เลือกตั้งและการเมือง
สื่อนอกตีข่าว "ทักษิณ" กลับเข้าคุก ชี้เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ตระกูลที่ครอบงำการเมืองไทยกว่า 2 ทศวรรษ
9 ก.ย. 2568
38 views
สำนักข่าวต่างประเทศเกาะติดความคืบหน้าศาลฎีกาที่มีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตรกลับเข้าเรือนจำเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยส่วนใหญ่รายงานว่า นี่เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งสำหรับตระกูลชินวัตรผู้ทรงอิทธิพลที่ครอบงำการเมืองไทยมากกว่าสองทศวรรษ
สำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชีย (Channel News Asia) ของสิงคโปร์รายงานว่า ศาลฎีกาของไทยมีคำสั่งบังคับโทษให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำคุกเป็นเวลา 1 ปี
Channel News Asia ได้รายงานการอ่านคำพิพากษาตอนหนึ่งว่า "การส่งตัวจำเลยไปโรงพยาบาลนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยทราบดีว่าอาการป่วยของตนไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน และการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่สามารถนับเป็นการรับโทษจำคุกได้" ศาลยังระบุด้วยว่า การควบคุมตัวดังกล่าวยังไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง -Channel News Asia บอกว่า ชายวัย 76 ปี ถูกตัดสินจำคุก 8 ปีในข้อหาคอร์รัปชันและใช้อำนาจในทางมิชอบ หลังจากเดินทางกลับประเทศในเดือนสิงหาคม 2566 หลังจากลี้ภัยอยู่ต่างประเทศเป็นเวลาหลายปี แต่เขาไม่เคยถูกขังในห้องขังเลยแม้แต่คืนเดียว เขาถูกคุมขังเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะย้ายไปยังห้องส่วนตัวในโรงพยาบาลตำรวจ หลังจากบ่นว่ามีอาการเจ็บหน้าอกและหัวใจ ซึ่งก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยอย่างกว้างขวางและความไม่พอใจของสาธารณชน
เช่นเดียวกับสำนักข่าวเอพีของสหรัฐฯ รายงานว่า ศาลฎีกาไทยมีคำสั่งว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จะต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ตามคำพิพากษาเดิม นอกจากนี้ ศาลก็กำลังสอบสวนว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการโดยมิชอบหรือไม่ ในขั้นตอนการรับตัวนายทักษิณกลับมารับโทษเมื่อปี 2566
เอพียังรายงานอีกว่า หลังจากที่นายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทย หลังลี้ภัยในต่างแดนนานกว่าทศวรรษ เขาใช้เวลาอยู่ในเรือนจำไม่ถึงหนึ่งวัน ก่อนจะถูกส่งตัวไปยังห้องพักพิเศษของโรงพยาบาลตำรวจ โดยอ้างเหตุผลทางการแพทย์
เอพีบอกว่า เดิมที เขาถูกตัดสินจำคุก 8 ปีจาก 3 คดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและใช้อำนาจโดยมิชอบ แต่ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือเพียง 1 ปี และได้รับการพักโทษหลังจากพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลครบ 6 เดือน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดคำถามในสังคมว่าเขาได้รับอภิสิทธิ์หรือไม่ และมีผู้คนจำนวนมากตั้งข้อสงสัยว่าเขาป่วยจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่
ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์สของสหราชอาณาจักรรายงานว่า ศาลฎีกาของไทยมีคำสั่งบังคับโทษให้นายทักษิณ ชินวัตร มหาเศรษฐีพันล้าน ต้องรับโทษจำคุก 1 ปี โดยให้เหตุผลว่า การควบคุมตัวเขาไว้ในห้องวีไอพีของโรงพยาบาลแทนการเข้าเรือนจำนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำตัดสินดังกล่าวถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งสำหรับตระกูลผู้ทรงอิทธิพลที่ครอบงำการเมืองมากกว่าสองทศวรรษ -รอยเตอร์สยังบอกอีกว่า คำตัดสินนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่อดีตนายกฯ ผู้ทรงอิทธิพล กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองครั้งใหญ่ หลังจากที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวและทายาททางการเมืองของเขา ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อ 11 วันก่อน ซึ่งนับเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 6 ที่มาจากหรือได้รับการสนับสนุนจากตระกูลชินวัตรที่ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยอำนาจของฝ่ายตุลาการหรือกองทัพ
สำนักข่าว BBC ของสหราชอาณาจักรรายงานว่า ศาลฎีกาของไทยมีคำสั่งให้อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร จำคุก 1 ปี ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความปราชัยครั้งสำคัญของตระกูลผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองตระกูลนี้ -นอกจากนี้ BBC ยังรายงานว่าในการฟังคำพิพากษาวันนี้ นางสาวแพทองธาร ได้เดินทางมากับบิดาด้วย และให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอเป็นห่วงบิดา แต่ยืนยันว่าทั้งตัวบิดาและครอบครัวยังคงมีกำลังใจดี พร้อมกันนี้เธอยังให้คำมั่นว่าจะนำพาพรรคเพื่อไทยของครอบครัวเดินหน้าทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้านต่อไป(เว็บกัมพูเชีย ทแมร์
ขณะที่สื่อกัมพูชาก็เกาะติดคดีนี้เช่นกัน โดยเว็บข่าวกัมพูเชียทแมร์ รายงานว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันอังคาร (9 กันยายน) ว่า การที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนเป็นเวลา 6 เดือน ในปี 2566 ไม่ถือเป็นโทษจำคุก โดยสั่งให้กลับเข้าเรือนจำและรับโทษตามโทษที่เหลืออยู่
มหาเศรษฐีวัย 76 ปีผู้นี้ กลับมาจากการลี้ภัย 15 ปีเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเข้ารับการพิจารณาคดีในข้อหาทุจริตและใช้อำนาจในทางมิชอบ เดิมทีเขาถูกตัดสินจำคุก 8 ปี แต่ต่อมาได้รับการอภัยโทษเหลือเพียง 1 ปี แต่แทนที่จะเข้ารับโทษจำคุก นายทักษิณกลับถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจอย่างรวดเร็ว และเข้ารับการรักษาตัวเป็นเวลา 6 เดือนก่อนได้รับการประกันตัว-คำตัดสินในวันนี้ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับทักษิณ ซึ่งหมายความว่า เขาจะต้องเผชิญโทษจำคุกอีกครั้ง ซึ่งอาจพลิกโฉมการเมืองไทย นักวิเคราะห์หลายท่านกล่าวว่า นายทักษิณใช้ความมั่งคั่งและอิทธิพลของตน เพื่อหลบเลี่ยงการรับโทษ และคำตัดสินในวันนี้ ถือเป็นการส่งสัญญานที่ชัดเจนและหนักแน่นถึงความเท่าเทียมกันทางกฎหมาย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/rNgmN-Lrf7g
แท็กที่เกี่ยวข้อง