับสื่อมวลชนฟัง พร้อมกล่าวว่า

“หากเป็นการคุกคามทางเพศ โดยใช้อำนาจบีบบังคับตามที่คณะกรรมการพรรควินิจฉัย ผมก็ต้องขอโทษจริงๆ” นายไชยามพวาน กล่าว พร้อมลุกขึ้นโค้งคำนับ

ผู้ร้องที่ 2 กรณีที่อ้างว่ามีรูปถ่ายขณะที่ผู้ร้องคนที่สองผูกเน็กไทด์ให้กับตน และอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องพัก เป็นการคุกคามทางเพศนั้น ตนขอชี้แจงว่า รูปดังกล่าวจัดทำขึ้นเป็นคอนเทนท์ เพื่อเตรียมไว้สำหรับลงโซเชียลมีเดีย โดยมีแนวคิดว่า ตนเองเป็น สส.หน้าใหม่ ที่ผูกไทด์ไม่เป็น ซึ่งผู้ร้องคนที่สองก็เป็นคนคิดคอนเทนท์นี้เอง และเป็นเพียงการส่งรูปให้เลือกเพื่อลงโซเชียลมีเดีย แต่ยังไม่ได้ถูกเผยแพร่ เป็นข้อบ่งชี้ที่ว่า ผู้ร้องรู้ตัวว่าถูกถ่ายแน่นอน และในวิดีโอผู้ร้องก็มีการสนทนากับตนตลอด และจะเห็นได้จากเงาสะท้อนว่า มีผู้ช่วยคนอื่นอยู่ในห้องด้วย ไม่ได้อยู่กันสองต่อสองตามที่ได้มีการกล่าวอ้าง


“ทางที่บ้านของน้องก็เอ็นดู มีการนำสูทมือ 2 มาให้เยอะ และเนคไทด์อันนี้ที่ผมใส่อยู่ ก็เป็นของคุณพ่อเขา ก็ยังคงใส่เหมือนเดิม ซึ่งในส่วนนี้ผมจะไปชี้แจงกับ ปปช.เพิ่มเติม” นายไชยามพวาน กล่าว


ส่วนสลิปการโอนเงินที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นการโอนเพื่อปิดปากนั้น ตนขอชี้แจงว่า เป็นการโอนเงินเดือนตามบันทึกข้อตกลงร่วมงาน และให้เงินช่วยเหลือค่าครองชีพระหว่างการว่างงาน

“หากรูปดังกล่าวที่แจ้งไปข้างต้น ถือว่าเป็นการคุกคามทางเพศตามที่คณะกรรมการของพรรควินิจฉัย รวมถึงถือว่าสลิปโอนเงินนั้น เป็นการปิดปาก ตนก็ขอโทษ และพร้อมยอมรับในมติพรรค” นายไชยามพวาน กล่าว พร้อมลุกขึ้นโค้งคำนับ


ผู้ร้องที่ 3 กรณีที่มีการแตะเนื้อต้องตัว ซึ่งถูกมองว่าเป็นการคุกคามนั้น ตนทราบดีว่าเวลาลงพื้นที่อาจมีการแตะตัวกับผู้อื่นค่อนข้างมาก แต่ตนไม่มีเจตนาที่จะแตะตัวใครเพื่อเป้าประสงค์ทางเพศ และการสัมผัสตามคำร้องของผู้ร้องคนที่สามนั้น เป็นการแตะเนื้อต้องตัวธรรมดาของผู้ร่วมงาน ไม่ได้มีเป้าประสงค์ทางเพศ


“หากผมผิดพลาดที่อาจไม่ได้คิดให้รอบคอบถึงขอบเขตเหล่านี้ให้ดีพอว่า แต่ละคนอาจมีขอบเขตในการยอมรับที่แตกต่างกัน และผมต้องขออภัย หากการกระทำของตน ทำให้ผู้ร้องรู้สึกไม่สบายใจ และตนอาจจะไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้ร้องสะท้อนความรู้สึกถึงความไม่สบายใจออกมาได้มากพอ ผมก็ต้องขออภัย และจะระมัดระวังตัวมากขึ้น” นายไชยามพวานกล่าว พร้อมลุกขึ้นโค้งคำนับ


ท้ายที่สุด ตนเคารพในการตัดสินใจของมติพรรค ขอฝากพี่น้องสื่อมวลชน และประชาชน ช่วยพิจารณาตามเอกสารหลักฐานตรงนี้ด้วยว่า เป็นพฤติกรรมคุกคามทางเพศ และเข้าข่ายหรือไม่


 “ขอโทษเพื่อนๆ ที่ทำให้พรรควันนี้มีรอยร้าวขึ้นมา ขอโทษประชาชนในพื้นที่ ที่วันนี้เพิ่งจะเอาหลักฐานออกมาให้ทุกคนได้ทราบ และหลังจากเสร็จการแถลงข่าวตนจะไปลงพื้นที่ต่อ” นายไชยามพวาน กล่าว

---------------------------------------------------

“ชัยธวัช” ชี้ถ้อยแถลง “ไชยามพวาน” ไร้สำนึก จ่อพิจารณาขัดมติพรรค

 หลังจากที่นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล  แถลงข่าวกรณีคุกคามทางเพศเสร็จแล้ว  นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล  ก็โพสต์เฟซบุ๊ก  ระบุว่า


“ผมได้ฟังการแถลงของคุณไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ เมื่อบ่ายวันนี้แล้ว และมีความเห็นส่วนตัว ดังนี้

(1) แม้คุณไชยามพวานจะแถลงว่าน้อมรับมติของพรรคและขอโทษ หากเห็นว่าการกระทำของตนเองถือเป็นการคุกคามทางเพศ แต่เมื่อพิจารณาสาระสำคัญในการแถลงแล้ว จะเห็นได้ว่า คุณไชยามพวานไม่ได้สำนึกหรือยอมรับว่าพฤติการณ์ของตนนั้น เข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศแม้แต่น้อย และไม่ได้ขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจ


(2) คุณไชยามพวานยังนำข้อความของผู้เสียหายรายที่หนึ่งมาแสดงต่อสาธารณะ โดยเจตนาจะแสดงให้เห็นว่า ตนเองกับผู้เสียหายมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน  ดังนั้น การล่วงเกินทางเพศที่มีต่อผู้เสียหายคนดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา จึงเกิดขึ้นโดยความยินยอม หรืออย่างน้อยผู้เสียหายก็ไม่ได้แสดงการต่อต้านหรือความไม่พอใจใดๆ หลังเกิดเหตุ


(3) ต่อมา คุณไชยามพวานได้แสดงข้อมูลเพื่อแสดงให้เห็นว่า การถ่ายรูปและคลิปของผู้เสียหายรายที่สองนั้น ไม่น่าจะถือเป็นการคุกคามทางเพศ


(4) สุดท้าย คุณไชยามพวาน ยืนยันว่า ตนเองแตะเนื้อต้องตัวผู้อื่นเป็นประจำ การแตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายรายที่สามนั้นเป็นไปในฐานะเพื่อนร่วมงาน ไม่ได้มีเจตนาหรือเป้าประสงค์ทางเพศ


(5) ในฐานะที่เป็นกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งของพรรคก้าวไกล ผมขอชี้แจงว่า คณะกรรมการบริหารพรรคทราบข้อเท็จจริงและข้อโต้แย้งข้อกล่าวหาทั้งหมดของคุณไชยามพวาน โดยคุณไชยามพวานพยายามแสดงหลักฐานเพื่อสื่อว่า การล่วงเกินทางเพศต่อผู้เสียหายรายที่หนึ่งนั้น เกิดขึ้นโดยอีกฝ่ายไม่เคยแสดงอาการไม่ยินยอมใดๆ เลย 


 อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาแล้วเห็นว่า การล่วงเกินทางเพศเกิดขึ้นโดยผู้เสียหายอยู่ในสภาพมึนเมา ย่อมไม่อยู่ในสถานะที่สามารถให้การยินยอมหรือไม่ยินยอมได้  นอกจากนี้ คุณไชยามพวานยังมีพฤติกรรมที่ส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ โดยการพาผู้เสียหายไปที่คอนโดมีเนียมของตนเอง


(6) แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณไชยามพวานกับผู้เสียหายก่อนและหลังเกิดเหตุการณ์ล่วงเกินทางเพศจะดูเป็นปกติหรือดีต่อกัน แต่ผู้เสียหายรายที่หนึ่งไม่เคยยินยอมให้คุณไชยามพวานมีเพศสัมพันธ์ด้วยอีกเลย ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ย่อมต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย การมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายชายสามารถจะมีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายหญิงได้ตามใจชอบ  นอกจากนี้ ความสัมพันธ์อันดีอาจเกิดจากความต้องการทำงานร่วมกับพรรคและ สส. ของพรรคในอนาคต ซึ่งเมื่อคุณไชยามพวานได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เขาได้ลดการมอบหมายงานให้ผู้เสียหายรายที่หนึ่ง ภายหลังจากที่มีผู้เสียหายรายที่สองเข้ามาเป็นทีมงานของตนเอง


(7) สำหรับกรณีผู้เสียหายรายที่สองนั้น คณะกรรมการบริหารพรรคไม่ได้พิจารณาความผิดจากข้อเท็จจริงเรื่องการถ่ายรูปและคลิปตามที่คุณไชยามพวานกล่าวถึง เนื่องจากเห็นว่ารับฟังไม่ได้ว่าเป็นการคุกคามทางเพศจริง  แต่คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า นอกจากจะมีพฤติการณ์แตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายแล้ว ขณะคุณไชยามพวานเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยังได้ชักชวนผู้เสียหายรายที่สองไปต่างจังหวัดสองต่อสอง 2 ครั้งโดยไม่เกี่ยวข้องกับงานในความรับผิดชอบของผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายปฏิเสธทั้งสองครั้ง


(8) ส่วนกรณีผู้เสียหายรายที่สาม  ผู้เสียหายเห็นว่าคุณไชยามพวานมีพฤติกรรมพยายามเข้าหาและพูดคุยในลักษณะที่ทำให้รู้สึกถูกคุกคามทางเพศ จนทำให้ต้องขอลาออกจากทีมงานหลังเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน


(9) คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาพฤติการณ์และข้อเท็จจริงทั้งสามรายประกอบกัน ซึ่งมีลักษณะต่อเนื่องและมีรูปแบบทำนองเดียวกัน จึงเห็นว่า คุณไชยามพวานมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศต่อผู้เสียหายทั้งสามราย และล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหายหนึ่งราย โดยผู้เสียหายทั้งหมดมีสถานะเป็นอาสาสมัครหรือผู้ช่วยดำเนินงานของคุณไชยามพวาน ซึ่งด้วยความที่คุณไชยามพวานมีอำนาจหรือสถานะเหนือกว่าผู้เสียหาย สามารถให้คุณให้โทษต่อผู้เสียหายได้ จึงส่งผลให้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณไชยามพวานกับผู้เสียหายในระยะเวลาหนึ่ง อาจเกิดจากเนื่องจากปัจจัยด้านสถานะการจ้างงาน ความมั่นคงทางรายได้ หรือความต้องการทำงานร่วมกับพรรคและ ส.ส. ของพรรค


(10) ข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย เป็นอาสาสมัครและ/หรือผู้ช่วยดำเนินงานของคุณไชยามพวาน ยังส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อระบบอาสาสมัครของพรรค ทำให้การทำงานเป็นอาสาสมัครหรือทีมงานของพรรคไม่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งควรต้องปลอดจากการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศในทุกรูปแบบ


(11) ผมเห็นว่า การแถลงของคุณไชยามพวานในวันนี้ นอกจากจะไม่สำนึกยอมรับผิดและขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจแล้ว ยังอาจเป็นการก่อความเสียหายซ้ำเติมต่อผู้ถูกกระทำทั้งสามรายอีกด้วย  ดังนั้น หลังจากวันเสาร์นี้  ผม ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้พิจารณาว่าคุณไชยามพวานกระทำการให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคหรือไม่


(12) หากคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นว่า คุณไชยามพวานกระทำการขัดต่อมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ก็จะนำไปสู่กระบวนการทางวินัยจากฐานการฝ่าฝืนมติคณะกรรมการบริหารพรรคดังกล่าว อันเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และหากมีความผิดจริง ก็จะนำไปสู่การจัดประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารกับ ส.ส. ของพรรค เพื่อมีมติให้คุณไชยามพวานพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล หรือไม่ ต่อไป

https://youtu.be/Xfak7BexApk

คุณอาจสนใจ

Related News