เลือกตั้งและการเมือง

'อนุทิน' เมิน 'ชูวิทย์' โจมตี เย้ย ภท.เปรียบเหมือนภูเขาทอง - 'เสรีพิศุทธ์' แนะกองเชียร์ รบ.เลือก 'บิ๊กป้อม' ดีกว่า 'บิ๊กตู่'

โดย weerawit_c

19 มี.ค. 2566

136 views

วานนี้ (18 มี.ค.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยุบสภาว่า จริงๆแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เตรียมที่จะประกาศยุบสภาแล้ว เท่าที่ตนทราบมา ขณะนี้พระราชกฤษฎีกามีแล้ว เพียงแต่รอลงนามรับสนอง และประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น เวลาที่เหลืออยู่ คือวันที่ 20-22 มี.ค. แต่ก็มีหลายกระแสข่าวบอกว่าเป็นวันที่ 20 มี.ค.

แต่ผมฟังจากรัฐมนตรีที่ใกล้ชิดบอกว่า จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นครั้งสุดท้ายอีกวันหนึ่งคือวันที่ 21 มี.ค.และคาดว่าจะประชุมจนถึงเวลา 16.00 น. และจะประกาศประราชกฤษฎีกายุบสภาในสองวัน คือ วันที่ 21 มี.ค. หรือวันที่ 22 มี.ค. แต่เราก็ไม่ได้กังวลว่าเขาจะประกาศหรือไม่ประกาศ ผมรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีการเลือกตั้งแน่นอน ซึ่งวันเลือกตั้งก็น่าจะเป็นวันที่ 14 พ.ค.

ขณะที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามงานตามนโยบายของรัฐบาล ณ จังหวัดภูเก็ต ติดตามความพร้อมการเตรียมการของประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน Expo 2028 Phuket Thailand ณ พื้นที่บ้านท่าฉัตรไชย ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางมาไปยังชุมชนบ้านกิ่งแก้ว เทศบาลตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต เพื่อตรวจติดตามการใช้พื้นที่ป่าชายเลน ภายใต้โครงการ “ป่าในเมือง” ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระบบนิเวศป่าชายเลน เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต

ต่อจากนั้น ภาคบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต เพื่อรับฟังการนำเสนอวิสัยทัศน์ เรื่อง “อันดามันพร้อม”

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดตัวผู้สมัครส.ส.กทม.ครบทั้ง 33 เขต ว่า สำหรับพื้นที่กทม.เราทำงานเต็มที่ โดยผู้สมัครทุกคน ลงพื้นที่ทุกวัน ขณะที่ผู้บริหารพรรค ก็สลับกันพบปะชาวบ้าน ปราศรัยย่อยตามชุมชนต่างๆ ซึ่งจากการลงพื้นที่ เห็นว่าประชาชนให้การตอบรับที่ดีขึ้น และชื่นชมนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ล้วนเป็นประโยชน์กับประชาชน ทั้งเรื่องการดูแลสุขภาพ และเรื่องการลดค่าใช้จ่าย

ส่วนเมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่ยังโจมตีพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะพื้นที่กทม.กังวลว่าจะส่งผลต่อคะแนนนิยมหรือไม่ นายอนุทิน ได้หันไปถามนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อํานวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ว่า กังวลไหม ซึ่งนายพุทธิพงษ์ ตอบกลับว่า “ไม่กังวลครับ”

โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า การจะเคลื่อนไหวอะไร ไม่มีปัญหา ตนเคยบอกแล้วว่า “พรรคภูมิใจไทยเปรียบเป็นภูเขาทอง ส่วนที่เหลือก็ไปคิดกันเอาเอง”

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ ยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมือง ประชาชนมีสิทธิที่จะกล่าวหา เพื่อให้มีการชี้แจง และสามารถยื่นเรื่องต่างๆได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยพร้อมชี้แจง แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการและกฎหมาย

ส่วนเรื่องนี้จะจบอย่างไรนั้น นายอนุทิน ย้ำว่า เมื่อไม่มีเริ่มก็ไม่มีจบ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับเส้นทางพรรคภูมิใจไทย

นายอนุทิน ยังยืนยันว่า พรรคไม่ได้สั่งให้ว่าที่ผู้สมัคร ทั้ง 400 เขต ฟ้องนายชูวิทย์ เพราะถือเป็นสิทธิของผู้สมัครแต่ละคน และไม่ได้เป็นมติหรือแนวทางของพรรค

ส่วนที่นายชูวิทย์ ประกาศว่า 400 คน ไม่สามารถมาปิดปากได้นั้น นายอนุทิน บอกว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะไม่เกี่ยวกับตนเอง

นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพมหานครกว้างใหญ่ เป็นเมืองหลวงและเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ  ถ้าคิดแบบเดิม ทำแบบเดิม ก็ได้แบบเดิม หากจะพัฒนากรุงเทพไปข้างหน้า พรรคภูมิใจ จึงขอแบ่งพื้นที่กรุงเทพฯเป็น 4 กลุ่มพื้นที่ โดยมองจากสภาพแวดล้อมและปัญหา มีกรุงเทพฯชั้นใน ,กรุงเทพฯเหนือ, กรุงเทพฯตะวันออก และกรุงเทพฯฝั่งธน เพื่อเอื้อต่อการแก้ปัญหาให้ตอบโจทย์และความต้องการของพี่น้องประชาชน

นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมกทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวปราศรัยบนเวที "พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ” ย้ำว่า “สกลธีคนเดิม” พร้อมจะมารวมพลัง พัฒนากทม.ให้ดีกว่านี้ อยากถามทุกคน “เบื่อไหมครับกับปัญหา ทั้งรถติด / ฝุ่น pm2.5 และความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยในเมือง วันนี้ไม่ต้องทนทุกข์อีกต่อไป” หากพร้อมใจวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ เลือกพลังประชารัฐทั้ง 2 ใบ ย้ำว่า จะไม่ใช่แค่ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” แต่จะ “ทำจริง ทำเร็ว และทำทันที” จึงขอโอกาสให้เรา สานงานต่อ ต่องานใหม่ ไม่ต้องเรียนรู้งาน “แม้วันนี้ยังไม่ได้จับเบอร์ แต่ผมขอเป็นเบอร์หนึ่งในใจได้ไหมครับ”

นายสกลธี กล่าวว่า เรามีไม้ตายคือ กองทุนประชารัฐพัฒนาประเทศ 3 แสนล้านบาท ที่จะพัฒนากรุงเทพฯ ขอแค่ประชาชนให้โอกาสเราได้ไปลงมือทำ มั่นใจว่าจะทำกรุงเทพฯให้ดีกว่านี้ได้แน่นอน เพราะนับตั้งแต่การเลือกต้อง ปี 2562 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นผู้จัดการตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังการทำงาน จนทำให้รัฐบาลอยู่มาได้ถึง4 ปี โดยตัวอย่างที่เห็นชัดสองเรื่องที่ทำแล้ว คือ แก้หนี้นอกระบบ และแก้ปัญหาน้ำ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศรัยบนเวที “พลังใหม่ พลังกรุงเทพ พลังประชารัฐ” ว่า ก่อนอื่นขอสวัสดีพี่น้อง ชาวกรุงเทพมหานคร และพี่น้องชาวไทยที่รักทุกคน ผมรู้สึกดีใจ และอบอุ่นที่ได้มาอยู่ท่ามกลางพี่น้องทุกท่านในวันนี้ ซึ่งเป็นการปราศรัยในกรุงเทพฯครั้งแรก ของผม วันนี้ผมมาพร้อมกับผู้บริหารและสมาชิก พรรคพลังประชารัฐ รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน เพื่อยืนยันให้พี่น้องมั่นใจว่าพวกเราพร้อมแล้ว ที่จะทำงานรับใช้ กรุงเทพมหานคร

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐตระหนักดีว่า กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์รวม เป็นหน้าตา และศักดิ์ศรีของประเทศ เราต้องช่วยกันดูแล รักษาให้สะอาด สวยงาม ปลอดภัย น่าอยู่ น่าอาศัย น่าที่จะมาท่องเที่ยว ผมและพรรคพลังประชารัฐ จะมุ่งมั่น ทำงาน ร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อพัฒนา และแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง ที่เป็นประโยชน์ กับ คนกรุงเทพฯ ปัญหาต่างๆ ทั้งในเรื่อง การจราจร ติดขัด ปัญหา ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม มลพิษ PM 2.5 การขาด พื้นที่สีเขียวน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย ระบบขนส่งมวลชน ปัญหายาเสพติดและปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย

"พรรคพลังประชารัฐจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว พร้อมกับนำนโยบายที่เป็นประโยชน์มามอบให้กับ พี่น้องประชาชน ทั้งในเรื่อง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การลดราคา น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ดูแลคนไทย ทุกช่วงวัย ทั้งเบี้ยผู้สูงอายุ แม่ และเด็ก ดูแลผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส อย่างเท่าเทียมเพื่อลดช่องว่าง ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมในสังคม ขอให้ พี่น้องประชาชนให้โอกาส พรรคพลังประชารัฐพวกเราอาสาที่จะนำความรัก ความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติ ของเราหมดเวลาที่เราคนไทยจะมาทะเลาะกันเองแล้วพวกเราคนไทย ต้องจับมือกันนำพาประเทศ ก้าวไปข้างหน้าเพื่อความสุขของคนไทยทุกคน"

ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ดร.นภาพร เพ็ชร์จินดา รองหัวหน้าพรรค เผยว่า กองเชียร์รัฐบาลถ้าเลือกเสรีรวมไทยได้ ก็ควรเลือก และแนะนำไปยังกองเชียร์ฝ่ายรัฐบาลด้วยว่าหากไม่สามารถทำใจมาเลือกฝ่ายประชาธิปไตยได้ก็ขอให้เลือกบิ๊กป้อมแทนดีกว่า เพราะเป็นคนที่สามารถก้าวข้ามความขัดแย้งได้ อย่าไปเลือกบิ๊กตู่ให้เสียของเพราะเลือกไปก็แก้อะไรไม่ได้ มีแต่ความขัดแย้ง



รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/cFQtJ2vgb0E

คุณอาจสนใจ

Related News