เลือกตั้งและการเมือง
‘เศรษฐา’ รับไทยมีปัญหาขัดแย้งมานาน เหตุจากคำพูดเชือดเฉือน แนะเปลี่ยนคำพูด ลดความขัดแย้ง
โดย petchpawee_k
30 ก.ย. 2566
287 views
นายกรัฐมนตรี พร้อมเปิดประเทศ ต้อนรับการลงทุน รับไทยมีปัญหาขัดแย้งหมักหมมานาน ชี้สาเหตุจากใช้คำพูดซัดบาดใจถึงขั้นสะอื้น ทุกคนต้องมีส่วนร่วมเปลี่ยนคำพูด ทำให้สังคมดีขึ้น ลั่นไม่ควรเอาสถาบันมาพูดในที่สว่าง
เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษ “Next Chapter ประเทศไทย” ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ชั้น 2 โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ภายในงาน ถอดรหัสลงทุน ก้าวข้ามวิกฤต ที่จัดโดย ประชาชาติธุรกิจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน ปัญหาสังคม ปัญหาความเหลื่อมล้ำก็เป็นปัญหาใหญ่ ปัญหาการต่างประเทศ ก็เช่นกัน ซึ่งประเด็นที่จะพูดในวันนี้ก่อนเป็นประเด็นแรก คือปัญหาความเหลื่อมล้ำปัญหาสังคม เป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลที่หมักหมมมายาวนาน ไม่อยากจะบอกว่าถูกปล่อยปละละเลยการแก้ปัญหา แต่เป็นปัญหาที่ยากและใหญ่มีหลายมิติ ทำให้การแก้ปัญหาได้ไม่ตรง จึงต้องเริ่มด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้มีการวางโรดแมพไปแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์
เรามีส่วนทุกคนในการร่วมด้วยช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่การแก้ปัญหาของคนใดคนหนึ่ง ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำตามทางเศรษฐกิจสูงที่สุดประเทศหนึ่ง คนรวยก็รวยมาก คนจนก็จนมาก ถ้าให้รัฐบาลออกมาตรการ เป็นคำสั่งแก้ปัญหา คิดว่าปัญหาไม่ถูก เพราะตัองแก้ปัญหาด้วยจิตใต้สำนึกของทุกคน ขอวิงวอนให้ทุกคนเข้าใจ และเชื่อว่า ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียมในทุกมิติ ไม่ว่าจะสิทธิเสรีภาพในการเลือกเพศสภาพ เลือกการประกอบอาชีพ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ขอให้ช่วยกันซัพพอร์ตแสดงความเห็น ในเชิงบวก
ในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมาหรืออาจนานกว่านั้น ในส่วนของตนเองขอบคุณในฐานะคนไทย เมื่อเรามีความเห็นต่าง มีความไม่พอใจในการกระทำของอีกฝ่าย แทนที่จะพูดจากันด้วยภาษาที่ทุกคนรับฟังกันได้อย่างสบายหู มีสีหน้าที่ดูแล้ว มีมิตรภาพบนความเห็นต่าง ตนเองว่าจะเป็นการกระทำที่ดีกว่า
แต่ปัจจุบันนี้ การให้ความสำคัญกับ Social Media เยอะคนพูดเยอะ มีการใช้คำพูดที่บาดหัวใจ ฟังแล้วสะอื้นได้พอสมควร ถึงแม้ว่าจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันเล็กน้อย แต่บางครั้งก็เป็นเรื่องอ่อนไหวจริงๆ ทำให้เปลี่ยนตัวเอง แต่ผลกระทบในเชิงลึกมีมาก สังคมมีความแตกแยกมีการแบ่งพรรคพวกที่ชัดเจน เรามีวิธีการที่สื่อสารกันได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละคนมีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันไป คำพูดคำจาแต่ละคำมีความหมายลึกซึ้ง ปัญหาไม่ได้เพิ่งเกิด 2-3 ปี แต่เกิดมานานแล้ว หลายคนอาจจะบอกว่าการใช้ภาษารุนแรงนั้นชัดเจน แต่อาจจะมีวิธีอื่นแก้ปัญหา
ตนอยากให้มองอีกมุมหนึ่ง ถ้าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แล้วหันเข้าหากัน ก่อนตน เป็นคนพูดห้วนสั้นแต่จากนี้ไปต้องพูดให้ยาวขึ้น ผมเป็นคนที่ชัดเจนมาตลอด หากรู้จัก ผมเป็นคนพูดน้อย ได้ใจความ แต่มายืนอยู่ตรงนี้ตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่ง พี่อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น แต่เราเอง ต้องมีการปรับปรุงตัวเอง เพื่อให้ลดความขัดแย้งลงไปในการพูดจา ผมไม่ได้ต้องการว่าใครหรือตอบโต้ใครทั้งสิ้น
การใช้คำว่าปฏิรูปสังคายนา ล้างบาง ผมขอยกตัวอย่างคำพูดเหล่านี้ ผมว่าทุกๆ คนก็มีความภูมิใจในองค์กรของตัวเอง ทุกคนเข้าใจในความหวังดี ขององค์กรตัวเอง และทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี แต่เราใช้คำพูดที่รุนแรง วิธีการที่ก่อให้เกิดการแบ่งพรรคพวกที่ชัดเจน เป็นวิธีการที่แก้ไขปัญหาหรือเปล่า หรือการแก้ไขปัญหาอยู่ที่การกระทำ และการพูด การที่เอาสถาบันต่างๆ มาพูดในที่สว่าง มีคำพูดที่รุนแรง เชื่อว่าไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่การแก้ไขปัญหาคือพูดคุยกัน ในภาษาที่ทุกคนยอมรับได้ แต่ไปเน้นหนักที่การกระทำ และกระบวนการแก้ไขปัญหาที่จะทำให้ สังคมนั้นดีขึ้น
ผมเชื่อว่าผมไม่ต้องพูดเยอะในเรื่องนี้ แต่ทุกคนตระหนักดีอยู่แล้ว การกระทำตัวของทุกคนในสังคม มีส่วนช่วยให้สังคมลดความเหลื่อมล้ำ คนที่มีเยอะ ในเรื่องของการใช้ Social Media อวดแสดงตนว่าเหนือท่าน หลายๆเรื่อง หากลดลงไปได้บ้าง คนที่อยู่ชายขอบของสังคมเขาก็จะมีความสบายใจขึ้น เชื่อว่าทุกคนในที่นี้ อาจจะรวมถึงผมเองไม่สายเกินไป ในการช่วยเยียวยาสังคมให้ดีขึ้นจากการกระทำของพวกเราเองทุกคน ตนพูดไปหลายวงแล้วไม่อยากเน้นเยอะ เดี๋ยวจะหาผมมีอคติกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ผมไม่สบายใจจริงๆ กับเรื่องนี้ เราต้องรับผิดชอบต่อสังคม ถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่เราจะนำประเทศเดินไปข้างหน้าควบคู่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น
------------------------------------------------
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความ ระบุว่า คำว่า ปฏิรูป และสังคายนา ไม่ใช่คำพูดเชิงลบอะไรเลย
การแก้ปัญหา ถ้าไม่ยอมรับความจริงถึงความรุนแรงของปัญหา ก็เหมือนป่วยด้วยโรคร้ายที่จำเป็นต้องเร่งผ่าตัด แต่หลอกตัวเองว่าเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย แล้วทายาตามมีตามเกิด นอกจากโรคจะไม่หายแล้ว นับวันอาการจะยิ่งทรุด จนยากเกินเยียวยา
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/V-gvn6bdKo0
แท็กที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี ,เศรษฐาทวีสิน ,ความเหลื่อมล้ำ ,วิโรจน์ ลักขณาอดิศร