'บิ๊กตู่' ลุยหาเสียงภาคใต้ ถึงกับอมยิ้ม เมื่อเจอประติมากรรมภาพคู่ 'บิ๊กป้อม' - 'บิ๊กป้อม' อ้อนคนนครศรีฯ เลือก พปชร.ยกจังหวัด

วานนี้ (29 เม.ย.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ จ.ตรัง เขต 1 ช่วยหาเสียงให้กับ นายถนอมพงศ์ หลีกภัย



โดยประชาชนกล่าวชมพลเอกประยุทธ์ ว่าหล่อ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ถึงกับอมยิ้มและตอบกลับว่า หล่อแล้วต้องจิตใจดี เป็นที่ถูกอกถูกใจของชาวบ้าน พร้อมกับกล่าวต่อว่าพูดดีทำดี ไม่ให้ร้ายใคร นั่นคือผมนั่นคือผม ก่อนจะบอกชาวบ้านว่าขอตัวไปกินข้าวก่อนได้หรือไม่



จากนั้นพลเอกประยุทธ์และคณะได้ขึ้นรถแห่รอบเทศบาลเมือง พร้อมจอดแวะทักทายประชาชนยังตลาดสดเทศบาล เมืองตรัง โดยมีประชาชน มอบดอกกุหลาบให้กับพลเอกประยุทธ์เพื่อ เป็นกำลังใจพร้อมนำทั้งกระเป๋าเงิน เสื้อที่สวมใส่อยู่ หมวก รวมไปถึงหนังสือมาเหนือเมฆ ให้พลเอกประยุทธ์เซ็น โดยพลเอกประยุทธ์กล่าวว่า นี่หนังสืออะไรนี่ มาเหนือเมฆหรอวันนี้ไม่ได้มาเหนือเมฆนะมาใต้เมฆ หากเมฆไม่มีก็ร้อนตับแลบ พร้อมกับยังกล่าวอีกว่า ตนขอบคุณทุกคนที่มารอต้อนรับ ก่อนที่จะถามอ่ะยังประชาชนว่าหล่อกว่าในหนังสือพิมพ์หรือไม่ และกล่าวต่อว่าหล่อกว่า แต่อย่าบอกว่าหล่อกว่าตัวจริง เพราะว่านี่คือตัวจริง



ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ ยังพูดคำผวน ที่ขณะเซ็นหนังสือให้กับประชาชนว่า นายถนอมพงศ์ ซึ่งมีชื่อเล่นว่าทนายหมี ทนายหมีดูแลหลีให้ดี ทำให้ประชาชนที่มารอให้กำลังใจถึงกับเฮสนั่น



นอกจากนี้ระหว่างที่พลเอกประยุทธ์ เซ็นกระเป๋าสตางค์ให้กับประชาชน ได้ถามว่ามีบัตรลุงตู่ในนี้หรือไม่ พร้อมกับกล่าวออดอ้อนว่า อย่าไปให้พรรคอื่นเขามาหลอกว่าลุงตู่อยู่พรรคอื่น ลุงตู่อยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ และกล่าวว่าฝากคนตัวเล็กๆ ไว้ในอ้อมใจด้วย บางครั้งนอนกลางคืนยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เพราะภาระมีอยู่ 2-3 อย่าง



พร้อมกันนี้พลเอกประยุทธ์ ได้เบ่งกล้าม โชว์ชาวบ้านบอกว่าตัวเองนั้น ยังแข็งแรงอยู่ เพราะได้กำลังใจจากประชาชนจึงแข็งแรงเป็น 2 เท่า คนจะแข็งแรงหรือไม่มีอยู่ 2 เรื่องคือสุขภาพกายและสุขภาพใจ หากเป็นรัฐบาลตนจะดูแลให้มากกว่านี้



โดยในช่วงหนึ่งพลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวต่อว่า เห็นหรือไม่ ผมมาหาเสียงในวันนี้ยังไม่ด่าใครสักคนเลย ผมไม่ใช่ศัตรูของใคร เพราะฉะนั้นเวลาใครเขามาว่าผมก็ช่วยผมบ้างก็แล้วกัน มันต้องรักษาความสามัคคี ผมไม่ต้องการให้เกิดความแตกสามัคคีในการเลือกตั้ง เราแบ่งคนเป็นพวกไม่ได้ เราแบ่งคนเป็นรุ่นเป็นวัยไม่ได้ เพราะน่าจะเป็นอันตรายต่อประเทศไทย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์คือจุดยืนของพรรคเรา และผมก็ชื่นใจกับคนใต้ของเราที่สนใจการเมือง



โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าาว่า เรามาร่วมกันทำชาติของเราให้ปลอดภัย นั่นคือหลักการสำคัญของพรรคเรา วันนี้อยากมาขอคะแนนเสียงจากพวกท่านจะให้ได้หรือไม่ วันนี้ผมมาหาพวกท่านตัวเป็นๆ ยังแข็งแรงอยู่วันนี้เรามาทำเพื่อประเทศชาติ ลูกพ่อแม่ปู่ย่าตายายเหล่านี้คือบริเบทของคนไทย



ทุกอย่างประเทศไทยต้องทำตามระบบกฎหมายที่มีอยู่เราอยากอยู่กันแบบไม่มีกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่มีกฎหมายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น มันจะกลายเป็นบ้านป่าเถื่อน สมัยโบราณ เขาเป็นอย่างนั้นใครแข็งแรงกว่าได้เป็นผู้นำ แต่วันนี้ไม่ใช่ ตอนนี้คนที่แข็งแรงน้อยที่สุดคือตนนี่แหละ เพราะปัญหามันเข้ามาเยอะ แต่สู้ได้อยู่ และพอมีกล้ามอยู่ หลายคนบอกแก่ไปแล้วกลับไปนอนอยู่กับลูกกับหลานที่บ้านเถอะ เผอิญตนไม่มีหลานมีแต่ลูก ก็เลยยังไม่กลับ เพราะว่าต้องทำต่อให้กับทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ โดยดูแลให้ถูกต้อง ให้เกิดความเท่าเทียมของโอกาส ปลดล็อคปัญหา ให้สามารถทำได้ ตามนโยบายรื้อ ลด ปลด สร้าง หรือกฎหมาย กติกา และอุปสรรค ซึ่งกฎหมายก็ต้องเข้าสภาผู้แทนราษฎร ผ่านหรือไม่ผ่านขึ้นอยู่กับ ส.ส.



ซึ่งตนหวังว่าจะได้มีโอกาสยืนอยู่ตรงนั้น และหวังว่าจะมี สส. พวกนี้ยืนอยู่ข้างตนที่สภาฯ ถ้าให้ตนไปสู้คนเดียวก็โดนคนเดียวทั้งวัน ต้องมีส.ส.ไปช่วยตนบ้าง การเดินหน้าประชาธิปไตย ต้องมี ทั้ง นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ส.ส. โดยอำนาจมี 3 อำนาจ อำนาจฝ่ายบริหารคือตน อำนาจนิติบัญญัติคือสภา และ อำนาจตุลาการ เรามีคนเหล่านี้ครบ รวมทั้งมีคนรุ่นใหม่อยู่ด้วยเยอะ บางคนบอกว่ามีแต่ลุงแก่ๆจะไปทำอะไร แต่ตนยังมีคนรุ่นใหม่อีกเยอะ ตนฟังและอ่าน และทำมากับมือ รับรู้ว่าไปถึงไหนแล้ว



คนไทยไม่ว่าจะศาสนาใด ก็ตามจะต้องรักกัน เพราะทุกคนอยู่บนพื้นที่ ของประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย ใครก็เอาไปไม่ได้ เราเกิดที่นี่หากินที่นี่ แต่ยากดีมีจนยังไง ทุกคนก็ตายกันตรงนี้แหละ ใช่หรือเปล่า หรือคุณจะไปตายต่างประเทศ เพราะบางคนไป ก็ยังไม่ตายเลย ผมไม่ได้พูดถึงใครนะ เดี๋ยวหาว่าผมไปทะเลาะกับเขาอีก หลายคนไปต่างประเทศแล้วไม่ตาย ฉะนั้นแผ่นดินผืนนี้ต้องรักษาไว้ยิ่งชีพยิ่งชีวิต มันไม่มากนัก เขาก็ตอบแทนให้เราสามารถทำมาหากินได้ แม้แต่ยากดีมีจนก็มีที่อยู่ที่กินที่นอน เดี๋ยวเราก็ทำมาหากิน แบบถูกต้อง ทุกปัญหาถ้าคนที่ไม่เคยเข้ามาบริหาร จะมั่นใจไหม และมั่นใจกับคนขับรถคนเดิมนี้หรือเปล่า ถ้าจะบอกว่าเครื่องบินเดี๋ยวโดนด่าอีก วันนี้เราลดลงมาเป็นรถยนต์ ถ้าเป็นนักบินเขาก็บอกแก่แล้วลงมาได้ เป็นแก่ๆ เขาไม่เอา แต่เป็นครูสอนการบินไง ใช่ไหม วันนี้เอารถยนต์ก็แล้วกันหรือรถมอเตอร์ไซค์ก็ได้ ฉะนั้นคนที่จะรู้ทิศทางการทำงานหรือกฎหมาย และกฎระเบียบจะต้องเป็นคนที่ทำงานเป็น แล้วทำอยู่แล้วและต้องทำต่อ



เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับก็คิดว่า วันรุ่งขึ้นเราจะต้องไปไหน ไปใต้ใช่ไหม จะไปเจอใครบ้างก็ไม่รู้ จะไปเจอคนที่เขารักเราหรือเปล่า



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างนี้ประชาชนและตะโกนว่ารักลุงตู่ ขณะที่พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วทำไมคนตรงอื่นมันไม่ชอบผมไม่เข้าใจ ขออย่าทิ้งตน อย่าทิ้งประเทศของพวกท่าน เพราะหัวใจกับร่างกายของตนอุทิศให้กับแผ่นดินนี้ไปแล้ว ปกป้องรักษารบปะทะชายแดนมาแล้ว แผ่นดินผืนนี้นี่แหละ ผมไม่อยากให้แผ่นดินผืนนี้เสียหายไป ซึ่งทหารหลายคนเสียชีวิตไป ไม่เห็นใจเขาเหรอ ต้องเห็นใจเขา เสียสละ ลูกเต้าเขามี อย่าดูถูกทหารกันเกินไปนัก ถ้าไม่มีทหารจะอยู่ได้ไหม



พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางต่อมาที่จังหวัดพัทลุง จุดแรกมาที่วัดเขาอ้อ ซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ประจำพื้นที่ ทันทีที่มาถึงได้เข้ากราบสักการะพระประธาน และบูชาอัฐิของพระอาจารย์ทองเฒ่า ปรมาจารย์วัดเขาอ้อ ซึ่งมีพุทธคุณ ด้านอยู่ยงคงกระพัน



นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้เดินเข้าถ้ำฉันทัณฑ์บรรพต โดยมีอาจารย์ประจวบ เป็นหมอด้านคาถาอาคม ลูก ศิษย์ของปรมาจารย์วัดเขาอ้อ ซึ่งมีวิชาอาคมไสยเวทย์รอบด้าน ทั้งเรื่องอยู่ยงคงกระพันและมีคาถารักษาโรค มาทำพิธีบวงสรวงขอพรให้พลเอกประยุทธ์ โดยสวมแหวนพิรอดหัวราหู ซึ่งมีพุทธคุณเรื่องแคล้วคลาด คุ้มกันภัย และเมตตามหานิ พร้อมมอบตะกรุด และลงอักขระที่มือซึ่งเป็นเรื่องเมตตาเช่นกัน โดยอาจารย์จวบ ยังอวยพรขอให้พลเอกประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ช่วยพัฒนาบ้านเมืองต่อ



จากนั้นพลเอกประยุทธ์ ได้เข้านมัสการเจ้าอาวาสวัด ซึ่งเจ้าอาวาสได้มอบรูปหล่อพระอาจารย์ทองเฒ่า หรือพ่อท่านเขาอ้อ ขนาด 5 นิ้ว และเหรียญพระครูปาล ปาลธัมโม รุ่น สิทธินอโม วัดเขาอ้อให้นายกฯและคณะด้วย โดยเจ้าอาวาส วัดเขาอ้ออวยพรให้ อยู่ยงคงกระพัน ท่านเป็นผู้นำประเทศ ก็ขอให้อยู่บริหารนานๆ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในศาลาที่ตั้งของอัฐิ ปรมาจารย์วัดเขาอ้อ ที่บริเวณด้านข้างฝาผนัง ได้มีรูปปั้นนูน ซึ่งเป็นรูปของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมนาฬิกาข้างขวา 2 เรือน ซึ่งเป็นฝีมือปั้นของช่าง ในพื้นที่ควนขนุน ถ้าโดยภาพปั้น ดังกล่าวได้จัดทำขึ้นมาแล้วกว่า 3 ปี



โดยเมื่อผู้สื่อข่าวบอกให้พลเอกประยุทธ์ ดูภาพนูนที่ฝาพนัง พลเอกประยุทธ์ ถึงกลับถามเจ้าหน้าที่วัดว่า มีลุงป้อมด้วยหรอ ซึ่งเจ้ากน้าวัดได้บอกกับพลเอกประยุทธ์ว่าปั้นมาหลายปีแล้ว พลเอกประยุทธ์อมยิ้มและยักคิ้วให้นายพีระพันธุ์ ก่อนที่จะหันกลับมาถามผู้สื่อข่าวว่าสร้างมากี่ปีแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่าสร้างมา 3 ปีแล้ว พลเอกประยุทธ์ถึงกลับถามกลับว่า 3 ปีแล้วหรอ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารูปปั้นนั้นเหมือนหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวติดตลกว่าเราหล่อกว่านั้นตั้งเยอะ ที่เขาสร้างก็เป็นมงคลนะ จริงๆ แล้ว อยากไหว้พระมากกว่า แต่ถ้าเขาปรารถนาดีก็โอเค



ขณะที่วานนี้ (29 เม.ย.) เวลา 17.00 น. ที่ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำแกนนำพรรค พปชร. นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพปชร.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งเหนือ และผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ทำพิธีสักการะบูชาศาลหลักเมือง เป็นสิริมงคล



โดยพล.อ.ประวิตรได้เขียนชื่อของตัวเองบนผ้าขาว เพื่อพันรอบองค์ศาลหลักเมือง ขณะที่อาจารย์ผู้ทำพิธี ได้สวดบูชาศาลหลักเมือง และจตุคามรามเทพต้นตำรับเมืองนครฯ เพื่ออวยพรให้พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ให้ชนะศึก ชนะภัย ชนะใจ ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้มีตัวแทนสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน สภาประชาชน 4 ภาค มารอต้อนรับ



โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนมาวันนี้จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และพร้อมทำงานให้กับประชาชน ขอฝากให้เลือกพรรค พปชร.เบอร์ 37 และผู้สมัครส.ส.นครฯทั้ง 10 เขต ของพรรค พปชร.



โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัยว่า มาพบกับประชาชนเพื่อยืนยันว่า ตนและพรรคพลังประชารัฐพร้อมที่จะรับใช้ชาวนครศรีธรรมราชทุกคน เพื่อให้จังหวัดนครศรีธรรมราชรุ่งเรืองต่อไป ถ้าอยากให้เจริญต้องเลือก พลังประชารัฐ เราเลือกคนดี คนเก่ง คนทำงาน มาเป็นผู้แทนทั้ง 10 เขต การเลือกพรรค ต้องเลือกเบอร์ 37 ด้วย



พร้อมย้ำว่าอยากให้คนไทยรักสามัคคีกัน ให้ประเทศเกิดความสงบสุข ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น พรรคพลังประชารัฐเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนจำนวนมาก พรรคจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก้าวข้ามความขัดแย้ง นำพาคนเก่งมาร่วมมือกันเพื่อสร้างความสงบสุขรุ่งเรืองให้ประเทศ ขอให้เชื่อมั่นในพลังประชารัฐ และย้ำถึงนโยบายของพรรคที่ได้คิดทำเพื่อประชาชนทั้งเรื่องบัตรสวัสดิการรัฐ 700 และ มาตรการลดค่าครองชีพ



ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ที่รัฐบาลมีเสถียรภาพ เพราะมีพลเอกประวิตรเป็นมือประสาน เป็นแกนหลักทำให้อยู่ร่วมกันมาได้ 4 ปีและเราจะทำกันต่อไป เพราะลุงป้อมคือ Soft Power ที่จะประสานกับทุกคน ท่านไม่เลือกว่าจะอยู่ฝ่ายไหน จะคิดอย่างไรไม่สำคัญขอให้เป็นคนไทย รักประเทศไทยเรามาช่วยกันทำให้บ้านเมืองดีขึ้น



จึงเป็นนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง พรรคแรกและพรรคเดียว พร้อมถามว่าเบื่อหรือไม่ที่คนไทยทะเลาะกัน เดี๋ยวนี้เวลาพรรคการเมืองหาเสียงก็ดราม่า สร้างความเกลียดชัง พูดไม่ จริงพูดเท็จพูดมั่ว ทำให้คนเกลียดกัน เกลียดประเทศตัวเอง วันนี้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุข มีแต่ชาวต่างชาติมาท่องเที่ยว แล้วมันไม่ดีตรงไหน เรื่องการยุยงปลุกปั่นเป็นเรื่องที่พรรครับไม่ได้



ดังนั้นการเลือกตั้ง เลือกนโยบายแล้ว ต้องเลือกตรงคนทำงานด้วย เพราะอุดมการณ์ของพลังประชารัฐต้องทำให้บ้านเมืองสงบสุข มั่นคงเข้มแข็งเพื่อบ้านเมืองของเรา เราต้องทำนโยบายที่ทำได้จริงไม่คิดอะไรไกลเกินไป ไกลจนคนไทยรับไม่ได้ บางพรรคคิดถึงแต่ครอบครัว คิดถึงแต่ส่วนตัว เรื่องของตัวเอง ทำให้คนแตกแยกทะเลาะกัน ถ้าเราปล่อยให้เกิด



เหตุการณ์แบบนี้ คนไทยจะ ไม่สงบสุข ลุงป้อมจะเป็นคนแรกที่พูดนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง วันนี้ไม่มีเวลาแล้ว ที่เรา จะมาแบ่งซ้ายจัด เสรีนิยมสุดโต่ง จะเปลี่ยนประเทศในแบบที่เขาต้องการ ซึ่งเรายอมรับไม่ได้แน่นอน ขณะที่บางฝ่ายก็พร้อมที่จะเชิญกันชนกัน พรรคพลังประชารัฐต้องสู้ร่วมกับประชาชน เพื่อสร้างรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ



นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พปชร. กล่าวปราศรัยว่า จ.นครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะชี้ชะตาการเลือกตั้ง ตนได้กลิ่นไอปัญหาการเมืองข้างหน้า พรรคหนึ่งบอกจะแลนด์สไลด์ พรรคหนึ่งบอกจะล้มรัฐบาลเดิมที่มีมา บอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องเปลี่ยนแปลงประเทศ คนภาคใต้เหนื่อยยากมามากกับการเมือง วันนี้ตนบอกกับการเมืองว่าบ้านเมืองหลังเลือกตั้งจะเป็นเวลาที่ยุ่งยากใจที่สุด จะกลับไปอยู่กับการต่อสู้ วันนี้มีพรรคการเมืองเดียวที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการตัดสินใจชองชาวภาคใต้ พรรคการเมืองที่จะเป็นตัวแปรให้ผ่านพ้นการต่อสู้และขัดแย้ง ตนบอกได้เลยว่า เหลืออยู่พรรคเดียวชื่อว่า พปชร. เพราะหลังเลือกตั้งจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เสียงจะก้ำกึ่งกันมาก



นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ใน 4 พรรคที่ท่านจะตัดสินใจ เดิมพวกท่านรักพรรคเก่าแก่อยู่พรรคหนึ่ง มักจะกาคะแนนให้เขา แต่พรรคนั้นวันนี้โอกาสตั้งรัฐบาลน้อยมาก พรรคที่ 2 เป็นพรรคที่ขณะนี้พยายามกวาดพื้นที่ภาคใต้ให้ได้เสียงมากที่สุดคือพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แต่ ภท.วันนี้ตนบอกเลยว่าเป็นรัฐบาลยากมากๆ และพรรคที่ 3 เป็นพรรคที่แยกออกไปจาก พปชร. ชื่อว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)



พรรคนี้ยากที่สุดที่จะเป็นรัฐบาล ในทั้งหมด 4 พรรค มีอยู่พรรคๆ เดียวที่เป็นพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นพรรคที่จะสามารถเป็นตัวแปรรวมทุกฝ่ายคือ พปชร. ตนต้องการมาบอกชาวนครศรีธรรมราชว่า พี่น้องกำลังชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย หากตัดสินใจผิด เลือกพรรคผิด เลือกผู้แทนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ของรัฐบาล จะไม่มีใครดูแลประชาชน ต้องเลือก ส.ส.ของ พปชร.ทั้ง 10 เขต พปชร.จะเป็นตัวแปร ถ้าถามว่าจริงหรือไม่ จริงหรือไม่จริง ขอให้ดูว่าที่นายกฯ พปชร.ที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นคนๆ เดียววันนี้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นนายกฯ เพราะเป็นคนเดียวที่มีบารมีการเมืองมากที่สุด เชื่อมโยงคนทุกฝ่ายได้ เป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์การเมืองยาวนานที่สุด



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสุดท้ายของการ ปราศรัยของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่เวทีปราศรัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้หาเสียง พลเอกประวิตร เป็น คนคนเดียววันนี้ ที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นคนเดียวที่มีบารมีทางการเมือง เป็นคนเดียวที่เชื่อมโยงคนทุกฝ่ายได้ เป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์การเมืองยาวนานที่สุด จะให้เด็กหนุ่มเด็กสาวเป็นนายกเอาหรือไม่ "ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เลือกพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีครับพี่น้อง"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jec0LWLFmS8