เลือกตั้งและการเมือง

'ชัยวุฒิ' ป้อง 'บิ๊กป้อม' โต้ 'ปิยะบุตร' อย่าจมกับอดีต ย้ำก้าวข้ามความขัดเเย้ง เน้นปรองดอง

โดย weerawit_c

5 มี.ค. 2566

36 views

เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ (4 มี.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยจุดแรก พล.อ.ประวิตร ได้แวะพบปะประชาชนที่ร้านน้ำชา บริเวณร้านน้ำชาเลขที่ 137/2 หมู่ 2 ต.ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีประชาชนและสส.นครศรีธรรมราชและว่าที่ผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช มารอรับจำนวนมาก



ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ประชาชนนั่งพักผ่อนกินน้ำชาและนั่งชมรวมแขวนนกกรงหัวจุกหรือนกหัวปรอท จำนวนนับสิบตัว ซึ่งล้วนแต่เป็นนกเสียงดีที่เคยได้รับรางวัลมาก่อน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวนครศรีธรรมราชและชาวภาคใต้ในการนั่งกินน้ำชาดูนกกรงหัวจุกหรือนกหัวปรอททุกเช้า



โดย พล.ประวิตร ได้นั่งรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ท สีขาว ทะเบียน กจ.8181 นครศรีธรรมราช เข้าบริเวณจอดหน้าร้าน ซึ่ง พล.ประวิตร ใส่เสื้อบาติกแขนยาวสีลายดอกไม้เขียว นุ่งกางเกงสแล็คสีน้ำตาล เดินทักทายประชาชนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ด้วยความคล่องแคล่ว จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้นั่งร่วมวงดื่มน้ำชา



โดย พล.อ.ประวิตร สั่งกาแฟดำมาดื่ม 1 แก้ว พร้อมกับโรตีมะตะบะจำนวน 1 ชิ้น และจากนั้นได้นั่งดูการแสดงหนังตะลุงจากเยาวชนหนังตะลุง ซึ่งจะมีบรรดาเด็กๆ และประชาชนมาขอถ่ายรูปด้วยตลอดเวลา ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะลุกขึ้นเดินไปดูราวแขวนนกกรงหัวจุกหรือนกหัวปรอดด้วยความสนใจ ซึ่งมีนกกรงหัวจุกสีขาวเผือกตัวหนึ่งที่มีราคาสูงถึง 1 แสนบาทมาโชว์ให้ พล.อ.ประวิตรชมในครั้งนี้ด้วย



ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้กล่าว เพียงสั้นๆ ว่า จ.นครศรีธรรมราช มี สส.จำนวน 10 คน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะกวาดสส.ให้หมดทั้ง 10 คนเลย หรือถ้าไม่ได้ครบ 10 คน จะให้ได้ 8 คนก็ยังดี



จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เปลี่ยนชุดขาว เพื่อเดินทางไปทำกิจกรรมแห่ห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องในสัปดาห์วันมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุของ จ.นครศรีธรรมราช



บรรยากาศที่วัด มีประชาชนมาแห่ผ้าขึ้นธาตุจำนวนมาก และได้ขอถ่ายรูปกับ พล.อ.ประวิตรตลอดเส้นทาง โดยทางทีมงานได้เตรียมผ้าสำหรับนำไปถวายให้พล.อ.ประวิตรถือเดินเข้าโบสถ์ จากนั้นก็ได้เข้าไปถวายผ้า กรวดน้ำ เพื่อเป็นสิริมงคล ออกมา ณ ลานโพธิ มีนางรำจากจากชาวบ้านออกมารำต้อนรับซึ่ง พอเอกประวิตรก็รำกับนางรำด้วย บรรยากาศการต้อนรับอันอบอุ่นของคนในจังหวัดนครศรีธรรมราช  



จากนั้นคณะของ พล.อ.ประวิตรได้เดินทางต่อไปเยี่ยมพบปะประชาชนที่ตลาด 100 ปี อำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นเดินทางเป็นประธานพิธีสมโภชผ้าพระบฏพระราชทาน ณ โรงเรียนปากพนัง ประธานในพิธีสักการะพ่อท่านม่วงก่อนเดินทางกลับมาไหว้สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดนางพระยา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ



จากกรณีที่ นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล เเกนนำ ก้าวไกลพูดพาดพิงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่จังหวัดขอนแก่น ว่า ในสโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้งแต่ว่าพลเอกประวิตรกลับเป็นสาเหตุของความขัดแย้ง ตั้งแต่การสลายการชุมนุม การทํารัฐประหาร  



วานนี้ (5 มี.ค.66) ระหว่างการลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครจังหวัดปทุมธานี ทั้ง 7 เขต นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า คุณปิยะบุตร หรือว่าพรรคการเมือง หรือบางคนก็อาจจะยังจมอยู่กับอดีต วันนี้เรื่องการัฐประหารหรือความขัดแย้งต่างๆมันก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเกิน 8 ปีแล้ว บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เป็น 10 ปีแล้ว



วันนี้ที่ท่านพลเอกประวิตรพูดคือว่าเราไม่อยากพูดถึงอดีต พูดถึงอนาคตที่เราจะต้องก้าวข้ามมันไป มาทํางานร่วมกัน อะไรที่ดี อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ที่มันไม่ดี อะไรที่มันไม่เหมาะสมเราก็รีบแก้ไขไม่ใช่เอาเรื่องของการเมือง เรื่องของความขัดแย้ง แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย มาเป็นตัวตั้ง อะไรที่ถือเป็นเรื่องที่ดีแต่อยู่ฝ่ายตรงข้าม คุณก็จะคัดค้าน มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง



ตนอยากให้เรามองที่ประชาชน เป็นศูนย์กลาง เรามาช่วยกันแก้ปัญหาให้ประชาชน นั่นคือความหมายของการก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ถามว่าบางเรื่องที่เราเห็นไม่ตรงกัน เราก็เห็นไม่ตรงกันเหมือนเดิม อย่างเช่นบางเรื่องที่เขาจะไปแก้กฎหมาย ม.112 เราไม่เห็นด้วย เราก็ไม่เห็นด้วยเหมือนเดิม แต่ว่าเราก้าวข้ามในเรื่องของความขัดแย้งก็คือ เราจะไม่ทะเลาะกันด้วยเรื่องที่ไร้เหตุผล ก็ถ้าเขาไม่อยากปรองดองก็ไม่เป็นไร พวกเราปรองดองกันได้ก็เป็นเรื่องของพวกเรา ใครที่เห็นด้วยกับเรา อยากปรองดองกับเรา อยากทํางานร่วมกับเราเข้ามาทํางาน ถ้าคุณเห็นว่าคุณปรองดองกับเราไม่ได้ คุณไม่อยากอยู่ด้วยก็ไม่เป็นไร ก็เป็นประชาธิปไตยใช่ไหม



ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะอยากจะอยู่กับใคร อยากจะทํางานร่วมกับใคร แต่ไม่ใช่หวังว่าคนอื่นเขาทํางานร่วมกันได้ แล้วคุณมองว่าคนที่เขาอยู่ร่วมกัน เป็นคนไม่ดี อยู่กับคุณดีหมด มันก็ไม่ใช่ มันก็ต้องดูว่า ถ้าคนอื่นเขาอยู่ร่วมกันได้เป็นเสียงข้างมาก เขาปรองดองกันได้ ทํางานให้ประชาชนได้ ประเทศก็เดินไปข้างหน้า คุณไม่เห็นด้วย คุณเป็นเสียงข้างน้อย คุณก็ต้องยอมรับกติกาตามประชาธิปไตยก็ให้การเลือกตั้งเป็นคําตอบแล้วกัน


https://youtu.be/8ZU-zLzy7pc

คุณอาจสนใจ

Related News