'วิโรจน์' ยก 'ปิยบุตร' ต้นแบบ สส. จากนี้ขอยืนเคียงข้าง - 'พิธา' ยันสัมพันธ์อันดี ถือเป็นเพื่อนกัน

วานนี้ (22 กันยายน 2566) จากกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ไลฟ์ประกาศยุติบทบาทการเมือง จะเลิกวิจารณ์ก้าวไกล หลังผู้สนับสนุนไม่พอใจ รวมทั้งเรื่องสถานการณ์การเมืองอื่นๆด้วย เพราะเจอทัวร์ลงทุกฝ่าย ขอไปดูแลตัวเอง เขียนงานวิชาการดีกว่านั้น

ต่อมา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า ผมยืนยันมาโดยตลอด และพูดอธิบายในทุกเวทีว่า อาจารย์ปิยบุตร มีเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล ในทุกประเด็น

การพิพากษ์วิจารณ์ก็สามารถทำได้ผ่านทุกช่องทาง ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้อง มาหารือกันเป็นการภายใน อาจารย์ปิยบุตรสามารถแสดงความคิดเห็น ในช่องทางสาธารณะใดๆ ก็ได้

สำหรับตัวผม ผมชอบการวิพากษ์วิจารณ์ แบบตรงไปตรงมาที่สุด เพราะผมเชื่อในความปรารถนาดี และความจริงใจที่อาจารย์ปิยบุตรมีต่อพรรคก้าวไกล และมองว่าอาจารย์ปิยบุตรเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์เสมอ ที่สำคัญคำพูดตรงๆ ทำให้เราไม่ต้องมาเสียเวลาตีความว่าอาจารย์กำลังหมายความว่าอะไร ส่วนพรรคจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ก็สามารถชี้แจงอธิบายให้กับประชาชนได้ ผมมองว่านี่คือกลไกในการตรวจสอบถ่วงดุลพรรคที่ดีมากๆ ด้วยซ้ำครับ และผมเองก็มั่นใจว่าประชาชนเอง ก็มีวิจารณญาณในการ รับฟังข้อมูลข่าวสาร และเหตุผลจากทุกฝ่ายรอบด้านอยู่แล้ว

ต้องยอมรับว่า การที่ผมสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ดีในระดับที่ประชาชนยอมรับในระดับหนึ่ง อย่างทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่า ผมโชคดีที่มีอาจารย์ปิยบุตรเป็นโค้ช ผมได้รับคำแนะนำดีๆ จากอาจารย์ปิยบุตรมากมาย ที่สำคัญผมเอง ก็มีอาจารย์ปิยบุตรเป็นต้นแบบด้วย ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนหล่อหลอมให้ผมมีทักษะ และเจตคติในการปฏิบัติหน้าที่ อย่างที่ควรจะเป็น ไม่ถูกขังในกรอบของระบบการเมืองแบบเดิมๆ

ไม่ว่าอาจารย์ปิยบุตร จะทำงานอะไร ในบทบาทไหน ผมยินดี ที่จะรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ และข้อท้วงติง จากอาจารย์ทุกประการ และพร้อมที่จะนำไปปรับปรุง และพัฒนาทั้งในมุมของตนเอง และระบบงานเสมอครับ ยังรอข้อเสนอแนะ จากอาจารย์อยู่เสมอ

----------------------------

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงนายปิยบุตรว่า ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องที่จะเสียมวลชนหรือไม่เสียมวลชน แต่ว่าสิ่งสำคัญก็คือต้องคำนึงถึงความรู้สึกของคนในพรรคและของนายปิยบุตรด้วย

ซึ่งตัวของผมเองยังคิดถึงนายปิยบุตรตลอด ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงและเข้ามาช่วยพรรคในช่วงของการหาเสียงต้นปีที่ผ่านมาก็ยังคิดถึงนายปิยบุตรเสมอ และเชื่อว่าพวกเราก็คิดถึงนายปิยบุตร รวมถึงกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ

ส่วนจะมีการพูดคุยปรับความเข้าใจกับนายปิยบุตรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนก็ยังเจอกับนายปิยบุตรอยู่เรื่อยๆ เพิ่งไปทานข้าวด้วยกันมา มีการพูดคุยตลอดในกรอบที่กฎหมายอนุญาตและถือว่าเป็นเพื่อนกัน

ส่วนกรณีที่ด้อมส้มทัวร์ลงในเฟซบุ๊กของนายปิยบุตร จะมีการพูดคุยทำความเข้าใจอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ตนคิดว่าความสามัคคีสำคัญกับทุกฝ่าย ในบริบทนี้ขอให้ทุกคนอดทนอดกลั่นที่จะแสดงความเห็นทางการเมือง เพื่อให้พวกเราฝ่ายค้านมีความเข้มแข็ง

ส่วนจะมีความกังวลหรือไม่ถ้าหัวหน้าพรรคไม่ใช่นายพิธา และทำให้กระแสความนิยมของพรรคลดลง นายพิธากล่าวว่า ไม่มีความกังวลและทุกอย่างยังเหมือนเดิม อย่างที่บอกว่ามีความจำเป็น ที่จะคิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว เปิดทางให้มีผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ว่าในมหภาคหรือจุลหภาคก็มีความจำเป็น ฉะนั้นก็ไม่แตกต่างกันมากในการทำงานของแกนนำทั่วไป

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/wizq9AXwjiw