'บิ๊กตู่' ปราศรัยครั้งแรกที่ชุมพร ประกาศพลิกโฉม ปท.ใน 2 ปี ถ้าได้อยู่ต่อ

วานนี้ (28 ม.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีมีพระราชกฤษฎีกาโปรดเก้าโปรดกระหม่อมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการเลือกตั้งและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ใกล้ยุบสภาแล้วหรือไม่ นายกฯ บอกว่า “ยังหรอก”



เมื่อถามว่า ต้องให้เวลา คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เตรียมพร้อมเรื่องแบ่งเขตหรือไม่ นายกฯ พยักหน้า และเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยุบสภาเมื่อไหร่บอกด้วยนะ นายกฯ ยิ้มรับ จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้ขึ้นเครื่องบินพาณิชย์กลับกรุงเทพมหานคร



ขณะที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชวาลล์ คงอุดม นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษา ได้เดินทางโดยเครื่องบินพาณิชย์ ไฟลท์ FD2536 มายังท่าอากาศยานชุมพร เพื่อปราศรัยบนเส้นทางการเมืองครั้งแรก



ทั้งนี้ เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง เดินมาตามช่องทางปกติ เพื่อขึ้นเครื่องที่ เกท 42 ซึ่งในระหว่างเดินเข้าเกท มีประชาชนยืนมองแบบงงๆ ว่าใช่นายกฯ หรือไม่ โดยนายกฯ ได้โบกมือทักทายให้ประชาชน พร้อมบอกว่า ไปชุมพร ไม่ตื่นเต้น เพราะไปติดตามงานด้วย ซึ่งเมื่อต้องเดินผ่านประตูเกท 42 ต้องแสดงตั๋วและบัตรประชาชน แต่นายกฯ เดินตัวปลิว ลืมยื่นตั๋วและบัตรให้เจ้าหน้าที่ เพราะเคยชินกับการเดินทางด้วยเครื่องบินทหาร



โดยคุยกับสื่อแก้เขินว่า ไม่ได้ตื่นเต้น ที่ไม่ได้เดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์หลายปี ส่วนการขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกจะมีเซอร์ไพรส์หรือไม่ นายกฯ ย้อนว่า “เซอร์ไพรส์อะไรล่ะ”



เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่า เป็นการปราศรัยจากใจ นายกฯ บอกว่า ไม่หรอก ใจฉันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เมื่อสื่อถามว่า เตรียมคำพูดจะไปพูดกับชาวชุมพรอย่างไร นายกฯ ย้ำว่า “ก็พูดจากใจ” เมื่อถามต่อว่า ได้เตรียมภาษาใต้มาพูดเยอะหรือไม่ นายกฯ บอกว่า ก็พอพูดได้ แต่คงไม่ได้พูดอะไรมาก เราไม่ใช่เจ้าของภาษา แต่เป็นคนไทยด้วยกัน ใช้ภาษาอะไรก็คุยกันได้



ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เวทีปราศรัยมีการจัดเก้าอี้ไว้ถึง 13,000 ที่นั่ง ตื่นเต้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ปกติ ผมพูดกับประชาชน 70 ล้านค้นอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้มารวมในที่เดียวกัน” พร้อมย้ำ จะเวทีใหญ่หรือเล็กก็พูดจากใจ



จากนั้น นายกฯ ได้เดินขึ้นเครื่อง รับไหว้ทักทายกับแอร์โฮสเตทที่ยืนต้อนรับ พร้อมระบุว่า “ปลอดภัยนะลูก” ก่อนที่จะเดินเข้ามาหาที่นั่ง แต่เดินเลยที่นั่งแถว 1A จนนายพีระพันธุ์ และสื่อ บอกว่า นายกฯ นั่งแถวหน้า โดยนายกฯ พูดแก้เขินว่า มาเครื่องแบบนี้ ก็ต้องไปแบบนี้แหละ ขณะนายเอกนัฏ แซวว่า หรือจะไปนั่งห้องกัปตัน ซึ่งนายกฯ ตอบกลับว่า “เคยขึ้นแล้ว”



และทันทีที่ พลเอกประยุทธ์ เดินทางมาถึงจังหวัดชุมพร เดินเข้าในอาคารผู้โดยสาร มีประชาชนมารอต้อนรับแน่นสนามบิน มอบดอกกุหลาบ พวงมาลัยดาวเรือง พร้อมตะโกน “ลุงตู่สู้ๆ” “รักลุงตู่” ทำเอาเจ้าตัวยิ้มปลื้ม หน้าบาน ทะลุแมส พร้อมจับมือทักทายประชาชน



จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นปราศัย ขอบคุณชาวชุมพร ประกาศพร้อมพลิกโฉม ประเทศชาติ บอกถ้าได้อยู่ต่อ ไม่ลืมคำสัญญา จะพลิกโฉมประเทศไทยทำให้ดีขึ้นได้ใน 2 ปี วันนี้เราได้สร้างโอกาสที่เท่าเทียม และสร้างความเป็นธรรม อย่างเช่น บัตรสวัสดิการ แห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง จะสานต่อ ถ้าได้อยู่ต่อ ทำให้ดีกว่าเดิม



สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องการความต่อเนื่องในการทำงานเพราะต้องต่อจิ๊กซอว์ ภาพใหญ่ของประเทศ เป็นพื้นดิน มีฟ้า มีภูเขา นี่คือประเทศไทย เพราะถ้ามองประเทศไทยเป็นขวานด้ามหนึ่ง นั่นคือขวานทอง หากไม่มีด้าม ก็เป็นสากกระเบือเท่านั้นเอง พร้อมขอโทษที่พูดไม่สุภาพ แต่นั่นคือความจริง เพราะนั่นคือด้ามขวาน ไม่เช่นนั้นไปไม่ได้ ตนให้ความสำคัญกับทุกภาค มีการไปพูดถึงยุบสภา แต่วันนี้ตนมาในนามนักการเมือง จำเป็นต้องพูดด้วยความระมัดระวัง ท่านก็ต้องช่วยระวังให้มากด้วย ที่ผ่านมาตนทำโครงการเกิดขึ้นทุกจังหวัด มากกว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมา แต่ยังไม่แล้วเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าได้อยู่ต่อจะทำ



พล.อ.ประยุทธ์ ยังยกความสำเร็จจากการสร้างความสัมพันธ์ กับประเทศซาอุดิอารเบีย ที่ตนเข้ามาทำสำเร็จในรอบ 34 ปี และจะมีการลงทุนร่วมกันกว่า 3 แสนล้านบาท หลายประเทศอยากมาลงทุนในประเทศไทย มาพบผมอยากลงทุนเป็น 100 กว่าโครงการ มีระเบียงเศรษฐกิจ



“ผมจะทำทกอย่างให้ดีที่สุด นี่คือคำสัญญาของผม ผมคิดว่าการหาเสียงครั้งนี้ไม่ใช่การเกทับ บลัฟ แหลก แจกของ ประเทศไทยประกอบไปด้วย แผ่นดิน ผืนน้ำ อากาศ และคน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว



พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกด้วยว่า จะพยายามทำสิ่งเก่าและสิ่งใหม่ให้สำเร็จภายใน 2 ปี แต่ไม่ใช่ว่าพรรคนี้จะอยู่แค่ 2 ปี เพราะเป็นพรรคการเมืองแล้วต้องทำให้มั่นคง แต่ความตั้งใจของตน ตั้งใจทำให้ดีที่สุดตามกติกาของกฎหมายรัฐธรรมนูญในขณะนี้



อย่างไรก็ตาม ระหว่างนายกรัฐมนตรี ปราศรัยเรื่องนโยบายอยู่บนเวที มีประชาชนคอยส่งเสียงเชียร์ จึงชวนมาสมัครสมาชิกพรรค พร้อมกันน้ันได้บอกว่า ที่อ่านอยู่ไม่ใช่อ่านโพย แต่ตนเขียนเอง โดยย้ำถึงนโยบายขนส่งสาธารณะ ที่จะมีรถไฟทางคู่ และการขนส่งสินค้าทางการเกษตร และมีความคิดจะเชื่อมแลนด์บริดจ์ไประนอง ก็อยู่ในความคิด รวมถึงการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน คทช.ทำไปแล้ว เตรียมไว้ 6 ล้านไร่ ก็ทำไปได้กว่าครึ่งหนึ่งแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8LItKiJTJv8