เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' ย้ำไม่จับมือ พปชร.-รทสช. เป็นมติพรรค หลัง 'ธรรมนัส' ย้อนถามมีอำนาจตัดสินใจหรือ?

23 เม.ย. 2566

68 views

เมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และคณะพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่องโดยวันนี้มาเปิดเวทีปราศรัยอยู่ที่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอขอบคุณจากใจจริงของคนกรุงเทพฯ ที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและจริงใจ วันนี้ผมและทีมงานจากพรรคเพื่อไทยมีมาครบถ้วน เพราะเรามีความจริงใจและตั้งใจจริงที่จะอธิบายให้ประชาชนฟังว่าเราจะแก้ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจอย่างไร 8 ปีที่ผ่านมาไม่ไหวแล้ว อย่างเรื่องค่าไฟแพง ทำให้รายจ่ายของประชาชนสูงขึ้นอย่างน่ากลัว พรรคเพื่อไทยยอมรับไม่ได้ เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อค่าครองชีพ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะบริหารจัดการค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าน้ำมัน อย่าน้ำมันดีเซลต้องต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร

พรรคร่วมรัฐบาลมีการหาเสียงมากมายที่จะทำให้ราคาค่าไฟลด แต่เป็นรัฐบาลอยู่มา 8 ปีแล้วถ้าทำเป็น ทำไมไม่ทำเลย ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการ ถึงเวลาที่เราต้องมีการเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยต้องเข้ามาจัดการปัญหานี้

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการผูกขาดของรายใหญ่ พรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับการค้าขายแบบผูกขาด แบบผู้มีสิทธิทำกิน จนทำให้ประชาชนลำบาก เราต้องการการแข่งขันสมบูรณ์ พรรคเพื่อไทยจะนำนวัตกรรมเสริม ทำให้รายจ่ายต่ำลง รายได้สุทธิสูงขึ้น เรามั่นใจภายใน 4 ปีรายได้สุทธิของพี่น้องสูงขึ้น 3 เท่าตัว พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น เราทำได้

นโยบายที่ถูกพูดถึงทั้งประเทศ รวมถึงพรรคคู่แข่ง ที่กระแนะกระแหนว่าจะทำไม่ได้ ทั้งที่ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย เราทำได้มาตลอด เรามั่นใจว่านโยบาย 10,000 บาททำได้แน่นอน ให้รีบใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ครอบครัวไหนมี 5 คนก็รับไปเลย 50,000 บาท ซึ่งจะเพียงพอซื้อสินค้าชุบชีวิตใหม่ ไม่เหมือนรัฐบาลปัจจุบันหยอดน้ำข้าวต้มซึ่งไม่เพียงพอ

---------------------------------

'ธรรมนัส' สวน 'เศรษฐา' ประกาศไม่จับขั้วพปชร. ย้อนถามมีอำนาจตัดสินใจหรือ

ด้านร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า การจับมือจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอผลการเลือกตั้งก่อน ส่วนที่หลายพรรค ออกมาปฏิเสธ ว่าไม่จับมือกับคนนั้นคนนี้ แต่วันหนึ่งเมื่ออยากเป็นรัฐบาล ก็มานั่งผิดคำพูดตัวเองต่อสาธารณะ ในทางการเมือง มันก็ไม่เหมือนเดิม พร้อมฝากทุกท่านที่ออกมาพูดด้วย

อย่างกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยออกมาพูดชัดเจนถือเป็นการปิดประตูแล้วใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัสย้อนถามว่า คนที่ออกมาพูด มีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ บางคนเวลาไมค์จ่อปาก ก็พูดเอามัน ลืมไปว่า อ้าว ผมไม่ได้มีอำนาจ ในการตัดสินใจ เรื่องของพรรคเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค

เมื่อถามว่า ทันทีที่รู้ผลเลือกตั้งใครจะเป็นผู้ประสานจัดตั้งรัฐบาล ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่าต้องช่วยกัน ภายใต้นโยบายของหัวหน้าพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง และเชื่อว่าในทางการเมือง ก่อนปิดหีบก็จะรู้แล้วว่าใครจับมือกับใคร

ส่วนกรณี ผลโพล หลายสำนักประเมินว่าพรรคพลังประชารัฐน่าจะได้ 70 ที่นั่ง ร้อยเอกธรรมนัส ระบุ ผลที่ออกมา เราก็นำมาทำการบ้าน แต่ก็ประเมินกันว่าผลน่าจะได้หลักร้อย และเรายังคงมั่นใจ ในตัว ส.ส. เขตเดิม เชื่อว่าตัวเลขจะใกล้ปี 62 เพราะเรามองว่าเขตเดิมที่เราเคยได้ ตอนนี้ พื้นที่ยังคงแข็งแรง แม้ ส.ส.เก่าเรา จะย้ายไปอยู่พรรคอื่น แต่เราก็หาคนใหม่มาลง และทำพื้นที่ จึงมั่นใจว่าเราจะสามารถรักษาแชมป์ได้ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่าหลายสำนัก ก็มองว่าเราน่าจะได้รองจากพรรคเพื่อไทย ใกล้เคียงกับพรรคภูมิใจไทย

นอกจากนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ยังเปิดเผยว่า ในช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐจะยกทัพใหญ่ไปปราศรัยในพื้นที่ยุทธศาสตร์ เช่น ช่วงปลายเดือนจะไปสงขลา นครศรีธรรมราช และต่อด้วย ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ส่วนที่ช่วงปลายเดือน พลเอกประยุทธ์ กับพลเอกประวิตร จะลงพื้นที่ชนกัน ที่ภาคใต้นั้น ย้ำว่า 28 เมษายน เราจัดปราศรัยใหญ่ที่สงขลา 29 เมษายน ที่นครศรีธรรมราช มันเป็นเรื่องการเมือง อย่าไปมองเป็นประเด็น และแผนการปราศรัยนี้เราทำไว้นานแล้ว ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชหนักใจหรือไม่ที่ส.ส.ย้ายออกไป ร้อยเอกธรรมนัส ระบุ ว่าน้ำเก่าออกไป น้ำใหม่เข้ามา มั่นใจว่าจะสามารถรักษาเก้าอี้ไว้ได้ และพื้นที่ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐก็ยังมีกระแสอยู่

----------------------------------------

'เศรษฐา' ย้ำไม่จับมือ พปชร.-รทสช. เป็นมติพรรค 'อุ๊งอิ๊ง' เห็นด้วย ยันย้ำมาตลอดไม่ใช่เพิ่งชัดเจน

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ หลังประกาศชัดเจนไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติว่า เป็นมติพรรค และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก็เห็นด้วย เพราะเป็นแนวทางที่ต้องการเป็นรัฐบาลพรรคเดียว และที่ผ่านมาก็ย้ำมาตลาด ไม่ใช่พึ่งมาชัดเจนเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนหลังเลือกตั้งอาจจะพิจารณาจับมือกับพรรคการเมืองที่มีจุดยืนจุดเดียวกัน แต่วันนี้ตั้งใจเดินหน้าหาเสียงชี้แจงนโยบายเต็มที่ เพราะตั้งใจเป็นรัฐบาลพรรคเดียว

ส่วนกลุ่มคนที่ต้องการเห็นความชัดเจนเรื่องการจับมือจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายเศรษฐา ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยชัดเจนมาตลอด และพูดความจริงมาตลอด ว่า ความตั้งใจของพรรคเพื่อไทยคืออะไร ส่วนประชาชนจะเทคะแนนให้หลังจากประกาศชัดเจนไม่จับมือกับทั้ง 2 พรรคนี้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ และอยากให้ดูเรื่องของนโยบายที่พรรคเพื่อไทยต้องการล้มล้างความยากจน สร้างความเสมอภาคให้ประชาชน

ส่วนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐก็ไม่เป็นไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า พลเอกประวิตรก็มีจุดยืน และนโยบายเป็นตัวเอง ซึ่งจะต้องสู้กันที่นโยบายว่าใครจะทำให้ประชาชนหายจนได้ดีกว่ากัน




รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/V7ZtBUJb5pg

คุณอาจสนใจ

Related News