เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' นำทัพเพื่อไทย หาเสียงเมืองย่าโม มั่นใจฐานเสียงสู้ 'ก้าวไกล' ได้ - 'พิธา' อ้อนเป็นหนี้บุญคุณคนจันท์ บอกนโยบายกระดุม 5 เม็ด ผุดครั้งแรกที่นี่

โดย weerawit_c

7 พ.ค. 2566

322 views

วานนี้ (6 พ.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปสารคดี ‘The Candidate Paetongtarn’ เล่าการเดินทางบนเส้นทางการเมืองตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน ในยูทูบแชลแนลส่วนตัว (https://www.youtube.com/@ingshinawatra)



โดยเนื้อหานั้น ผู้ร่วมเล่าเรื่องราวคือทีมที่ปรึกษาที่เคยทำงานร่วมกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในรัฐบาลไทยรักไทย คือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ทีมที่เคยทำงานกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในรัฐบาลเพื่อไทย ที่ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า ทีมงานทั้ง ‘พ่อ’ และ ‘อา’ กลับมาร่วมงานการเมืองกับนางสาวแพทองธารทั้งสิ้น ผนึกกำลังสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้



โดยเนื้อหาสารคดีกล่าวถึงนางสาวแพทองธารในฐานะลูกสาวอดีตนายกรัฐมนตรี และ ผู้นำพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ว่านนางสาวแพทองธารไม่ได้เพิ่งเดินบนเส้นทางการเมืองในช่วงเกือบ 2 ปีนี้เท่านั้น แต่อยู่บนเส้นทางการเมืองมาแล้วตั้งแต่สมัยไทยรักไทย ผ่านทั้งวันคืนที่ดีและร้าย

และในตอนสุดท้าย เป็นคำถามสำคัญที่ว่า ‘ถ้าประเทศไทยมีแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นอย่างไร’ นางสาวแพทองธารตอบว่าพร้อมรอยยิ้มว่าประเทศไทยจะมีสีสัน ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรี ที่จริงใจ รักประชาชน และ มีทีมที่ดี เพราะแพทองธาร ทำคนเดียวไม่ได้ แต่แพทองธารมีทีมมาช่วยทำงานเพื่อประเทศไทย



โดยหลังสารคดีจบ นางสาวแพทองธารได้ไลฟ์พูดคุยสดๆ กับพี่น้องประชาชนผ่านทางไลฟ์อินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก





วานนี้ (6 พ.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นำทัพพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) มีการเปิดเวทีปราศรัยทั้งหมด 4 เวที ประกอบด้วย อำเภอครบุรี อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย และอำเภอบัวใหญ่



เริ่มจากเวทีที่อำเภอครบุรี ช่วยนายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล ลูกชายของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ย้ายมาจากพรรคภูมิใจไทย มาลงเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย



นายเศรษฐากล่าวว่า ตนมีความฝัน มีความหวังที่จะเห็นจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีประชากร และ ส.ส. เป็นอันดับสองของประเทศไทยรอง จากกรุงเทพ มีความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมมหานครต่างๆ



นายเศรษฐา กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา เรามีรัฐบาลที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน มีรากฐานมาจากการทำปฏิวัติ พี่น้องเดือดร้อน ค่าไฟแพง ยาเสพติดระบาด ราคาสินค้าก็ตกต่ำ แต่ปุ๋ยแพง แถมไม่มีที่ดินทำกิน หลายปัญหาไม่ได้ถูกแก้ไข



“พรรคเพื่อไทยมีหลายนโยบายที่จะทำให้ประชาชนมีอยู่มีกิน จากค่าแรง 600 บาท ภายใน 4 ปี เติมเงินให้กับครอบครัวที่มีรายได้ ไม่ถึง 20,000 บาท กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ออกโฉนดที่ดินทำกิน 50 ล้านไร่ ให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้อย่างมีศักดิ์ศรี และพรรคเพื่อไทยจะทำให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวภายใน 4 ปี ด้วยการเปิดตลาดไปทั่วโลก รัฐบาลเพื่อไทย จะทำให้โคราชเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีรถไฟไปถึงประเทศจีน ส่วนปัญหายาเสพติด จะปราบปรามให้เห็นผลภายในหนึ่งปี



นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนอาสามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เพื่อช่วยให้พี่น้องหลุดพ้นจาก ‘หลุมดำแห่งความยากจน’ แต่นโยบายเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าพี่น้องปันใจให้กับพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่สนับสนุนกัญชาเสรี อย่าให้เขามามอมเมา กัญชาต้องทางการแพทย์เท่านั้น โดยมีแพทย์ควบคุม และอย่าให้พรรคการเมืองไหนนำเรื่องกัญชามาเป็นจุดขายเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ประเทศชาติไม่มีความมั่นคง ลูกหลานจะถูกมอมเมา

“วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ผมในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย อยากเดินหน้าเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น เพราะเราต้องการเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาล” นายเศรษฐากล่าว



วันนี้ตนมาขอให้ทุกคนช่วยกันนำผู้สมัครส. ส.โคราช ทั้ง 16 คนของพรรคเพื่อไทย เดินหน้าอย่างมีเกียรติเข้าสู่สภาเพื่อเป็นตัวแทนของพี่น้อง ประชาชนด้วยการกาพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบ



นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแก้เกมกระแสพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่มาแรงทุกโพลโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งอย่างไร ว่า คงไม่มีอะไรแก้ เพราะโพลของเราก็มาดี และเรายังมั่นใจอยู่ว่าเราจะได้เสียงเกินครึ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับกระแสที่ออกสื่อย้ำๆ นั้นก็เป็นแค่กระแส เพราะเวลาลงพื้นที่แล้วโพลของเราก็ยังมีอยู่ และดีอยู่แล้ว



ถามต่อว่า แต่โพลก็มีผลต่อการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ตนคิดว่า ขึ้นอยู่กับพรรคและนโยบาย รวมถึงผู้นำ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วเราจะเล่นกันไม่ได้ ไม่ใช่สนามที่ประลองฝีมือ แต่เป็นของคนที่มีประสบการณ์หรือพรรคที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานว่าสามารถทำนโยบายที่เสนอเป็นจริงได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่เราต้องตอกย้ำต่อไป อีกทั้งโพลบางโพลก็ทำแค่ 1-2 พันคน เราควรเอาโพลที่ทำเป็นแสนมาเป็นตัวชี้วัดดีกว่า



ถามย้ำว่า ยังมั่นใจว่ากระแสของพรรคก.ก. ยังสู้ฐานเสียงของ พท.ไม่ได้ ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “สู้ไม่ได้ เรามั่นใจครับ เรามั่นใจความแข็งแกร่งของฐานเสียง และมั่นใจในนโยบาย มั่นใจในความที่เราเป็นสถาบันทางการเมืองมานาน ที่พิสูจน์ได้ว่าเราทำได้จริง”



ถามอีกว่า ตอนนี้ฐานเสียงของพรรค พท.ยังเพียงพอทำให้แลนด์สไลด์ได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าแลนด์สไลด์ หมายความว่าอะไร ถ้า 200 กลางๆ ขึ้นไป ตนคิดว่าตนได้อยู่ หรือ 280 เราก็ยังมั่นใจอยู่ ส่วนจะถึง 300 หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โค้งสุดท้ายว่าจะเป็นเช่นไร แต่ก็ยังมีความหวังอยู่



เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าทำไมช่วงโค้งสุดท้ายกระแส ก.ก.ยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของโซเชียลส่วนหนึ่ง และอาจเป็นช่วงจังหวะที่ผลโพลออกมา แต่อย่างที่เรียนไปว่าโพลบางโพลมีแค่ 2,000-2,500 คน ซึ่งประเทศไทยมีประชากรไทยที่สามารถโหวตได้ประมาณ 39 ล้านคน ต้องเอานโยบายเป็นหลัก ประวัติศาสตร์การพิสูจน์ฝีมือมาโดยตลอด รวมถึงผู้นำที่เคยพิสูจน์ฝีมือมาแล้ว ทีมงานที่อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด ตรงนี้เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญมากที่สุด



ด้านนายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงการทำโพลของพรรค พท.ว่า เรายังมั่นใจในแนวทางของพรรค พท.อยู่ โพลมีหลายสำนัก พท.เราก็มีโพลภายในของเราเอง ซึ่งโพลภายในของเราก็ยังมีระดับความมั่นใจที่สูงอยู่ และแลนด์สไลด์อยู่



เมื่อถามถึงกรณีที่พื้นที่โคราชเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีการแข่งขันสูงในหลายพรรค นายประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้ พท.มั่นใจอย่างมาก โคราช 16 เขต ตามแนวทางที่เรามั่นใจ ตนว่าเราได้เกือบหมด มั่นใจถึงขนาดนั้นเลย ทั้งนี้ พื้นที่ที่เป็นอยู่ขณะนี้นโยบายพรรค พท.ได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ไม่ว่าจะเป็นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หรือเงินเดือนปริญญาตรี ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้โหวตเตอร์ได้ตัดสินใจ และเราเชื่อมั่นในนโยบาย ซึ่งในโคราชนโยบายยังเป็นสิ่งที่ชี้นำอยู่ในการตัดสินใจ



วานนี้ (6 พ.ค.) หลังจากพรรคก้าวไกลถือฤกษ์เวลา 09.09 น. เปิดตัว “คาราวานก้าวไกล ถนนทุกสายมุ่งสู่ทำเนียบ” ซึ่งเป็นแคมเปญหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ในช่วงเย็นได้มีการปราศรัยตามจุดต่างๆตามคาราวานแต่ละสาย



นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ลงพื้นที่หาเสียงกับคาราวานภาคตะวันออก ร่วมกับ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล, นางสาวเบญจา แสงจันทร์ และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร บรรยากาศตลอดวันเป็นไปอย่างคึกคักทั้งวัน ก่อนที่ช่วงค่ำจะมีการปราศรัยที่ตลาดนัดวัดมหาคงคาราม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี



นายพิธากล่าวว่า เมื่อการเลือกตั้ง 2562 พี่น้องชาวจันทบุรีลงคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่ถึง 88,000 คะแนน แต่เมื่อเป็น ส.ส. กลับมีคนทรยศความไว้วางใจของประชาชน อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลมีระยะเวลาในการคัดเลือกผู้สมัครมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ ทุกคนผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นถึง 4 ด่าน ถูกทดสอบทั้งเรื่องอุดมการณ์และเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้น ขอให้มั่นใจและเลือกผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทั้ง 3 เขตเข้าสภาฯ ไปเป็นผู้แทนประชาชน

นายพิธากล่าวว่า พรรคก้าวไกลมี 3 นโยบายเพื่อตอบโจทย์ปัญหาของชาวจันทบุรี นโยบายที่หนึ่งคือการปฏิรูปที่ดิน การเดินทางไปตำบลทับช้างเป็นจุดเริ่มต้นของการอภิปรายกระดุม 5 เม็ดของตน จึงถือว่าติดหนี้บุญคุณของคนจันทบุรี ที่ทำให้เข้าใจปัญหาที่ดินที่ซับซ้อน ครั้งนี้พรรคก้าวไกลเสนอนโยบาย เปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม



นโยบายที่สอง คือการกระจายอำนาจเพื่อจัดการปัญหาช้างป่า ให้ท้องถิ่นได้ใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยีในการแก้ปัญหา คนจันทบุรีไม่ต้องรองบประมาณจากส่วนกลาง คนที่เสียชีวิตต้องได้รับการเยียวยาและใช้เทคโนโลยีเพื่อจับความร้อนหาช้างป่า ให้คนกับช้างอยู่ด้วยกันได้ และนโยบายที่สาม คือการสร้างสวัสดิการถ้วนหน้าแก่ประชาชนทุกคนทุกช่วงวัย ให้คนจันทบุรีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขั้นพื้นฐานตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้ายของชีวิต เช่น เงินเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน เบี้ยผู้สูงวัย 3,000 บาทต่อเดือน



นายพิธากล่าวว่า เลือกตั้งครั้งนี้คือโอกาสเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่ใช่เรื่องของพิธา ของพรรคก้าวไกล หรือของใคร แต่เป็นเรื่องของทุกคน จึงขอให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิกันมากๆ กาก้าวไกล 2 ใบให้ถล่มทลาย เลือกผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี พรรคก้าวไกลเข้าสภาฯ เลือกพิธาเป็นนายกฯ ยุติ 8 ปีที่แปดเปื้อน สร้างประเทศไทยที่การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต



ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ร่วมกับนายอรรถพล บัวพัฒน์, นายอภิชาติ ศิริสุนทร และนางสาวนายิกา ศรีเนียน อยู่ที่คาราวานสายอีสานเหนือ



นายปิยบุตร กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนนายกฯ และเปลี่ยนขั้วรัฐบาลได้แน่นอน สำหรับพรรคก้าวไกลนั้น มีทั้งความสดใหม่และความพร้อมในการเป็นรัฐบาล ได้เตรียมนโยบายมากกว่า 300 เรื่องเพื่อแก้ปัญหาประชาชน



ส่วนคาราวานสายในใต้หล้า นำโดยนาวรังสิมันต์ โรม, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ, นายเดชรัต สุขกำเนิด, นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์, นายรอมฎอน ปันจอร์ และนางสาวภคมน หนุนอนันต์ วันนี้เดินทางผ่าน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี



สำหรับสายมาเหนือ นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน, นางสาวพรรณิการ์ วานิช และนายกรุณพล เทียนสุวรรณ เดินทางผ่าน 2 จังหวัด คือเชียงรายและพะเยา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนโบกมือให้กำลังใจ ชูสามนิ้ว และเข้ามาขอถ่ายภาพ



โดยไฮไลท์สำคัญ สายในใต้หล้า ช่วงเช้าจะมีการปราศรัยที่บริเวณค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ก่อนที่ช่วงเย็น นายพิธา นายรังสิมันต์ และนายพริษฐ์ จะร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ที่แยกสะพานดำ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ทั้ง 9 เขต ส่วนสายอีสาน นายปิยบุตรและนายธนาธรจะร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ที่สวนประตูเมือง จังหวัดขอนแก่น ในเวลา 18.00 น.



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/o46hpD9kCpk

คุณอาจสนใจ

Related News