เลือกตั้งและการเมือง

ศาลแพ่ง ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ปมห้าม 'ชูวิทย์' พูดเรื่องกัญชา - 'ศุภชัย' ลั่นไม่เห็นด้วย

โดย weerawit_c

8 เม.ย. 2566

53 views

วานนี้ (7 เม.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยภายหลังยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอยกเลิกคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินตามคำร้องของพรรคภูมิใจไทย โดยระบุว่า คำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินนี้เป็นคำสั่งที่ออกให้ โดยที่ศาลยังไม่ได้รับฟังข้อมูลจากตน  วันนี้จึงได้นำพยานหลักฐาน ประกอบด้วย ผลการวิจัยจากสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ผลเสียของกัญชาจากแพทยสภา และข่าวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโทษของกัญชา และเมื่อศาลได้รับข้อมูลจากฝั่งตนเองแล้ว ขอเสนอว่าขอให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว



ส่วนประเด็นที่ใช้ในการไต่สวน นายชูวิทย์ให้ข้อมูลต่อศาลว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่อาสาเสนอตัวให้ประชาชนเลือก การออกนโยบายจึงต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของสังคม และทุกนโยบายต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะนโยบายกัญชาเสรีเป็นนโยบายที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง และเมื่อปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดแล้วก็ไม่มีการควบคุมและไม่มีกฎเกณฑ์



นายชูวิทย์บอกอีกว่า พรรคภูมิใจไทยมีความโกรธแค้นตนเป็นส่วนตัวหลายเรื่อง เช่น เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม // เขากระโดง // การซุกหุ้น // เรื่องกัญชา และยังมีความโกรธแค้นส่วนตัวอีกว่าจะได้คะแนนเสียงลดน้อยลง จึงมาขอความคุ้มครองฉุกเฉิน ซึ่งตนมองว่าฝ่ายที่ควรไปขอความคุ้มครองฉุกเฉินควรเป็นตนมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะตัวคนเดียว ในขณะที่พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.หลายเขต และนี่ก็เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พรรคการเมืองเลือกปิดปากประชาชนเพียงคนเดียว



เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ นายชูวิทย์บอกว่าไม่กังวลและจะทำเหมือนเดิม ถึงแม้ช่วงเช้าที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยจะนำคลิปวิดีโอและคลิปเสียงที่ตนให้สัมภาษณ์ในรายการต่าง ๆ มายื่นต่อศาลเพิ่ม เพื่อให้ศาลเห็นว่าตนไม่เชื่อฟังและละเมิดคำสั่งศาล แต่ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะใช้วิธีการแบบไหน และไม่ว่าตนจะติดคุกหรือไม่ก็ ยืนยันได้ว่าจะไม่หนีไปไหน จะยืนอยู่ตรงนี้และจะพูดถึงข้อเสียของกัญชาและพรรคภูมิใจไทยเหมือนเดิม



นายชูวิทย์บอกอีกว่า เรื่องนี้ตนมองว่าเป็นข้อดีเพราะศาลยังไม่ตัดสิน ซึ่งตนยังสามารถพูดได้เพราะคำตัดสินยังไม่สิ้นสุด และหากศาลยืนคำพิพากษา ตนก็ยังมีสิทธิ์ที่จะสามารถขอยื่นอุทธรณ์ได้ และยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อต้านกัญชาเสรีเหมือนเดิม และจะพูดชื่อพรรคภูมิใจไทยเหมือนเดิม เพราะตนเป็นลูกผู้ชายไม่ทำอะไรหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่แล้ว จึงจำเป็นต้องพูดชื่อพรรค อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนคนหนึ่งสามารถพูดได้



นายชูวิทย์ฝากถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำกับตน ถือว่ามากเกินไป ควรจะโต้แย้งกันด้วยเหตุผลมากกว่า และการที่นายอนุทินทำแบบนี้บ่งบอกว่าไม่มีเหตุผล เป็นการยืมมือศาลปิดปากให้ออกคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินให้ เพราะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง เลยกลัวว่าคะแนนเสียงจะลดลง พร้อมฝากถึงหัวหน้าพรรคอื่น ๆ ด้วยว่าที่ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องกัญชาเป็นเพราะไม่เห็นด้วยหรือต้องการให้มีกฎหมายควบคุม



ขณะที่ นายชูวิทย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า “ด่วน! ชัยชนะอยู่ที่ประชาชน ไม่ใช่พรรคการเมือง ศาล “ยกเลิก” คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวแล้ว ชูวิทย์สามารถรณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทยได้ ขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน”



ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ ศาลยกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวพรรคภูมิใจไทย กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ว่า ซึ่งแปลว่าอนุญาตให้จำเลยสามารถที่จะพูด กล่าวหาใส่ร้าย พรรคภูมิใจไทยได้อีกต่อไปหรือ ซึ่งตรงนี้พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย กับคำสั่งศาลที่ว่า



ดังนั้นตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากกลับไปจากศาล ก็ได้มีการไปพูดในสิ่งที่ใส่ร้ายป้ายสีพรรคภูมิใจไทยต่อ ก็เป็นสิทธิ์ของโจทก์ คือ พรรคภูมิใจไทย ที่ตะไปยื่นต่อศาลเพื่อชี้ให้เห็นว่า วันนี้จำเลย ได้กระทำผิดซ้ำและกระทำต่อไป ในสิ่งที่จำเลยถูกฟ้อง และ ศาลเห็นว่ามีมูล



กรณีที่จะไปแสดงความคิดเห็นว่ากัญชาไม่ดีต่อสุขภาพนั้น พรรคภูมิใจไทยไม่เคยที่จะไปคัดค้าน แต่การไปกล่าวหาว่าพรรคภูมิใจไทยทำให้กัญชาเสรี นำยาเสพติดเข้ามาสู่สังคม มอมเมาเยาวชนถือเป็นความเท็จ เพราะพรรคภูมิใจไทยเป็นนิติบุคคล แยกต่างหากกับตัวสภาผู้แทนราษฎร

สิ่งที่ต้องเข้าใจคือการปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด เป็นการปลดล็อคโดยรัฐสภา ทั้ง ส.ส. และ ส.ว



ส่วนกรณีที่กล่าวหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปออกประกาศ ย้ำว่าออกประกาศโดยความเห็นชอบจาก คณะกรรมการป.ป.ส. และต้องทำความเข้าใจว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย



วันนี้ก็จะต้องทำความเข้าใจกับศาลว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร พร้อมยืนยันว่าก็จะยื่นขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ต่อไป และจะชี้ให้เห็นว่าตั้งแต่วันสมัครมา จนถึงเมื่อวาน ก็ เป็นการกระทำผิดซ้ำและกระทำผิดต่อไป ในเหตุละเมิด ซึ่งตามกฏหมายย่อมคุ้มครองโจทก์ แต่เมื่อวานการไปชี้แจงของจำเลยก็ไม่ได้บอกว่าพรรคภูมิใจไทยทำอะไร ศาลก็ยังไม่เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยทำอะไร วันนี้ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยก็จำเป็นที่จะต้องปกป้องความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกล่าวร้ายใส่ร้ายอันเป็นเท็จ ได้ยื่นกันทุกวัน หลังจากนี้ ซึ่งจะไปยื่น ในวันจันทร์ ที่ 10 เมษายน ถือโอกาสบอก ถึงคุณชูวิทย์ก็ ตั้งทนายไปซักค้านเลยก็ได้ ศาลท่านจะได้สั่งให้มีการไตร่สวน จะได้รู้ และเปิดความจริงกัน คุณชูวิทย์จะเป็นทนายเองก็ได้



ส่วนการดำเนินคดีที่ผิด พรป. เลือกตั้ง มาตรา 73 ก็อยู่ ระหว่างการดำเนินคดีซึ่งมีโทษจำคุก 10 ปี พูดซ้ำก็ 1 กรรม วันนี้เท่าที่นับ การกระทำผิดของคุณชูวิทย์ มีมากกว่า 10 การกระทำความผิดแล้ว ย้ำว่าโทษหนักและต้องบวกโทษไปเรื่อย ๆ แต่ตนทราบว่าคุณชูวิทย์แกไม่กลัว ก็ไม่เป็นไร


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/CptnFHFdOtI

คุณอาจสนใจ

Related News