คุมตัว 'ปริญญ์' ฝากขังผัดแรก ยืนยันบริสุทธิ์ ทนายตั้มเผยมีผู้เสียหายถอนตัวจริง

คุมตัว 'ปริญญ์' ฝากขังศาลผัดแรก ยืนยันตนเองบริสุทธิ์ และเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ด้านทนายตั้มเผยมีผู้เสียหายถอนตัวไปแล้วจริง

กรณี พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นัดหมาย นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทนายความ เพื่อยื่นคำร้องขอฝากขังผัดแรก ในคดีที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล โดยเหตุเกิดในพื้นที่ สน.ลุมพินี ทั้งหมด 3 คดี โดย นายปริญญ์ ได้เดินทางมาตามนัดหมาย

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 17 เม.ย.65 ตำรวจ สน.ลุมพินี ควบคุมตัว นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ขึ้นรถตู้ จากสน.ลุมพินี เดินทางไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขอฝากขังผัดแรก  ขณะที่ลงจากรถตู้ ได้ตอบคำถามนักข่าวว่า “ผมขอยืนยันความบริสุทธิ์ และขอให้เชื่อมั่นในกระบวนยุติธรรม เข้าใจว่าสื่อต้องการจะถามประเด็นใด แต่ขอให้เชื่อนในกระบวนการยุติธรรม”

ส่วนประเด็นที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม”  โพสว่ามีการเสนอเงินให้ผู้สียหายเพื่อให้หยุดเคลื่อนไหวทางคดี นายปริญญ์ ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน และเมื่อนักข่าวถามว่ารู้จักผู้เสียหายทุกคนหรือไม่ นายปริญญ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เพียงแต่โบกมือเป็นสัญญาณ คล้ายปฏิเสธที่จะพูด แล้วเดินเข้าไปในศาล

ขณะที่ทนายตั้ม ยืนยันกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า มีหนึ่งในผู้เสียหายที่ถอนตัวไปแล้วจริง ๆ โดยใช้คำว่า ไม่เอาเรื่องเอาราว น่าจะจบด้วยการรรับเงิน แต่ทนายตั้มก็ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นคดีไหน บอกว่าผู้ปกครองของเหยื่อรายนี้ขาดการติดต่อไปทันที หลังจากเรื่องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องในชั้นพนักงานสอบสวนที่ สน.ลุมพินี สนายตั้มบอกอีกว่า ต้องเป็นตัวทนายตั้มเองที่ไปติดต่อดำเนินการให้มาคัดค้านการประกันตัวผู้ถูกกล่าวหา แต่ก็ปรากฏว่าทางผู้ปกครองของน้องรายนั้น ไม่ได้มีการตอบรับกลับมาแต่อย่างใด

ขณะที่ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ได้ดำเนินการคุมตัวนายปริญญ์ มาฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ผัดแรก 12 วัน โดยเน้นย้ำว่าคัดค้านการประกันตัว เพราะมีผู้เสียหายหลายคดี เกรงว่าจะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน และผู้ต้องหามีที่พักในต่างประเทศ เดินทางออกต่างประเทศได้ง่ายและตล่องตัว จึงเกรงว่าจะหลบหนี ถ้าศาลให้ประกันตัว ก็จะขอศาลให้กำหนดเงื่อนไขว่า ห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งการจะให้ประกันตัวหรือไม่ต่อจากนี้ก็ถือว่าเป็นดุลยพินิจของศาลตำรวจไม่สามารถก้าวล่วงได้

พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 3 คดีเรียบร้อยหมดแล้ว และทั้ง 3 คดียังไม่หมดอายุความ ให้ฝ่ายสืบสวนมีการไปเก็บพยานหลักฐานและตรวจสอบตามจุดคำให้การต่าง ๆ ตำรวจมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่ ณ ขณะนี้สามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้ต้องหาได้

ทั้งนี้ ขอให้เชื่อมั่นในข้อมูลของตำรวจ หรือการทำงานของตำรวจที่ดำเนินการ ขณะที่กระแสข่าวเรื่องการวิ่งเต้นให้ถอนคดี พล.ต.ต.ไตรรงค์ บอกว่าไม่สามารถใช้ความเห็นได้ แต่ในส่วนผู้เสียหายที่มาแจ้งความแล้ว ได้ดำเนินการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องเท่าที่จะดำเนินการได้ไว้ทั้งหมดแล้ว ขณะนี้ยังไม่ผิดปกติ หรือมีการถอนตัวจากผู้เสียหายใด ๆและยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่ม

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/GJHRHmBEobA