'พิธา' ปราศรัยเดือดกาญจนบุรี ถามทหารมีไว้ทำไม - 'ธนกร' ดับฝันเพื่อไทย อย่าหวังปาฏิหาริย์แลนด์สไลด์ ชี้แต้มบุญหมดแล้ว

วานนี้ (18 มี.ค.) พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค / นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค / นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรค / นายแพทย์วาโย อ้ศวรุ่งเรือง ส.ส. บัญชีรายชื่อ / และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เปิดเวทีปราศรัยแนะนำนโยบาย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรคทั้ง 5 จังหวัดในหัวข้อ “ปักธงส้มทั่วไทย ต้องก้าวไกล ตรงไปตรงมา” ที่ศาลา 60 พรรษา ริมน้ำ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงต้นก่อนการปราศรัยของนายพิธา ได้มีชาวบ้านมาให้กำลังใจนายพิธา โดยนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองมาคล้องคอจนมิดหัว ซึ่งเป็นครั้งที่นายพิธาได้รับพวงมาลัยมากที่สุดตั้งแต่ลงพื้นที่มา

โดยนายพิธา ปราศรัยว่า วันนี้พาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. มาถึง 5 จังหวัด “อย่าให้ขายหน้าเขานะ” พร้อมแนะนำตัวว่าตนคือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล วันนี้มากาญจนบุรี ความทรงจำเกี่ยวกับกาญจนบุรีครั้งแรก ไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทย เมื่อตอนเด็กๆ ตนใช้ชีวิตในต่างประเทศ คือประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นระบอบประชาธิปไตย เน้นไปที่ระบบรัฐสภา ตนชอบการเมืองตั้งแต่ตอนอยู่นิวซีแลนด์ ฟังการอภิปรายในสภาเรื่องราคาสินค้าเกษตร ตนรู้สึกผูกพันกับการเมืองแบบนั้น และวันที่ 24 เมษายนของทุกปีที่นิวซีแลนด์ จะเป็นวันแอนแซคเดย์ (Anzac Day) ซึ่งเกี่ยวข้องกับกาญจนบุรีเป็นอย่างยิ่ง เป็นวันที่เขาเฉลิมฉลองทหารออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่ไกลจากตรงเวทีปราศรัยนี้ก็เป็นสถานที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2

“วันที่เขาเฉลิมฉลองการเสียสละของทหารออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ … เป็นครั้งแรกที่มีความทรงจำเกี่ยวกับกาญจนบุรีของผม … พอไปคุยกับเขา กรุงเทพมหานครเขาไม่รู้จัก เขารู้จักแต่กาญจนบุรีเพราะครอบครัวของเขามาเสียชีวิตที่นี่ พ่อแม่ของคนที่อยู่ที่นู่น เขาถึงได้เล่าให้ผมฟังถึงประวัติศาสตร์และมาคอนย้ำเตือนเราให้นึกถึงความท้าทายทางทหารในช่วงเวลานั้น” นายพิธากล่าว

นายพิธา กล่าวว่า หากพูดถึงราคาของเสรีภาพและต้นทุนของสงคราม ณ ตอนนั้น ความท้าทายของโลกสมัยนั้นคือความมั่นคงทางทหารทั้งสิ้น มีคนเสียชีวิตที่กาญจนบุรีเป็นหมื่นคน ประชาชนเป็นแสน ใช้เวลา 1 ปี สร้างรถไฟสายมรณะนั้นเสร็จ ต่อมาญี่ปุ่นแพ้สงคราม ระเบียบโลกใหม่ได้บังคับใช้ ญี่ปุ่นต้องบริหารภายใต้รัฐธรรมนูญที่ทำโดยสหรัฐอเมริกา กาญจนบุรีถือเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์นั้น

จนมาถึงวันนี้ความท้าทายทางทหารไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว สันติภาพเกิดขึ้นได้ไม่ได้อยู่ที่กองทัพใหญ่หรือไม่ มีกว่า 10 ประเทศทั่วโลกไม่มีกองทัพเป็นของตัวเอง แต่มันอยู่ที่การต่างประเทศ อยู่ที่ระเบียบโลกที่ประเทศแต่ละประเทศจะทำให้เราอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติภาพได้ ความท้าทายทางทหารแบบนั้นกลับกลายเป็นความท้าทายทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคมสูงวัย และดิจิทัล ทุกวันนี้ไม่มีใครเอาทหารไปรบกันอีกแล้ว คำถามที่อยากชวนพี่น้องภาคตะวันตกคิดคือทหารมีไว้ทำไม

“80 ปี ประเทศไทย ทหารมีไว้ทำไม ก็จะไปรบกับใคร สมมติมีคนมารุกราน ผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะรบชนะด้วย แล้วอีกอย่างคือตอนนี้เป็นเรื่องของอาวุธ ประเทศที่อยู่ใกล้ๆกัน ที่เคยทะเลาะกัน มันไม่ทะเลาะกันแล้ว ทุกวันนี้บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพด้วยซ้ำไป ถ้าผู้นำฉลาดพอ มันคือเรื่องกฎกติกาสากล มันคือระเบียบโลก ยิ่งประเทศเล็กๆอย่างพวกเรายิ่งต้องฉลาด สามารถทำให้ประหยัดงบกองทัพ วันนี้จะมาหาคำตอบกันว่าเราจะทลายทุนทหาร อะไรคือขุนทรัพย์สีเขียว” นายพิธากล่าว

นายพิธา กล่าวต่อว่า ทหารปัจจุบันมีไว้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และพื้นที่ที่เป็นที่ดินกองทัพมากที่สุดคือกาญจนบุรี จากนี้ไม่มีไกลมีตำบลท่าเก่า มีโรงสูบน้ำเพื่อพี่น้องประชาชน งบ 33 ล้านบาท แต่สูบน้ำไม่ได้สักหยด เพราะอยู่ในที่ดินทหาร พี่น้องประชาชนอยากจัดการขยะ ทำไม่ได้เพราะเป็นที่ดินของทหาร โชคดีได้ ส.ส.ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ทวงคืนมาแล้วกว่า 100 ไร่ หลังจากรับหนังสือร้องเรียน

นายพิธา ระบุต่อว่า ที่ดินราชพัสดุ มี 12 ล้านไร่ ครึ่งหนี่งเป็นของกองทัพทั้งสิ้น กว่า 5 ล้านไร่ เพิ่งทวงคืนได้มาไม่กี่ไร่ ซึ่งที่ดิน 5 ล้านไร่ ทหารเอามาบริหารจัดการ พอมีที่ดินก็เอามาทำอสังหาริมทรัพย์ ปั๊มน้ำมันทั่วประเทศไทย 150 แห่งมาจากธุรกิจของเสนาพาณิชย์ ของทหารทั้งสิ้น โดย 70% ของปั๊มน้ำมัน ปล่อยเช่าให้เอกชน แต่งบประมาณไม่เคยเข้าหลวงเลย เข้ากองทัพอย่างเดียว

ช่วงหนึ่ง นางอมรัตน์ ขึ้นปราศรัย กล่าวว่า นายพิธาจบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด อันดับหนึ่งของโลก เราจะดันให้เป็นนายกรัฐมนตรี ดีกว่าคนที่บอกว่าไม่รู้ๆๆ

“การที่พรรคก้าวไกล ไม่ใช่เป็นคนหน้าอย่างหลังอย่าง ปากบอกแบบนี้ แต่กั๊กๆ ไม่รู้จะให้อิ๊งอิ๊งยังไง อิ๊งอิ๊งอะไรอย่างนี้ เอ๊ะ จะไปร่วมกับพรรคลุงป้อม แล้วจะเป็นร่วมกับพรรคลุงตู่ พรรคก้าวไกลไม่ทำอย่างนั้น และขอให้สัญญาไว้ตรงนี้ว่าพรรคก้าวไกลจะไม่เล่นการเมืองแบบตบจูบค่ะ ต่อหน้าสื่อมวลชนตบกัน ลับหลังไปกินกาแฟ”

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ลงพื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ร่วมเดินหาเสียงกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จ.ขอนแก่น ที่ตลาดน้ำพอง ก่อนร่วมเปิดเวทีปราศรัยที่วัดโพธิ์ศรีโคกสูง ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

โดยกล่าวว่าพูดเรื่องยากๆ ให้สั้นง่าย ต้องเก็บภาษีคนรวยมาดูแลคนจน ยกตัวอย่างเก็บภาษีนิติบุคคลของบริษัทขนาดใหญ่ ก็เพิ่มภาษีบริษัทขนาดใหญ่ซะ ปัจจุบัน ภาษีนิติบุคคล 20% เพิ่มเป็น 23% จะได้มีงบประมาณเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างปฏิรูปสิทธิ BOI ที่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้ บริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยอย่างบริษัทผมนะครับ ลงทุนเป็น 500 ล้าน ลงทุนเป็นพันล้าน ไม่เสียภาษี ท่านเปิดร้านส้มตำตรงนี้เสียภาษีไหมครับ ลูกหลานอยากเปิดร้านกาแฟ เสียภาษีไหมครับ เสีย แต่คนรวยลงทุนไม่เสียภาษี นี่คือความไม่เป็นธรรม คนรวยถึงรวยขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ด้านขณะที่บนเวทีปราศรัยนายสนธยา คุณปลื้ม ก่อนกล่าวว่าพวกเรามาอยู่ที่นี้จนล้นหลาม วันนี้เรามาจากทั่วทุกมุมของชลบุรี มาร่วมกันทำให้ชลบุรีแลนด์สไลด์ เพราะฉะนั้นต้องเข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เพื่อเอาชีวิตและความรุ่งเรืองของเรากลับคืนมา มีหลายคนถามว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของตนที่กลับมาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ก็เหมือนกับปี 2548 ในพรรคไทยรักไทยที่ทำได้ถึง 377 เสียงทั่วประเทศมาแล้ว ดังนั้นการที่เรากลับมาเพื่อที่จะรวมพลังให้เห็นว่าสิ่งที่เราเคยทำได้ทำมาตลอดเป็นผลงานที่ชัดเจน ไม่ว่าจากทีมบริหาร มาจนถึงทีมงานในจังหวัดชลบุรี ซึ่งก็ได้คัดสรรมาให้ประชาชนได้กาในคูหาอย่างไม่สงสัย ทั้ง 10 คน 10 เขต

นายสนธยา เล่าว่าในวันแรกที่ตนเข้าสู่การเมืองเมื่อปี 2535 ตนใช้คำว่าจริงใจพัฒนา มาจนถึงวันนี้ ตนขอใช้คำว่าพูดจริงทำจริงทำได้จริง นี่คือสิ่งที่ทำให้เห็นว่าความว่าจริงนั้นมีความหมาย นี่คือสิ่งที่ตนอยากจะมาพูดวันนี้ว่า ทั้งที่ตนเคยโพสต์ก็ดีหรือให้สัมภาษณ์ก็ดี เช่น การที่ตนเคยโพสต์ลงเฟซบุ๊กเตือนบุคคลคนหนึ่งในวันที่ 9 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา ว่า "บางคนพูดโกหกโดยคิดว่าคนที่รู้ว่าโกหกมีน้อย โกหกก็คือโกหก อย่าคิดว่าพูดบ่อยๆ มันจะเป็นเรื่องจริงได้ อย่าสนุกปากจนมากเกินไป"

ตนอยากจะเตือนบางคนที่แม้กระทั่งที่มาของตัวเองก็ยังโกหก ทุกคนต้องรู้ที่ไปและไม่ลืมที่มาด้วย ถ้ารู้ที่ไป แต่ที่มากลับปรุงแต่งทุกเรื่อง เขาต้องเรียกว่า ให้ไปที่ชอบที่ชอบ ใช่หรือไม่

เรื่องนี้ตนจะนำมาพูดในวันนี้ให้ฟังพร้อมๆกันที่จังหวัดชลบุรี ว่ามีอยู่คนนึงที่ไม่พูดถึงที่มาของตัวเองหลังจากได้หัวโขนดำรงตำแหน่งเสนาบดี ไปเล่าว่าตัวเองไปประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุ 27-28 ปี ซึ่งในคลิปนั้นมีพิธีกรถามคำถามว่าแล้วเข้ามาอยู่กับกำนันเป๊าะ (สมชาย คุณปลื้ม) ได้อย่างไร ขอให้ทุกคนฟังตนวันนี้และไปเปิดดูเทปในวันนั้นได้เลย คนๆนั้นตอบว่า เรื่องมันมาบรรจบกันเพราะว่าลูกน้องระหว่างตนกับกำนันเป๊าะ อาจจะมีปัญหากัน และกำนันเป๊าะได้ตามมาอยู่ด้วยจะให้เป็น สท. แต่เป็นเรื่องโกหกความจริงมันมีอยู่แล้ว

ซึ่ง 20 ปีที่แล้ว กำนันเป๊าะประมาณ 64-65 ปี คนนั้นอายุ 27-28 ปี บอกว่าลูกน้องมีปัญหากับลูกน้องกำนันเป๊าะ มันจะจริงได้อย่างไร แต่ความเป็นจริงคนนั้นพยายามจะเข้ามา เพื่อที่จะแปะยี่ห้อกำนันเป๊าะมาเป็นลูกน้องกำนันเป๊าะ ตนอยู่กับพ่อมาตลอดทำไมจะไม่เห็นว่าใครเข้ามายังไงแบบไหน ทำไมการที่ต้องบอกที่มาว่ามีคนนำมาฝากไว้ มันน่าอายด้วย จึงต้องแต่งเรื่องขึ้นมา

ดังนั้นการเลือกผู้นำ ก็ต้องดูว่าบุคคลคนนั้นมีความจริงใจด้วยหรือไม่ และในการเลือกตั้งจังหวัดชลบุรีครั้งนี้จะต้องเลือกเพื่อไทยทั้ง 10 เขตให้แดนสไลด์ เพื่อให้เพื่อไทยแลนสไลด์ทั้งประเทศ

ด้าน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยที่จังหวัดชลบุรี ว่าแม้อายุครรภ์จะใกล้ครบ 8 เดือนแล้ว แต่ยังพร้อมเดินทางมาพบปะกับพี่น้องชาวชลบุรี พร้อมเล่าถึงความประทับใจต่อพี่น้องชาวชลบุรีว่าเมื่อปี 2549 เคยมีโอกาสมาฟังคุณพ่อ(นายทักษิณ ชินวัตร) ปราศรัยที่ชลบุรี แม้วันนั้นฝนจะตกหนักแต่พี่น้องประชาชนก็ยังคงตั้งใจฟังไม่ทิ้งกันไปไหน คอยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเสมอมา

ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคฯ รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่นำ "สันติภาพ สู่ สันติสุข" ที่จังหวัดนราธิวาส

โดย นายจุรินทร์ ประกาศว่าวันนี้กล้าพูดอย่างไม่อายว่า มาหาเสียง แม้หลายคนยึกยัก ไม่กล้าพูดว่ามาทำอะไร พร้อมขอโอกาสในการเลือกตั้งครั้งนี้จากชาวนราธิวาส ให้เลือกผู้สมัคร และเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งคน ทั้งพรรค ทั้งบัตร 2 ใบ ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะยกนราธิวาสทั้ง 5 เขตการเลือกตั้ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนนโยบายนำสันติสุข กลับคืนสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการพูดคุย เพื่อสร้างสันติภาพ และคืนสันติสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ให้ได้

ทั้งนี้ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในวันที่ 2 เมษายนนี้ จะมีการปราศรัยใหญ่ของพรรค หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภา มีการประกาศราชกิจจานุเบกษา ส่วนจะเป็นวันไหนขอให้รอการประกาศตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้แจ้งไว้

อย่างไรก็ตามหลังการยุบสภา บรรยากาศการเลือกตั้งจะยิ่งคึกคักมากยิ่งขึ้น พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมเดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มที่เพื่อส่งต่อนโยบายของพรรคทั้งหมดให้เข้าถึงประชาชน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ได้ย้ำแล้ว ว่า การเลือกตั้งเป็นการกำหนดอนาคตประเทศ สุดแล้วแต่ประชาชนตัดสินใจ ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติมั่นใจว่า ตลอดระยะเวลาการบริหารประเทศภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ ทำนโยบายที่มุ่งประโยชน์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

กรณีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต พร้อมประกาศแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาหนี้สิน ล้างรัฐธรรมนูญสืบทอดการรัฐประหาร สางปัญหาสะสม 8 ปีให้เบาบางว่า ทิศทางประเทศได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว การที่พรรคเพื่อไทยหวังสร้างปาฏิหาริย์ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เพื่อเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวครองเสียงข้างมากในสภาเป็นครั้งที่ 3 คงไม่เกิดขึ้นเพราะแต้มบุญหมดแล้ว เหลือแต่การชดใช้กรรมที่ทำทิ้งไว้กับประเทศชาติ การขอโอกาสเข้ามาบริหารประเทศเพื่อสะสางปัญหา 8 ปีให้เบาบาง

ต้องบอกว่า ปัญหามันเบาบางลงไปแล้วหลังจากที่รัฐบาลพลเอกยุทธ์เข้ามาบริหารพลิกฟื้นประเทศให้หลุดพ้นชะตากรรมจากเศษซากที่อดีตรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทิ้งไว้ ตอนนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเรียกขวัญและกำลังใจสมาชิกพรรคและแฟนคลับ โดยพยายามดึงทั้งอดีตรัฐมนตรี ส.ส. และนักธุรกิจ เข้ามาเพื่อเพิ่มความหวังลมแล้ง ๆ ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งทุกคนรู้ทันหมดแล้วและไม่มีใครอยากหวนคืนอดีตที่ทำให้ประเทศบอบช้ำ

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/u-X2dhFgPGA