เลือกตั้งและการเมือง
ชนแก้วมินต์ช็อกชื่นมื่น! ภท.-ชพก.-รทสช. คุย 'เพื่อไทย' ย้ำจุดยืนปม ม.112-ก้าวไกล
โดย passamon_a
23 ก.ค. 2566
296 views
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.66 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมลูกพรรค เดินทางมาร่วมวงปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตและหาทางออกของประเทศ ที่พรรคเพื่อไทย โดยการหารือ สองฝ่ายเข้าร่วมประมาณ 10 คน มีการพูดคุยกันอย่างชื่นมื่น ประมาณ 30 นาที ก่อนจะลงมาแถลงข่าว
แกนนำทั้ง 2 พรรค ได้แถลงผลการหารือ โดยฝ่ายเพื่อไทยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขณะที่ฝ่ายภูมิใจไทยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และนายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ ร่วมแถลง
โดย นพ.ชลน่าน ได้กล่าวขอบคุณหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะ ที่ให้เกียรติพรรคเพื่อไทยมาร่วมปรึกษาหารือ ซึ่งวันนี้เป็นการเชิญมาปรึกษาหารือถึงแนวทางที่จะร่วมกันหาทางออกประเทศในการจัดตั้งรัฐบาล หลังจาก 8 พรรคร่วม ได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และดำเนินการหาเสียงสนับสนุนเพื่อให้ถึงเป้าจัดตั้งรัฐบาล ไม่น้อยกว่า 375 เสียง ในวันนี้เป็นการเริ่มต้นพูดคุย เริ่มจากภูมิใจไทยมาปรึกษาหารือเพื่หาทางออก เพราะติดเงื่อนไขว่าเมื่อพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ แล้วไม่ได้รับโอกาสจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา
จากนั้นได้เปิดโอกาสให้นายอนุทินเล่ารายละเอียดการพูดคุย โดยนายอนุทิน ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ได้เชิญพรรคภูมิใจไทย เพื่อหารือแก้ปัญหาบ้านเมืองด้วยบรรยากาศที่ดี พวกตนก็เคยอาศัยอยู่ในอาคารแห่งนี้มาก่อน กลับมาที่นี่ก็ดีใจและนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด ระหว่างส่วนบุคคลกับทุกคนในพรรคเพื่อไทย วันนี้ได้มารับทราบเจตนารมณ์ จุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ตรงกับพรรคภูมิใจไทยคือ อยากให้แก้ปัญหาทางการเมืองโดยเร็ว อยากให้ประเทศของเรามีรัฐบาลเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินโดยเร็วที่สุด
ทางพรรคภูมิใจไทยรับทราบเจตนารมณ์ และได้บอกกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทยแล้วว่าเรามีข้อกังวลและข้อจำกัดอย่างไรบ้าง เราไม่ได้อยู่ใน MOU ของ 8 พรรค เจตนารมณ์ต่าง ๆ เป็นไปตามแถลงการณ์ที่พรรคภูมิใจไทยได้แจ้งไว้ เรามีความจำเป็นที่จะต้องบอกให้พรรคเพื่อไทยทราบว่า
"ถ้าเราจะเข้ามามีส่วนร่วมในอนาคต คงจะไม่สามารถทำงานร่วมได้ หากการร่วมยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ ยืนยันไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งใด ๆ แต่เป็นเรื่องแนวทางการทำงาน ความคิด และวิธีการทำงาน ซึ่งเราได้บอกกับ นพ.ชลน่าน ไปแล้ว และคงนำข้อจำกัดนี้ไปพิจารณา ถ้ามีอะไรที่เราจะสามารถผ่านจุดที่เป็นอุปสรรคไปได้ ทางพรรคภูมิใจไทยก็พร้อมให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคนและเพื่อประเทศไทยด้วย"
ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทย มีเงื่อนไขไม่เอาพรรคก้าวไกลนั้น หากพรรคก้าวไกลลดเพดานเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 จะสามารถร่วมงานได้หรือไม่ นายอนุทิน ตอบทันทีว่า ได้ย้ำคำเดิมว่าเกี่ยวกับวิธีการทำงาน เท่าที่ทำงานในสภาดูแล้วยังมีความแตกต่างกัน ซึ่งได้บอกไปแล้วว่ามีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามแกนนำพรรคเพื่อไทยว่า การเชิญพรรคการเมืองที่ไม่เอาพรรคก้าวไกลมาหารือในวันนี้ เป็นการบอกเลิกพรรคก้าวไกลทางอ้อมหรือไม่ นพ.ชลน่านหัวเราะ ก่อนบอกว่าเป็นสมมติฐาน เราไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะในการเชิญพรรคการเมืองเป็นการรับมติจาก 8 พรรคร่วม เพื่อไทยพยายามเชิญเกือบทุกพรรค ดังนั้นการตั้งสมมติฐานนี้เป็นการคิดเอง พรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดเช่นนั้น
ทั้งนี้ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายอนุทิน ได้ขอ นพ.ชลน่าน ไปลองชิม เครื่องดื่มมินต์ช็อก เมนูยอดฮิตของร้านคาเฟ่ Think lab ที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้ง นายอนุทิน และ นพ.ชลน่าน ชนแก้ว พูดคุย ปล่อยมุกตลกกันอย่างเฮฮา
ในเวลาต่อมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนากล้าพร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย ตามเทียบเชิญ
ก่อนสองฝ่ายร่วมหารือ เพื่อปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤต และหาทางออกของประเทศร่วมกัน โดยใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 20 นาที ก่อนแถลงข่าว
โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่าขอบคุณประธานพรรคชาติพัฒนากล้า และคณะที่ได้รับเชิญ และตอบรับมาร่วมปรึกษาหารือ เป็นพรรคที่ 2 เพื่อหาแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับประชาชนเพราะเป็นสิ่งที่รอไม่ได้
ด้าน นายสุวัจน์ กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ 8 พรรค ให้เกียรติเชิญมาหารือ พร้อมระบุว่า ก่อนมาหารือ พรรคได้ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อกำหนดท่าทีให้มีความชัดเจน โดยคณะกรรมการชุดรักษาการประชุมและมีมติพรรคจุดยืนเข้าร่วมรัฐบาล โดยยินดีให้มีการสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งลุล่วงโดยเร็วไม่ให้เกิดสุญญากาศ เพราะมีปัญหา ด้วยมติพรรคมีจุดยืนนโยบายและแนวทางการเมือง เป็นประเด็นสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งเป็นเงื่อนไขร่วมรัฐบาล 1.สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย 2.จะสนับสนุนพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งรัฐบาล หากไม่ได้เป็นพรรคอันดับ 2 ดำเนินการ และ 3.เร่งรัดแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจประเทศ 4.จุดยืนเกี่ยวกับมาตรา 112 ของคงไว้และไม่มีการแก้ไข
พร้อมย้ำว่าต้องการรักษาแนวนโยบายและแนวทางการเมืองสัญญาที่ให้ไว้ประชาชน รักษาบรรทัดฐานการเมือง หลังโหวตนายกฯ 2 ครั้ง ยังไม่ได้ จนเปลี่ยนแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคเพื่อไทย และเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และภายใต้การนำของเพื่อไทยนำไปสู่การบริหารประเทศแก้ไขวิกฤตประเทศให้ลุล่วง พรรคชาติพัฒนากล้าเชื่อมั่นแนวทางพรรคเพื่อไทยสอดรับกับมติพรรคชาติพัฒนากล้า เว้นเรื่องการแก้มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ไม่ตรงกับแนวทางพรรคชาติพัฒนากล้า
วันนี้พรรคชาติพัฒนากล้าแลกเปลี่ยนความเห็นกับพรรคเพื่อไทย มีมติพรรค พร้อมเข้าร่วมตั้งรัฐบาลที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลให้แล้วเสร็จโดยเร็วและสนับสนุนนายกฯของเพื่อไทยในรัฐสภา ส่วนหากมีการแก้ไขมาตรา 112 ยังคงอยู่ไม่สอดคล้องแนวทางชาติพัฒนากล้าที่ประกาศไว้กับสาธารณชน ไม่สามารถเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลภายใต้แกนนำเพื่อไทยได้ เพราะไม่ได้เป็นไปตามแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้า
นายสุวัจน์ ยังกล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีนโยบายที่แตกต่างกับพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 คือคงไว้และไม่แก้ไข เป็นความเห็นที่ต่างกันเชิงนโยบาย พรรคชาติพัฒนากล้าก็ไม่สามารถที่จะร่วมรัฐบาลได้ ซึ่งเรื่องมาตรา 112 เราอยากให้คงไว้ เพราะเป็นเรื่องที่บอกกับสาธารณะ อยากให้พรรคการเมืองมีมาตรฐาน อยากรักษามาตรฐาน เข้าใจแต่ละพรรคมีจุดยืน เรามีสัมพันธ์ที่ดีกับทุกพรรค แต่ในเชิงนโยบายที่แตกต่างกันมาก ถ้าแตกต่างกันมากเราก็หลีกทางให้กัน เพราะเราเป็นพรรคเล็ก
ต่อมา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ แกนนำพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เดินทางมาถึงยังพรรคเพื่อไทย
โดยภายหลังการหารือเพื่อหาทางออกประเทศ ระหว่างพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าว นพ.ชลน่าน ระบุว่า ยืนยันว่าการเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการมาพูดคุยหารือ ยังไม่ได้เป็นการเชิญเข้าร่วมรัฐบาล
ด้าน นายพีระพันธุ์ ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้เกียรติ ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีการพูดคุยเรื่องอื่น ไม่ได้มาคุยเรื่องร่วมรัฐบาล และไม่ได้มีแต่เรื่องมาตรา 112 แต่แนวทาง นโยบาย และอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลไปกันไม่ได้เลย แตกต่างจากพรรครวมไทยสร้างชาติเยอะและทุกเรื่อง จึงไม่สามารถให้พรรคก้าวไกลมีอำนาจทางการเมืองมากไปกว่านี้
นายพีระพันธุ์ ย้ำด้วยว่า หากมีพรรคก้าวไกล ร่วมอยู่ในรัฐบาล จะนำด้วยพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่น เราไม่ยกมือให้ทั้งนั้น แต่หากไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ในรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติก็พร้อมที่จะพูดคุยกันได้ใหม่
เมื่อถามว่าการพูดคุยของทั้ง 3 พรรควันนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถร่วมงานกันในอนาคตหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า เป็นเรื่องของอนาคต แต่วันนี้เป็นเพียงการพูดคุยถามถึงเหตุผลว่าเงื่อนไขอย่างไรหากต้องโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย โดยเราเอา 8 พรรคร่วมรัฐบาลเป็นตัวตั้ง พร้อมยืนยันว่าที่เชิญมาวันนี้ทั้ง 3 พรรค ไม่ได้เชิญมาร่วมรัฐบาล