เลือกตั้งและการเมือง
แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยอาการ ‘ทักษิณ’ ยังน่าเป็นห่วง ชี้ซ่อมแอร์แล้วแต่ไม่เย็นฉ่ำ ยันวิวสวยทุกห้อง
26 ส.ค. 2566
268 views
แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยอาการ ‘ทักษิณ’ ยังน่าเป็นห่วง ยันไม่มีการส่งตัวไป รพ.เอกชน มีแต่ย้ายกลับราชทัณฑ์เท่านั้น ส่วนแอร์ซ่อมแล้วแต่ไม่เย็นฉ่ำ ย้ำ รพ.วิวสวยทุกห้อง ไม่ใช่แค่ห้องทักษิณ ชี้เปิดเผยรายละเอียดรักษาไม่ได้
เมื่อวานนี้ (25 ส.ค. 2566) พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ แพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ระบุถึงการรักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร ว่า เบื้องต้นในช่วงเช้าได้มีการตรวจคลื่นหัวใจซึ่งตอนแรก ซึ่งในตอนแรกใช้เครื่องมือแบบเคลื่อนที่ในการตรวจ แต่เป็นการตรวจด้วยเครื่องใหญ่ ซึ่งได้มีการรายงานอาการและการตรวจสอบไปที่พลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้กำกับดูแลในครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยรวมถึงยังได้มีการรายงานไปถึงกรมราชทัณฑ์ถึงอาการของตัวนายทักษิณ โดยรวมสำหรับอาการเกี่ยวกับหัวใจยังถือว่ายังน่าเป็นห่วง แต่ในเรื่องของความดันตอนนี้ถือว่าทรงตัว ยังไม่ถึงกับทรุด การรักษาตัวยังคงอยู่ในห้องพักที่มีการดัดแปลงให้มีการรับมือกับการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่งการดัดแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงโควิดทำให้สามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ เข้าได้อย่างทันท่วงที ซึ่งมีการเรียกห้องดังกล่าวว่าห้อง IMCU
แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจยังยืนยันว่าสำหรับตัวนายทักษิณ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ในอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ที่บริเวณชั้น 14 ห้องเดิม ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้า ไม่ได้มีการย้ายไปโรงพยาบาลอื่นตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด
ส่วนตัวนายทักษิณ หลังจากที่ได้เข้าไปตรวจร่างกายพบว่ายังมีสติสัมปชัญญะตามปกติ สามารถพูดคุยตอบคำถามกับแพทย์และเจ้าหน้าที่ของราชทัณฑ์ได้
ส่วนแนวทางการรักษายังคงใช้แนวทางการรักษาเดิมและใช้อุปกรณ์ต่างๆ ตามปกติ ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าการรักษานายทักษิณจะต้องใช้เวลาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจอีกนานเท่าไหร่ แต่ยืนยันว่ามีความจำเป็นที่จะต้องรักษาตัวนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเป็นไปตามกฎและระเบียบของกรมราชทัณฑ์
ส่วนเรื่องการย้ายตัวไปโรงพยาบาลเอกชนยังไม่พบว่ามีความจำเป็นเพราะบุคลากรทางการแพทย์และเครื่องหมายเครื่องมือของทางโรงพยาบาลตำรวจ ก็ถือว่ามีขีดความสามารถสูง สามารถดำเนินการได้และหากมีความจำเป็นจะต้องเคลื่อนย้ายตัวก็จะมีเพียง การเคลื่อนย้ายตัวส่งกลับไปที่เรือนจำเพียงเท่านั้นแต่หากว่าทางกรมราชทัณฑ์มีความเห็นว่าการรักษาของทางโรงพยาบาลตำรวจ ไม่เป็นผลดีต่อตัวผู้ต้องขังจะมีการพิจารณาไปยังโรงพยาบาลเอกชนอื่นอีกหรือไม่ถือเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ไม่เกี่ยวกับโรงพยาบาลตำรวจ แต่จากอาการของตัวนายทักษิณต้องใช้โรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์และบุคลากรที่มีศักยภาพสูงซึ่ง ณ ตอนนี้ก็พบว่ามีอยู่ในโรงพยาบาลรัฐหลายแห่ง ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลเอกชนตามที่มีกระแสข่าว
สำหรับกรณีเรื่องห้องพักรักษาตัวของนายทักษิณ ยืนยันว่าไม่ได้มีความหรูหราหรือวิวสวย พิเศษกว่าห้องอื่นอย่างที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ เพราะห้องของโรงพยาบาลตำรวจหลายห้องในหลายตึกก็มีวิวที่สวยแตกต่างกันไป
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ที่เคยแจ้งว่าห้องดังกล่าวระบบปรับอากาศเสียต้องใช้พัดลม ล่าสุดทางโรงพยาบาลตำรวจได้ทำการซ่อมระบบปรับอากาศของปีกอาคารฝั่งที่นายทักษิณ อาศัยพักรักษาตัวได้เรียบร้อยแล้ว โดยระบบแอร์ดังกล่าวเป็นระบบแอร์รวมของปีกฝั่งหนึ่งซึ่งจะมีไว้ให้สำหรับผู้ป่วยทุกคนไม่เพียงเฉพาะนายทักษิณเพียงคนเดียว
ส่วนกรณีที่มีทั้งผู้สนับสนุนและผู้เรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลการรักษาของนายทักษิณและพิจารณาเรื่องแนวทางการดูแลรักษาในทักษิณให้มีมาตรฐานเดียวกันกับผู้ต้องขังคนอื่นๆ ยืนยันว่าประเด็นนี้ไม่ได้สร้างแรงกดดัน ต่อตัวเองหรือโรงพยาบาลตำรวจ เพราะโรงพยาบาลตำรวจปฎิบัติตามระเบียบและขั้นตอนข้อตกลงที่มีการทำร่วมกับกรมราชทัณฑ์
ส่วนเรื่องการเข้าเยี่ยมหรือการอนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมตัวนายทักษิณ เป็นดุลพินิจของกรมราชทัณฑ์ที่มีระเบียบกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน แต่เท่าที่ทราบคือต้องรอให้ครบกำหนดการกักตัว โควิด-19 ให้เสร็จก่อน
แต่ข้อเรียกร้องของภาคประชาชนที่ต้องการให้หน่วยงานกลาง หรือองค์กรอิสระเข้าไปร่วมสังเกตการณ์การดูแลรักษาตัวนายทักษิณและยืนยันถึงการเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ หรือเปิดเผยผลการตรวจ รายละเอียดของอาการป่วย และการรักษาเรื่องนี้ไม่สามารถดำเนินการเองได้ ต้องให้ทางกรมราชทัณฑ์เป็นผู้พิจารณา แต่มองว่าไม่มีแพทย์คนใดจะเข้าไปเป็นตัวกลางเพราะถือเป็นมารยาทที่บุคลากรทางการแพทย์หรือบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาผู้ป่วยจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ป่วยที่ไม่อยู่ในความดูแลอาทิเช่น ตนเองเป็นแพทย์เฉพาะทางสมองซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับโรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ก็ไม่มีความจำเป็นในการเข้าไปดูแลผู้ป่วย ส่วนในเรื่องของอาการการรักษาผู้ป่วยต้องให้เป็นความยินยอมของ ทางผู้ป่วยและครอบครัวเองถึงจะสามารถเปิดเผยได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทางโรงพยาบาลตำรวจแต่อย่างใด
แท็กที่เกี่ยวข้อง รพ.ตำรวจ ,ทักษิณ ,แพทย์ใหญ่