เลือกตั้งและการเมือง

ถอดภาษากาย ‘เศรษฐา’ เผชิญหน้า ‘ปูติน’ ผู้เชี่ยวชาญชี้ มีแต่ความกลัว-ไร้อำนาจ โฆษกรัฐฯแจงขอให้ดูที่ผลงาน

โดย petchpawee_k

21 ต.ค. 2566

88 views

“หมอมด” ถอดภาษากาย “เศรษฐา” ดูสยบยอม ย้ำต้องรีบปรับ ก่อนซ้ำรอย"ลุงตู่" ด้านโฆษกรัฐบาล ออกโรงแจงหลังโซเชียลดรามาภาษากาย ขอให้ประชาชนดูผลงานนายกฯ ที่ทำงานหนักทุกวัน เพื่อพัฒนาพลิกฟื้นเศรษฐกิจ  

เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.66)  เพจ “ถอดรหัสภาษากาย - Body Language Analysis โดย หมอมด” โพสต์ข้อความวิเคราะห์ภาษากายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างหารือทวิภาคีกับ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ณ เรือนรับรองเตี้ยวหยูไถ่ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา


โดยหมอมด ระบุว่า “ผมมองคลิป คุณเศรษฐา นั่งคู่กับ ปูติน ด้วยท่านั่งดังภาพนั้นเขาควรจะต้องปรับปรุงเป็นการด่วน   สังเกต ทั้งแขน ขา ลำตัว ล้วนหดเข้าหากันจนลีบเล็ก (คล้ายเต่าที่หดระยาง) ทำให้ดูขาดความมั่นใจ ไม่มีอำนาจ ภาพพจน์ก็พลอยทำให้ดูเสมือนว่าสถานะต่ำกว่า และแทบไม่มีส่วนใดเลยที่จะแสดงว่าคุณเศรษฐาดูมีความมั่นใจ


ฝรั่งนักวิเคราะห์ Jacek Wachowiak เขาตีความเลยว่า กลัว คุณเศรษฐามีลักษณะที่กลัวประหม่าคุณปูตินอย่างมาก และเขาไม่เคยเห็นผู้นำต่างประเทศคนไหนมีลักษณะที่ดูกลัวและขาดความมั่นใจเช่นนี้เลย


ท่านนายกควรจะต้องซีเรียสกับ #ภาษากาย ได้แล้ว ไม่งั้นภาพพจน์ที่ไม่ดีเหล่านี้จะสะสมไปเรื่อยๆจนเป็นภาพจำที่ยากจะลบเลื่อน”


 นอกจากนี้ หมอมด ยังได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์  โดยเปรียบเทียบระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อครั้งพบกับ เทเรซ่า เม ที่ประเทศอังกฤษ โดยระบุว่า


“ผมเคยวิเคราะห์ท่านั่งของคุณประยุทธ์ สมัยที่พบเทเรซ่า เม ที่อังกฤษ โดยรวมคือ มีลักษณะรวมๆ คือประหม่า กลัว เสมือนว่าในใจอยากจะออกไปจากตรงนั้น  


คุณเศรษฐา ก็คล้ายกัน แต่ต่าง โดยลำตัวท่อนบน ร่วมกับขาและเท้า ที่เอียงมาทางคุณปูติน เป็นภาษากายที่แสดงว่าพยายามให้ความสนใจอีกฝ่าย   แต่ด้วยแขน ขา และเท้า ของคุณเศรษฐา ที่หดเข้าหาตัวเป็นท่านั่งที่อยู่ในโหมดป้องกันตัว ระวังตัว ทำให้สะท้อนว่ามีความกลัว ในเวลาเดียวกันก็เป็นการแสดงทำนองว่านอบน้อมกับอีกฝ่าย จุดนี้ดูทำขาดสง่าราศี และความมั่นใจ อันเป็นบุคลิกที่ผู้นำจะต้องมี


บางคนอาจจะออกความเห็นว่าคุณเศรษฐาเป็นคนให้เกียรติผู้อื่น และมีความนอบน้อมถ่อมตน  

แต่จากภาษากายมันเกินกว่านั้น แต่กลายเป็นดูกลัว ยอบสยบ ยอมอยู่ใต้อำนาจ

ย้ำว่าคุณเศรษฐา จะต้องแคร์ภาพลักษณ์ตนเองให้มาก ไม่งั้นจะซ้ำรอยคุณประยุทธ์ ….


เช่นเดียวกับ  “จาเลก วาโชวิค” ชาวโปแลนด์ ที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ และเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาท่าทาง ก็ได้ โพสต์ข้อความในเอ็กซ์  วิเคราะห์ท่าทางของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ระหว่างการเข้าพบนายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ว่ามีแต่ความตึงเครียดและหวาดกลัว โดยเศรษฐา นั้นหันทั้งร่างกาย ลำตัว หัวเข่า ศีรษะ และเท้าเข้าหาปูติน เพื่อเตรียมพร้อมจะพูดกับเขา


อีกทั้ง นายกฯ ไทยยังหดตัว และพยายามรักษาพื้นที่ให้แคบที่สุด แสดงท่าทีสยบยอมเมื่อยู่ต่อหน้าผู้มีอำนาจและมีประสบการณ์มากกว่า และชี้ให้เห็นว่า ประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจไม่ช่วยให้คนมีความมั่นใจในด้านนโยบายต่างประเทศ  นอกจากนี้ จาเลก ยังบอกอีกว่า ความเครียดของเศรษฐา แสดงออกให้เห็นจากการยิ้มแห้งใส่ปูติน พร้อมก้มศีรษะและหดไหล่


 เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.66) นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า  คนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์  ไม่ได้เห็นอิริยาบทของท่านนายกฯ ตลอดช่วงเวลาการทำภารกิจที่ประเทศจีน 3 วันเต็มๆ  ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท่านนายกฯ มีภารกิจอัดแน่นตลอดทุกวัน กลับกล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบขนาดนั้น ถ้าจะจับเอาภาพภาษากายที่ท่านนายกได้แสดงออกต่อหน้าบุคคลสำคัญๆ ระดับโลกอย่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิง, นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน นายหลี่เฉียง, ประธานสภาประชาชนแห่งชาติ นายจ้าวเล่อจี้ หรืออย่างประธานาธิบดีปูติน รวมทั้งผู้นำภาคธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศจีน จะมีภาพที่ถูกบันทึกเอาไว้นับเป็นพันๆ ภาพ คนที่อยู่ในเหตุการณ์เกือบจะตลอดเวลาอย่างผม ได้สังเกตเห็นอิริยาบทแทบจะทุกย่างก้าวของนายกเศรษฐาของประเทศไทย


ขอบอกต่อพี่น้องชาวไทยทุกคนว่า นายกรัฐมนตรีของท่านนั้น มีบุคลิกภาพสง่าภูมิฐาน เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเองที่ผสมผสานไปด้วยความสุภาพอ่อนน้อม เห็นแล้วน่าภาคภูมิใจในผู้นำของประเทศไทย ซึ่งรวมถึงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษที่มีความฉะฉานในระดับสูง อย่างไรก็ตาม  อยากให้โฟกัสที่เนื้อหาของการหารือ และประโยชน์ที่ประเทศชาติได้รับ มากกว่าบุคลิกท่าทางของนายกรัฐมนตรี ซึ่งโดยพื้นฐานท่านมีความสุภาพอ่อนน้อม (ในแบบฉบับของท่านที่สามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างกลมกลืน สง่างาม) ในการวางตัวกับผู้นำต่างชาติ และท่านนายกฯ ได้กล่าวเนื้อหาสาระกับผู้นำแต่ละคนเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง


การให้ความสำคัญกับท่าทางของนายกรัฐมนตรีในการหารือจึงไม่ใช่สาระสำคัญของการพบปะหารือกับผู้นำต่างประเทศในแต่ละครั้ง


นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญที่สุดกับความอยู่ดีกินดีของประชาชน พัฒนาพลิกฟื้นเศรษฐกิจ  ในการเดินทางแต่ละครั้ง นายกรัฐมนตรีจึงมีการเตรียมการค่อนข้างมาก เพื่อจัดการพบหารือดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวพัฒนาขีดความสามารถของประเทศให้ได้มากที่สุด


“ขอให้ประชาชนมองการทำงานของนายกรัฐมนตรีด้วยใจเป็นกลาง นายกรัฐมนตรีทำงานหนักทุกวัน โดยคำนึงถึงการนำเสนอ เชิญชวนพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และเพื่อปากท้องของประชาชนทุกคน เช่น การเดินทางเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีนำเสนอโครงการ Landbridge เพื่อดึงดูดให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในประเทศ และวางแผนการดำเนินนโยบายสร้างความเชื่อมโยง ทั้งต่อการเป็น EV Hub ของไทยในภูมิภาค การ Digitalization กระจายความเจิญ พัฒนาการศึกษา สร้างงานเพิ่มรายได้ ทั้งนี้ ในฐานะโฆษกรัฐบาล เชื่อว่าผลงานของนายกฯ จะแสดงให้ประชาชนได้เห็นว่าท่านทำงานหนักตลอดมาเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว


https://youtu.be/YEgUW9dHAaM

คุณอาจสนใจ

Related News