เลือกตั้งและการเมือง
'ศิริกัญญา' มั่นใจอภิปรายนโยบายรัฐบาลครบรส-มีคุณภาพ - 'พิธา' ให้การบ้าน 30 ขุนพลก้าวไกล ขุดนโยบาย 'ยิ่งลักษณ์-ประยุทธ์' เปรียบเทียบ 'รัฐบาลเศรษฐา'
10 ก.ย. 2566
622 views
วานนี้ (9 ก.ย.) ที่พรรคก้าวไกล แกนนำพรรคก้าวไกล นัดติวเข้ม สส. เตรียมอภิปรายนโยบายเศรษฐา 1 โดยจะเน้นเนื้อหาอภิปรายที่สอดคล้องร้อยเรียงกัน และเป็นการซ้อม สส.ใหม่ ซึ่งแกนนำพรรคนำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค จะเป็นผู้ให้คำแนะนำและให้ข้อมูลเพิ่มเติม
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า นัด สส.ซ้อมใหญ่ ก่อนการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลวันที่ 11 และ 12 กันยายนนี้ ย้ำความพร้อมขุนพล หรือ สส.อภิปราย 30 คน 30 เรื่อง เนื้อหาไม่ซ้ำกันและคุมเนื้อหาคุณภาพการอภิปราย รวมถึงการตรวจเช็คข้อมูล ขอประชาชนติดตามผลงานพรรคก้าวไกล
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการอภิปรายนโยบายครั้งนี้เนื่องจาก ตัวร่างคำแถลงของรัฐบาลมีเนื้อหาที่กว้าง ดังนั้นจึงทำให้พรรคจะต้องวิเคราะห์ลึกเข้าไปแต่ละกระทรวง ตามความรับผิดชอบ ทั้งเรื่องการกระจายอำนาจ การกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการพักหนี้เกษตรกร รัฐบาลหาเสียงไว้อย่างไร เพื่อช่วยประชาชนติดตามตรวจสอบนโยบายของรัฐบาล คำแถลงนโยบายมีแต่คำลอยๆ สวยหรู ไม่สามารถผูกมัดทำสัญญากับประชาชนได้เลย
นางสาวศิริกัญญา ยังระบุว่าหากรัฐบาลเศรษฐาหนึ่งมีสำนึกที่จะทำให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง และอยากจะทำนโยบายเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนควรที่จะนำคำแนะนำต่างๆ ที่ สส. พรรคก้าวไกลได้อภิปรายไปประกอบการดำเนินนโยบาย ทบทวนว่าจะทำอย่างไรที่จะสามารถทำให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งรัฐบาลอาจจะมีความจำเป็นที่จะพูดถึงหรือแถลงนโยบายอีกครั้งอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาที่ชัดเจนที่เป็นรูปธรรมต่อประชาชน
"ถ้าเราไปดูในเนื้อหาไม่มีการผูกมัดอะไรในตัวเองเลย เช่นรายได้เกษตรกรจากเดิมที่จากหาเสียงไว้ว่าจะเพิ่ม 3 เท่าแต่วันนี้บอกเพียงว่าเพิ่มรายได้เกษตรกรอย่างมีนัยยะสำคัญ ค่าแรงขั้นต่ำที่เคยบอกไว้ว่าจะขึ้น 600 บาทภายในปี 2570 วันนี้เหลือเพียงแค่ค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรมเป็นต้น ถ้าเป็นไปได้ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแถลงนโยบายอีกฉบับนึงที่ให้คำมั่นสัญญาอย่างชัดเจนมีกรอบเวลาอย่างเป็นรูปธรรมและมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามได้รัฐบาลนี้ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตลอดสี่ปีหรือไม่"
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าการอภิปรายครั้งนี้เป็นคนละวาระกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในขณะนี้จึงให้โอกาสรัฐบาลในการบริหารก่อน จากนั้นจะพิจารณาว่ามีเรื่องใดที่ไม่สามารถไม่ไว้วางใจได้ ซึ่งการแถลงนโยบายจะเป็นไปในแนวทางที่เรียกร้องถามหาตามที่รัฐบาลได้หาเสียงไว้ และให้คำสัญญากับประชาชนให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินนโยบายในช่วง 4 ปีข้างหน้า หากในช่วงสี่ปีข้างหน้ามีอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำทุจริตคอรัปชั่นถึงจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการอภิปรายของพรรคก้าวไกลว่าจะยึดตัวนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ส่วน 30 สส. ที่จะอภิปรายในครั้งนี้จะมีทั้ง สส. หน้าเก่าและ สส. หน้าใหม่ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน มีทั้ง สส.เขต ที่จะมาพูดเชื่อมโยงนโยบายกับปัญหาในพื้นที่ของตัวเอง และ สส. แบบบัญชีรายชื่อที่เชี่ยวชาญในประเด็นต่างๆ โดยเชื่อมั่นว่าการอภิปรายครั้งนี้จะครบรส ทั้งคนหน้าเก่าที่ฝีปากเยี่ยม หน้าใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ทั้งสส.เขต ที่นำปัญหาในพื้นที่มาพูดและเชิงประเด็นที่จะได้ลงลึกแต่ละความเชี่ยวชาญของ สส. บัญชีรายชื่อ
นางสาวศิริกัญญายังเปิดเผยว่า หลังจากอภิปรายรัฐบาลแล้วเสร็จนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะจัดอภิปรายนโยบายรัฐบาลนอกสภาเพื่อติดตามให้คำเสนอแนะ ในนโยบาย ต่อรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กทม. ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมตัวอภิปรายการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 11-12 กันยายน 2566 ว่า ในช่วงวันที่ 8-10 กันยายน 30 ขุนพลของพรรคก้าวไกล อบรมกัน 3 วัน โดยหัวหมู่ทะลวงฟันคือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้อภิปรายเปิดเป็นคนแรก
ส่วนผู้อภิปรายปิดสรุปประเด็นสุดท้าย คือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค อภิปรายนโยบายด้านการเมือง ขณะที่ผู้อภิปรายด้านเศรษฐกิจคนอื่นๆ อาทิ นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล สส.บัญชีรายชื่อ เป็นต้น ซึ่ง 30 ขุนพลมีทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ รับรองว่าจะได้เห็นลีลาอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายสำคัญแน่นอน
เมื่อได้เห็นข้อมูลที่ สส.พรรคก้าวไกลรวบรวมเตรียมอภิปรายแล้ว ได้ความรู้สึกถึงนโยบายรัฐที่วนเวียนซ้ำซาก เหมือนนำนโยบายเก่าๆ มาปัดฝุ่น รัฐมนตรีก็หน้าเดิมๆ เปลี่ยนเพียงแค่หัว คือนายกรัฐมนตรี ซึ่งในรายละเอียด รัฐบาลคงจะให้รัฐมนตรีตอบรายกระทรวง แต่ในฐานะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้นำรัฐบาลใหม่ มองว่าจะต้องลุกขึ้นชี้แจงในทุกๆ กระทรวงด้วยตนเองด้วย จะได้เห็นข้อแตกต่างว่าแม้จะเป็นรัฐมนตรีหน้าเดิมๆ นโยบายซ้ำซากวนเวียน แต่ภายใต้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ประชาชนจะได้อะไร
ทั้งนี้ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ประเด็นเกี่ยวกับการเมือง ระหว่างลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร สส. เลือกตั้งซ่อมระยอง เขต 3 ถึงกรณีการเตรียมตัวของ 30 ขุนพลพรรคก้าวไกลในการอภิปราการแถลงนโยบายรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า ขอให้รัฐบาลเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ตนคิดว่ามีความสร้างสรรค์ ส่วนตัวแล้ว ได้ให้คนพิมพ์นโยบายสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร , รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลชุดนี้ เพื่อมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งก็มีเป้าหมายระดับหนึ่ง โดยมองว่ารัฐบาลคงไม่ต้องกังวลหากทำได้ตรงตตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น หรือตรงกับที่ตัวเองได้หาเสียงไว้
"ผมคิดว่าในช่วงเวลาแบบนี้ ฝ่ายค้านคืออดีตของเขา" นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่ามีนโยบายอะไรที่ต้องถามเป็นพิเศษในที่ประชุมวันจันทร์นี้บ้าง นายพิธา กล่าวว่า นโยบายที่สนใจ ในกระแสสื่อก็คงทราบกันอยู่ ในขณะเดียวกัน 30 ขุนพลก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชาติพันธุ์ ที่ดิน
“เสียดายที่ตัวเองไม่ได้เข้าไปอภิปรายเอง เพราะว่ากระดุม 5 เม็ด ผ่านมา 4 ปี ก็เป็นช่วงที่เกี่ยวกับนโยบายว่าตอนนั้นดูนโยบายข้อนี้กับข้อนี้รวมกัน ก็ยังไม่ตอบโจทย์”
นายพิธา ให้ข้อสังเกตไว้ว่าการทำงานจะต้องมีกรอบในการอภิปราย น่าจะมี 3 ไม่ อันที่หนึ่งเลยคือ "ไม่มี" คือท้าทายประชาชน แต่ไม่มีในนโยบาย ก็ต้องท้วงติง
อันที่สองคือ "ไม่จริง" ก็คือสัญญาไว้แต่ไม่ทำ และอันที่สามคือ "ไม่พอ" ก็คือสัญญาไว้แต่เขียนไม่ชัดเจนพอ ไม่มีเป้าหมาย เขียนลอยๆ รวมถึงกรอบระยะเวลาในการทำนโยบายไม่ตรงกับที่สัญญาไว้กับประชาชน
เมื่อถามว่า 14 ชั่วโมงของฝ่ายค้านได้มีการจัดสรรปันส่วนกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คงเป็นหน้าที่ของนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิป สส. พรรคก้าวไกล
แท็กที่เกี่ยวข้อง ศิริกัญญาตันสกุล ,พิธาลิ้มเจริญรัตน์ ,รัฐบาลเศรษฐา ,อภิปรายนโยบายรัฐบาล